ระทึก! น้ำป่าเขาใหญ่ถล่มรีสอร์ตน้ำตกวังตะไคร้ จ.นครนายก ราบเป็นหน้ากลอง

จู่โจมมากลางดึก นทท.หนีตายวุ่น ท่วมมิดรถนับ10 บ้านกับร้านค้าพัง หวิดซํ้า20ศพปี37

ระทึกน้ำป่าเขาใหญ่ถล่มรีสอร์ตน้ำตกวังตะไคร้ จ.นครนายก ราบเป็นหน้ากลอง รถยนต์เสียหายกว่า 10 คัน บางคันถูกซัดไปไกลกว่า 3 กม.นักท่องเที่ยวเล่านาทีหนีตายกลางดึก หลังเจอน้ำป่าไหลทะลักท่วมที่พักสูงถึงหน้าอกต้องรีบเผ่นขึ้นชั้นสอง 6 ชีวิตออกมาไม่ทันต้องใช้เชือกผูกต้นไม้โรยตัวข้ามไปอีกฝั่ง เผยปี 37 น้ำตกแห่งนี้เคยกลืนชีวิตนักท่องเที่ยวมาแล้วกว่า 20 ศพ ส่วนที่ จ.แม่ฮ่องสอน ฝนตกหนักถนนทรุดกว่า 40 เมตร สะพานถูกน้ำเซาะขาดสะบั้น รถสัญจรไม่ได้ อุตุฯเตือนรับมือฝนตกหนักอีก

เหตุการณ์น้ำป่าซัดถล่มรีสอร์ตน้ำตกวังตะไคร้และรถยนต์เสียหายนับสิบคัน เปิดเผยช่วงค่ำคืนวันที่ 16 ส.ค. เกิดฝนตกหนักในพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ทำให้น้ำป่าไหลหลากลงคลองมะเดื่อ และคลองวังตะไคร้ ต.สาริกา อ.เมืองนครนายก โดยเฉพาะบริเวณสะพานน้ำตกวังตะไคร้ที่มีที่พักรีสอร์ต โฮมสเตย์และร้านอาหารอยู่ริมธารหลายแห่ง กระทั่งเวลา 01.45 น. วันที่ 16 ส.ค. น้ำป่าไหลทะลักอย่างรุนแรงและเอ่อท่วมรีสอร์ตและรถยนต์เสียหายกว่า 10 คัน บางคันถูกน้ำท่วมจมมิดและถูกน้ำซัดไปไกล โดยมีนักท่องเที่ยว 6 คน เข้าพักในรีสอร์ตข้างร้านอู๊ดเป็นต่อชาบูไม่สามารถฝ่ากระแสน้ำหนีออกมาได้ ต้องใช้เชือกผูกต้นไม้ให้โรยตัวข้ามไปอีกฝั่ง

นายจำรัส กิ่งรัก อายุ 60 ปี เจ้าของร้านครัวป่ามะขาม เล่าเหตุการณ์ระทึกว่า เมื่อคืนฝนตกหนักหลายชั่วโมงจากนั้นช่วงตีหนึ่งน้ำป่าไหลมารวมกันในคลองวังตะไคร้เอ่อท่วมรีสอร์ตและร้านค้าที่อยู่ริมน้ำรีบตะโกนบอกให้นักท่องเที่ยวที่พักอยู่ในรีสอร์ตอพยพขึ้นไปอยู่บนชั้น 2 เพราะระดับน้ำสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว กระแสน้ำไหลเชี่ยวมาก ทำให้บ้านและรถยนต์ของนักท่องเที่ยวกว่า 10 คัน ได้รับความเสียหาย ข้าวของภายในร้านเสียหายย่อยยับ อยากฝากถึงหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องว่าเวลาเกิดเหตุฉุกเฉินแบบนี้อยากให้เข้ามาช่วยเหลือทันท่วงที เพื่อจะได้หาวิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้า รวมถึงอยากให้วางแผนแก้ปัญหาระยะยาวให้กับผู้ประกอบการร้านค้าและรีสอร์ตริมคลองวังตะไคร้ด้วย

ด้านนายวันชัย เอี่ยมศรี นักท่องเที่ยวที่ประสบภัย กล่าวว่า เดินทางมาจากกรุงเทพฯกับเพื่อน 2 คน ถึงที่พักตอนเย็นไม่มีอะไรผิดปกติ ช่วงกลางดึกฝนตกลงอย่างต่อเนื่องและแรงมาก ไม่นานมีน้ำป่าไหลทะลักเข้ามาในห้องพัก ต้องรีบเก็บข้าวของหนีตายขึ้นไปบนชั้น 2 ส่วนรถกระบะถูกน้ำซัดเสียหายทั้งคัน ผ่านไป 2 ชั่วโมง น้ำเริ่มลดลงและเข้าสู่สภาวะปกติ ขณะที่นายกายสิทธิ์ คูณรุ่งเรือง เผยว่า ทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯและบริษัทพาพนักงานมาประชุมสัมมนาที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง ขณะทุกคนอยู่ในห้องพักท่ามกลางฝนตกหนัก จู่ๆน้ำป่าไหลหลากเต็มคลองไม่ถึง 10 นาที ก็เอ่อท่วมถึงเข่าและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆถึงหน้าอก ส่วนรถเก๋งบีเอ็มดับเบิลยู สีดำ ทะเบียน 4 กก 7879 กรุงเทพมหานคร และรถยนต์ที่จอดอยู่อีกหลายคันถูกน้ำท่วมจมมิด

เช้าวันเดียวกัน นายณัฐพงศ์ ศิริชนะ ผวจ.นครนายก นำเจ้าหน้าที่ออกไปสำรวจความเสียหายและช่วยเหลือผู้ประสบภัย ตรวจสอบพบรีสอร์ตร้านค้าตั้งอยู่ริมธารถูกน้ำป่าซัดพังเสียหายหลายแห่ง รถยนต์เสียหายหลายคัน โดยเฉพาะรถเก๋งซูซูกิ สวิฟ สีขาว ถูกน้ำซัดลอยไปไกลจากที่พักกว่า 3 กม. ไปติดอยู่เนินเกาะกลางลำธารบริเวณท่าเรือพ่อแก่น หมู่ 9 ต.หินตั้ง อ.เมืองนครนายก หน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู (จุดหินตั้ง) และชาวบ้านช่วยกันใช้เชือกผูกลากรถทวนกระแสน้ำออกมาอย่างทุลักทุเล นอกจากนี้ยังพบรถกระบะโตโยต้า สีดำ ถูกน้ำป่าซัดอยู่ไม่ไกลกัน และรถกระบะโตโยต้า สีบรอนซ์ทอง จมอยู่ในลำธารหน้ารีสอร์ตภูมนตรา หมู่ 9 ต.หินตั้ง อ.เมืองนครนายก เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันลากขึ้นฝั่ง ด้านนายณัฐพงศ์กล่าวว่า สั่งการให้ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสำรวจความเสียหายเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำป่า และแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมน้ำด้านล่างระวังอันตราย เพราะมวลน้ำทั้งหมดจะไหลลงสู่ด้านล่างในแม่น้ำนครนายกภายในวันนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับน้ำตกวังตะไคร้เป็น 1 ในน้ำตกชื่อดังของ จ.นครนายก ที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว เนื่องจากมีสายน้ำธรรมชาติสวยงาม ก่อนหน้านี้เคยเกิดเหตุการณ์น้ำป่าจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ถล่มมาแล้วหลายครั้ง แต่ครั้งที่สร้างความเสียหายมากที่สุดคือ เหตุภัยพิบัติเมื่อวันที่ 25 ก.ย.2537 ขณะนักท่องเที่ยวเด็กและผู้ใหญ่หลายร้อยคนลงเล่นน้ำอย่างสนุกสนาน ถูกมวลน้ำป่ามหาศาลสูงกว่า 3 เมตรซัดถล่มกวาดนักท่องเที่ยวสูญหายไปกับกระแสน้ำ กลายเป็นโศกนาฏกรรมรุนแรงที่สุดครั้งหนึ่ง โดยมีผู้เสียชีวิตกว่า 20 ศพ

ส่วนที่ จ.ปราจีนบุรี ถือเป็นพื้นที่ที่มีแหล่งท่องเที่ยวน้ำตกจำนวนมาก โดยเพราะเขต อ.ประจันตคาม ล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้ประกาศปิดเที่ยวน้ำตกชื่อดังหลายแห่ง เช่น น้ำตกตะคร้อ (ขญ.10) มีการห้ามนักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวหรือลงเล่นน้ำบริเวณธารที่เป็นน้ำตก เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดน้ำป่าไหลหลาก หลังมีฝนตกหนักตลอดทั้งคืน เช่นเดียวกับน้ำตกธารทิพย์และน้ำตกเหวอีอ่ำ (ขญ.11) อ.ประจันตคาม ที่อยู่ในความดูแลของอุทยานฯ เขาใหญ่ เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้ขึ้นไปเล่นน้ำ ทำให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากที่ไปเที่ยวช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ต้องเล่นตามลำธารย่อยด้านล่างที่ยังมีสีน้ำปกติ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยเฝ้าระวังน้ำตกอย่างใกล้ชิด หากน้ำเปลี่ยนสีแดงขุ่นจะแจ้งนักท่องเที่ยวขึ้นจากน้ำทันที

ส่วนที่ จ.นครราชสีมา นายสุรพันธ์ ศิลปสุวรรณ นายอำเภอปากช่อง จ.นครราชสีมา แจ้งเตือนสถานการณ์น้ำป่าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมาเกิดฝนตกหนัก ประกอบกับน้ำฝนสะสมปริมาณมาก โดยเฉพาะที่หน่วยคลองอีเฒ่า วัดปริมาณน้ำฝนได้ 113 มิลลิเมตร ถือว่าตกหนักมาก คาดว่าน้ำจะไหลลงสู่พื้นที่ อ.ปากช่อง ตามเส้นทางลำตะคอง ขณะที่ถนนบนอุทยานฯ มีน้ำท่วมขังบางช่วง ส่งผลให้รถกระบะของชาวบ้านจมน้ำเสียหาย ขอให้นักท่องเที่ยวและชาวบ้านที่ใช้เส้นทางผ่านไปยัง จ.ปราจีนบุรี และภาคตะวันออก ระวังอันตราย พร้อมให้ผู้ใหญ่บ้านแจ้งเตือนชาวบ้านผู้ประกอบการในพื้นที่ริมลำตะคองตั้งแต่ ต.หมูสี ต.ขนงพระ ต.หนองน้ำแดง เขตเทศบาลเมืองปากช่อง และเทศบาลตำบลหนองสาหร่าย เตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำท่วม ล่าสุดช่วงเวลา 08.30 น. น้ำเริ่มเอ่อล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือนและสวนผลไม้บ้านท่ามะปราง ส่วนบ้านคลองเพลน้ำสูงขึ้นเกือบถึงพื้นสะพานข้ามลำตะคอง ต.หมูสี ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากน้ำท่วม

ขณะเดียวกัน นายอร่าม ทัพหิรัญ และนายโอภาส ศรีสมบูรณ์ ผช.หน.อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ พร้อมหน่วยกู้ภัยอุทยานฯ เข้าไปสำรวจน้ำป่าและนำป้ายไปติดแจ้งเตือนนักท่องเที่ยวตั้งแต่ด่านเก็บค่าธรรมเนียมเจ้าพ่อเขาใหญ่ด้าน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ให้ทราบถึงสถานการณ์ฝนตกหนักและน้ำป่าไหลหลาก หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมาฝนตกหนักตลอดทั้งคืน และเกิดน้ำป่าไหลท่วมถนนบริเวณโป่งต้นไทร ระยะทางกว่า 300 เมตร บริเวณลานกางเต็นท์ลำตะคอง และน้ำตกผากล้วยไม้ อย่างไรก็ตามน้ำป่าจะมาเร็วไปเร็วน้ำจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติในเวลาไม่กี่ชั่วโมงจะไม่เกิดน้ำท่วมขังเป็นเวลานาน อุทยานฯได้จัดชุดเฝ้าระวังและติดตามช่วยเหลือและแจ้งเตือนภัยตลอด 24 ชั่วโมง

ที่ จ.แม่ฮ่องสอน เกิดฝนตกหนักหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณป่าต้นน้ำแม่น้ำลางบ้านเมืองแพม หมู่ 5 ต.ถ้ำลอด อ.ปางมะผ้า ส่งผลให้น้ำป่าไหลท่วมบ้านเมืองแพม สะพานเชื่อมบ้านเมืองแพมกับบ้านถ้ำลอดถูกน้ำซัดขาดใช้สัญจรไม่ได้ เรือกสวนไร่นาถูกน้ำท่วมเสียหาย ที่ อ.สบเมย เจ้าหน้าที่กรมทางหลวงร่วมกับทหารพราน ร้อย ทพ.3608 สำรวจถนนทางหลวงสาย 108 เส้นทางแม่สะเรียง-เชียงใหม่ บ้านห้วยกุ้ง-จุดชมวิวเกอเจ่อโข่ ต.ป่าโป่ง กม.158-189 หลังถนนเกิดทรุดตัวหายไป 1 ช่องจราจร ลึกลงไปกว่า 20 เมตร เป็นทางยาวประมาณ 40 เมตร รถสัญจรลำบาก เจ้าหน้าที่ต้องนำกรวยยางมาวางแจ้งเตือนป้องกันอุบัติเหตุ

นายทนงศักดิ์ นิรากรณ์ ผู้อำนวยการส่วนอุทกวิทยาที่ 3 แม่ฮ่องสอน ปฏิบัติราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 1 เปิดเผยว่า ได้เฝ้าระวังติดตามฝนตกหนักและสถานการณ์น้ำในแม่น้ำ ล่าสุดแจ้งเตือนภัยที่บ้านป่ากล้วย หมู่ 8 ต.แม่สะเรียง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน หลังจากเมื่อคืนเวลา 23.10 น.ระดับน้ำเพิ่มสูงถึง 3.20 เมตร น้ำไหลเชี่ยวและเร็วเกินกว่าระดับวิกฤติที่ 2.50 เมตร จึงประกาศแจ้งเตือนประชาชนริมน้ำและลุ่มน้ำแม่สะเรียง และลุ่มน้ำยวม เขต อ.แม่สะเรียง และ อ.สบเมย เตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วมฉับพลัน

ที่ จ.พะเยา ฝนที่ตกต่อเนื่องในช่วงนี้ ทำให้น้ำในแม่น้ำปี้เพิ่มมากขึ้นเอ่อท่วมบ้าน และพื้นที่ทางการเกษตรใน อ.เชียงม่วน ส่วนใหญ่ในพื้นที่หมู่ 1, 2, 7, 9, 10 ต.เชียงม่วน บ้านได้รับความเสียหาย 25 หลัง หลังเกิดเหตุนายศักดิ์ชัย โชติมานนท์ ปลัดจังหวัดพะเยา นำเจ้าหน้าที่ไปช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนและสำรวจพืชผลการเกษตรที่ได้รับความเสียหาย พร้อมแจ้งเตือนให้ระมัดระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลัน เนื่องจากช่วงนี้ยังคงมีฝนตกกระจายและตกหนักในบางพื้นที่

ส่วนที่ จ.พังงา เกิดฝนตกติดต่อกันหลายวัน ทะเลอันดามันมีคลื่นลมแรงจากอิทธิพลมรสุมตะวันตก เฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามันและภาคใต้ฝั่งตะวันตก ส่งผลกระทบทำให้เรือข้ามฟากบ้านน้ำเค็ม-เกาะคอเขา อ.ตะกั่วป่า ต้องหยุดให้บริการชั่วคราว ด้านนายศิริพัฒ พัฒกุล ผวจ.พังงา เปิดเผยว่า ขณะนี้เกิดฝนตกหนักในทุกพื้นที่ โดยที่บ้านบางเนียง ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า มีฝนตกสะสม 24 ชั่วโมง ถึง 212 มิลลิเมตร ขอให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม ส่วนนักท่องเที่ยวที่โดยสารทางเรือให้ระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง และให้ถือปฏิบัติตามหนังสือสั่งการของจังหวัดอย่างเคร่งครัด

เมื่อวันที่ 17 ส.ค.กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่า หย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศลาวและเวียดนามตอนบน ขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยตอนบนเริ่มมีกำลังอ่อนลง ทำให้ประเทศไทยมีฝนลดลงระหว่างวันที่ 18-19 ส.ค. แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือตอนบน และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง ตาก พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่เสี่ยงภัยได้ สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง ทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ขอบคุณข้อมูลจาก ไทยรัฐ