ตำรวจคุมตัวมือปล้นทอง 4 ล้านทำแผน อ้างชิงทองไปใช้หนี้ค่ายา-แลกมาเสพ

(9 ก.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัว นายอัศวิน ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ร้านทองออโรร่า สาขาตั้งฮั่วเส็ง หลังถูกจับได้เมื่อคืนวันที่ 8 กันยายนที่ผ่านมา ขณะหนีไปซ่อนตัวอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ย่านงามวงศ์วาน จังหวัดนนทบุรี หลังใช้อาวุธบุกจี้ชิงทองจากร้านทองออโรร่า เมื่อวันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมา

ซึ่งตำรวจสามารถยึดทองรูปพรรณคืนได้ส่วนหนึ่ง น้ำหนักประมาณ 97 บาท จากทั้งหมด 155 บาท เงินสด 13,000 บาท อาวุธปืนจริง ขนาด 11 มม. 1 กระบอก ปืนปลอม 1 กระบอก รถจักรยานยนต์ 1 คัน และเสื้อผ้าที่ใส่วันก่อเหตุ โดยจุดแรกเป็นจุดที่ นายอัศวิน ขับรถยนต์โตโยต้าวีออส มาดูลาดเลา ในวันที่ 2 กันยายน

ต่อมาจุดที่ 2 คือจุดที่นายอัศวินขับรถจักรยานยนต์ มาก่อเหตุในวันที่ 5 กันยายน ต่อมาจุดที่ 3 คือร้านสุกี้ภายในห้าง ที่นายอัศวินมาเฝ้าสังเกตการณ์ และจุดที่ 4 เป็นบริเวณร้านทอง ซึ่งนายอัศวินลงมือก่อเหตุภายในร้าน ก่อนจะหลบหนีไป

พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า นายอัศวิน สารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุเพียงคนเดียว เพราะต้องการเงินไปใช้หนี้ค่ายาเสพติดและนำทองไปหลอมแต่ถูกโกง จึงไม่สามารถนำทองกว่า 50 บาท ที่เหลือกลับมาคืนได้ครบ ซึ่งทางตำรวจเชื่อว่าประเด็นการนำไปใช้หนี้และนำไปซื้อยาเสพติดมาเสพนั้นความเป็นไปได้ 50/50 ขณะนี้ต้องมีการสืบสวนขยายผลเพิ่มเติม เนื่องจากผู้ต้องหามีประวัติผู้ค้ายาเสพติดรายย่อยในพื้นจังหวัดชุมพร

ส่วนเพื่อนอีก 5 คน ที่อยู่ในห้องขณะตำรวจเข้าจับกุมว่ามีการจัดปาร์ตี้ยาเสพติดนั้น เบื้องต้นพบว่ามีปัสสาวะสีม่วง 4 คน แต่สอบสวนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการชิงทองในครั้งนี้

สำหรับ นายอัศวิน เคยต้องโทษคดีร่วมกันลักทรัพย์นายจ้างในเวลากลางคืน ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี เมื่อปี 2556 และล่าสุด เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ถูกตำรวจจังหวัดชุมพรจับกุม ข้อหาครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 เพื่อจำหน่ายและพยายามจำหน่าย ขณะนี้ อยู่ระหว่างประกันตัวออกมาสู้คดี ก่อนมาก่อเหตุดังกล่าวขึ้น

ขณะที่พฤติการณ์ของนายอัศวิน ได้ไปดูลาดเลาบริเวณร้านทองก่อน และเมื่อลงมือแล้วได้ขับรถจักรยานยนต์ไปที่หัวลำโพง ก่อนทิ้งเสื้อผ้าที่สวนใส่ขณะก่อเหตุ จากนั้น ให้คนขับรถจักรยานยนต์ไปทิ้งไว้ที่ตลาดคลองเตย และหลบหนีไปซ่อนตัวที่โรงแรมในจังหวัดนนทบุรี กระทั่งถูกตำรวจจับกุมได้

ขอขอบคุณข้อมูล  sanook.com