“สมคิด” เผย พูดคุยสหรัฐไม่เน้นขอสิทธิ GSP

"สมคิด" เผย ผู้ใหญ่ของสหรัฐฯเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน 2-4 พ.ย. เผย ไม่เน้นขอสิทธิ GSP ใช้เวที่หารือยุทธศาสตร์ความร่วมมือระหว่างสหรัฐฯ-ไทย 

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเข้าพบของนายไมเคิล ฮีธ อุปทูตรักษาการแทน เอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย วันนี้ ว่า ถือเป็นการเข้ามาพบครั้งแรกภายหลังการเข้ารับตำแหน่ง และทางผู้ใหญ่ของสหรัฐฯ จะมาร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในวันที่ 2-4 พ.ย. นี้ ซึ่งได้เตรียมการมาอย่างดี เพราะต้องการลงทุนกับประเทศไทย นอกจากนี้ ยังได้มีการไปสำรวจพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC และได้พบปะกับนักลงทุนชาวอเมริกัน ซึ่งส่วนใหญ่ต้องการเข้ามาลงทุนในไทยทั้งสิ้น

นอกจากนี้ ยังได้สอบถามถึงกรณีที่สหรัฐฯ ประกาศยกเลิกสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรทางการค้า หรือ GSP ซึ่งยังไม่ใช่ข้อสรุปที่สิ้นสุด พร้อมมองว่าการทางสหรัฐฯ ตัดสิทธิ GSP สินค้า เป็นมูลค่าไม่มากนัก และสิ่งเหล่านี้น่าจะพูดคุยกันอีกครั้ง ซึ่งน่าจะพูดคุยกันได้ เพราะทั้งไทยและสหรัฐฯ เป็นมิตรกันมานาน จึงอยากให้ใช้ช่วงเวลาที่ผู้ใหญ่สหรัฐฯ เดินทางเข้ามาได้หารือกับนายกรัฐมนตรี ว่าจะร่วมกันได้อย่างไรต่อไป ซึ่งในเรื่องของแรงงานที่ใช้เป็นเหตุในการตัดสิทธิ GSP ที่ผ่านมาไทยก็พยายามทำอย่างเต็มที่แล้ว แต่ทุกอย่างต้องค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งเขาก็เข้าใจ

ทั้งนี้ ผู้ใหญ่ทางสหรัฐฯ ที่จะเดินทางเข้ามา เป็นที่ปรึกษาด้านความมั่นคง ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา รัฐมนตรีพาณิชย์ รวมถึงนักธุรกิจ ซึ่งถือเป็นคณะใหญ่ จึงอยากให้บรรยากาศเป็นไปด้วยดี

นายสมคิด ยังกล่าวถึงการพูดคุยกับสหรัฐฯ ไทยคงไม่ได้มุ่งเน้นเพื่อขอสิทธิ GSP แต่อยากให้ใช้เวทีการประชุมนั้น ได้หารือยุทธศาสตร์ความร่วมมือระหว่างอเมริกากับไทย ไม่ใช่ไปดูเป็นเรื่องๆ เพราะว่าขณะนี้ประเทศไทยเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่ทุกประเทศอยากเข้ามา นอกจากนี้ ไทยก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ในข่ายที่จะต้องใช้ GSP เพราะขณะนี้ประเทศไทยจัดอยู่ในประเทศที่พัฒนาแล้ว แต่ด้วยความที่ไทยสหรัฐเป็นเพื่อนกันมานานก็ขอสิทธินี้เอาไว้ก่อน

ขณะเดียวกัน ทางสหรัฐฯ ยังสอบถามไปถึงรายละเอียดการประชุม สุดยอดผู้นำยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ อิรวดี – เจ้าพระยา – แม่โขง หรือ ACMECS ซึ่งได้ชี้แจงไปว่า เป็นกรอบความร่วมมือที่ทำให้ 5 ประเทศเป็นอนุภูมิภาคที่ร่วมมือหัน และจะศักยภาพที่สูงมาก หากอเมริกาเข้ามาในจังหวะนี้ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี ซึ่งตนอยากให้สหรัฐมองถึงอนาคต ซึ่งเขาได้ถามถึงความสนใจของจีนและญี่ปุ่นในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขง ซึ่งตนก็ตอบไปว่าใช่ พร้อมชวนให้สหรัฐมาเข้าร่วม เพราะเขาให้ความสำคัญกับภูมิภาคนี้

นอกจากนี้ นายสมคิด เปิดเผยว่า ในการพูดคุยกันกับนายไมเคิล ฮีธ อุปทูตรักษาการแทน เอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ในวันนี้ ไม่ได้มีการหารือถึงเรื่องการแบน 3 สารพิษอันตราย พร้อมยืนยันว่า ไทยเป็นมิตรกับสหรัฐฯ และตั้งใจที่จะไปลงทุนในประเทศสหรัฐฯ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะต้องพิจารณากันโดยรวม ซึ่งทางอุปทูตมีความเป็นมิตรสูง

ส่วนกรณีที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ออกมาระบุว่า ให้รัฐบาลเจรจากับสหรัฐแบบคู่ค้าไม่ใช่ลูกไล่ ซึ่งเรื่องมิตรภาพระหว่างประเทศถือเป็นเรื่องที่สำคัญ อย่าเอาประเด็นเหล่านี้มาเป็นประเด็นการเมือง ทั้งสหรัฐ จีน และญี่ปุ่น เป็นประเทศใหญ่ การที่สร้างสัมพันธ์ถือเป็นเรื่องดี ส่วนเรื่องที่ไม่เป็นธรรมต้องเจรจา ซึ่งทุกอย่างต้องเกื้อกูลกัน

ทั้งนี้ นายสมคิด ยังเปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ตั้งคณะทำงานศึกษาผลกระทบจากการใช้ 3 สารเคมีอันตราย เพราะขณะนี้ยังไม่สามารถหาสารเคมีที่จะมาใช้ทดแทนสารเคมีที่ยกเลิกได้

ขอบขอบคุณข้อมูลจาก:innnews