Social :



มหัศจรรย์ “ทุ่งโปรงทอง” ความงดงาม 360 องศา แบบฉบับ “ป่าชายเลน”

01 ส.ค. 59 18:56
มหัศจรรย์ “ทุ่งโปรงทอง” ความงดงาม 360 องศา แบบฉบับ “ป่าชายเลน”

มหัศจรรย์ “ทุ่งโปรงทอง” ความงดงาม 360 องศา แบบฉบับ “ป่าชายเลน”

มหัศจรรย์ ทุ่งโปรงทอง
ความงดงาม 360 องศา แบบฉบับ ป่าชายเลน

 

 

การเดินทางออกไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ แน่นอนว่าเป้าหมายลำดับแรกๆ นั้นคือการพักผ่อน เพราะหลายคนเชื่อว่าการเดินออกจากพื้นที่เดิมๆ ทำให้สมองปลอดโปร่ง สดชื่น และมีความสุขมากขึ้น ไม่ต้องย่ำอยู่กับเรื่องเดิมๆ สิ่งเดิมๆ ฉะนั้นการเดินทางท่องเที่ยว จึงถือได้ว่าเป็นกิจกรรมที่สำคัญอย่างหนึ่งสำหรับมนุษย์เราเลยก็ว่าได้

 

การใช้ธรรมชาติบำบัดสามารถขัดเกลาจิตใจของมนุษย์ได้จริงๆ หลายครั้งที่มนุษย์เลือกธรรมชาติในการปรับโหมดชีวิต เพราะเชื่อว่าความงดงามที่ไร้การปรุงแต่ง ช่วยชโลมจิตใจที่เหนื่อยล้าจากความวุ่นวายและกระบวนการที่สลับซับซ้อนที่เกิดจากน้ำมือของมนุษย์ได้เป็นอย่างดี

 

มีคนเคยบอกว่า ความงดงามที่บริสุทธิ์มักมาจากสิ่งที่ไร้การแต่งแต้ม ธรรมชาติก็เช่นเดียวกัน มันสวยงามเสมอ แม้บางครั้งจะถูกทำร้ายจากน้ำมือของมนุษย์ แต่กระนั้นก็ไม่สามารถบดบังความสง่างาม ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เพราะไม่ว่าอะไรจะเปลี่ยนไป ธรรมชาติ ก็ยังคงเป็น ธรรมชาติ อยู่เช่นนั้นตลอดไป

 


 

เช่นเดียวกับ ป่าชายเลน แห่งเมืองปากน้ำประแส จ.ระยอง ความงดงามของป่าชายเลนที่เต็มไปด้วยเรื่องราวมากมาย ซึ่งก่อตัวขึ้นจากพื้นที่ราว 6,000 ไร่ การดำรงอยู่ของสรรพสิ่งถูกซ่อนไว้ใต้ความสลับซับซ้อนของรากต้นโกงกางที่แผ่ขยายไปทั่วทุกสารทิศ ซึ่งมองแล้วคล้ายงานศิลปะที่ถูกรังสรรค์ขึ้นโดยฝีมือของจิตรกรระดับโลก แต่มันเป็นฝีมือของ ธรรมชาติ สิ่งมีชีวิตน้อยใหญ่เติบโตจากที่นั่น พร้อมที่จะออกเดินทางสู่โลกกว้าง ปูแสม ปลาตีน และปลานานาชนิด ล้วนเติบใหญ่ไปพร้อมๆ กันจากโคลนตม ป่าชายเลนจึงไม่ต่างอะไรกับแหล่งอนุบาลชั้นยอด

 

เรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้นบนพื้นที่ 6,000 ไร่ การเติบโตของสัตว์นานาชนิด พันธุ์ไม้หลากหลายที่ผุดทะลุโคลนตมออกมาชูช่อล้อเล่นกับแสงอาทิตย์อย่างท้าทาย เปรียบเสมือนแรงขับเคลื่อนในการใช้ชีวิตของมนุษย์ที่จมอยู่กับสิ่งปนเปื้อนของสังคม การเรียนรู้ธรรมชาติมักมีทางออกเสมอ เพราะมนุษย์เป็นเพียงธุลีหนึ่งของธรรมชาติ

 

ถึงแม้วันนี้ ป่าชายเลนในพื้นที่ของปากน้ำประแส จะลดน้อยลงไปจากเดิม เนื่องจากวัฏจักรการใช้ชีวิตของมนุษย์ที่ส่งผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อระบบนิเวศของพื้นที่ป่าชายเลน แม้จะมีการรณรงค์ ส่งเสริมให้มีการอนุรักษ์ผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์เหล่านี้ไว้ แต่ก็ไม่สามารถปกป้องรักษาไว้ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ หากวันนี้มนุษย์เรายังคงใช้ชีวิตแบบสวนทางกับธรรมชาติ

 

เมื่อมีโอกาสได้เดินทางมาชื่นชมธรรมชาติ อย่างป่าชายเลนที่เมืองปากน้ำประแส สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือ การเดินทางไปสัมผัสกับความงดงามของธรรมชาติที่สามารถจับต้องได้ที่ ทุ่งโปรงทอง ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านแสมผู้ หมู่ที่ 7 ต.ปากน้ำประแส

 

ทุ่งโปรงทอง งามอร่าม 360 องศา นี่คือคำอธิบายของพื้นที่ที่เรียกได้ว่างดงามทั้ง 360 องศาจริงๆ เพราะเมื่อการเดินทางถึงจุดหมาย คุณสามารถชื่นชมธรรมชาติที่สวยสดงดงาม สีเขียวจากสีใบของต้นโปรงเมื่อกระทบกับแสงแดด ทั้งในยามเช้าและยามเย็น สีส้มของแสงอาทิตย์ ผสมเข้ากับสีเขียวอ่อนๆ ของใบโปรง มันช่างสวยงามแบบไร้ที่ติอย่างแท้จริง และเมื่อรวมกับเรื่องราวมากมายภายใต้ร่มเงาของแสงอาทิตย์ที่กำลังเคลื่อนไหว มันช่างเป็นภาพที่ชวนให้หลงใหลซะจริงๆ

MulticollaC

 

การเดินทางเข้าสู่ทุ่งโปรงทอง เป็นเพียงสะพานไม้ทอดยาวผ่านป่าชายเลน ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร (แต่ต้องระวังนิดหนึ่ง เนื่องจากสะพานบางจุดชำรุด พื้นไม้ค่อนข้างผุและอันตรายพอสมควร) ซึ่งระหว่างทางเดิน เราจะได้เยี่ยมชมพืชพันธุ์นานาชนิดและต้นไม้ป่าชายเลนที่หลากหลาย ทั้งต้นแสม ต้นตะบูน ต้นโกงกาง และสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ที่เคลื่อนไหวอยู่เบื้องล่างของผืนป่า แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้มันทำให้เราเพลิดเพลินกับการเดินทางสู่จุดมุ่งหมาย เมื่อถึงจุดชมวิวของทุ่งโปรงทอง ซึ่งถือเป็นไฮไลต์ของผืนป่าชายเลนแห่งนี้เลยทีเดียว โดยเราสามารถชื่นชมธรรมชาติได้ทั้ง 360 องศา รอบๆ ตัว ยิ่งในช่วงที่ต้นโปรงแทงยอดสีเขียวอ่อนๆ ท้าทายกับแสงอาทิตย์ เมื่อสองสีมารวมกัน นั่นคือความงามของ ทุ่งโปรงทอง ที่เราจะได้สัมผัส ซึ่งหาดูไม่ได้จากที่อื่นๆ เนื่องจากป่าชายเลนดังกล่าวถือได้ว่าอุดมสมบูรณ์ที่สุดเลยทีเดียว


 

 

แน่นอนว่าหากวันนี้ลองได้เดินทางไปเที่ยวชมธรรมชาติที่เติบใหญ่แบบธรรมชาติ ความงดงามที่ลงตัวของสรรพสัตว์และนานาพันธุ์ไม้ที่ใช้ชีวิตร่วมกันอย่างเกื้อกูล เข้าใจซึ่งกันและกัน หากคุณเผลอยิ้มแบบมีความสุขเมื่อได้สัมผัสกับสิ่งเหล่านี้ ก็ไม่ต้องแปลกใจ เพราะหากใครได้ไปสัมผัส ก็คงเป็นแบบเดียวกันกับคุณ !

 

ความงดงามทั้งหมดไม่ได้เกิดขึ้นเพียงตาเห็นเท่านั้น แต่สามารถสัมผัสได้ถึงความรู้สึก ความรู้สึกที่เต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ ทวงทำนอง และการตัดสินใจ แม้ในบางจุดที่ขาดตกบกพร่อง ธรรมชาติก็พยายามเติมเต็มสิ่งเหล่านั้นอย่างเต็มที่ เพื่อให้ทั้งหมดกลับเข้าสู่ความเป็นธรรมชาติที่ สมบูรณ์แบบ

 

ถึงแม้วันนี้ธรรมชาติอย่างป่าชายเลนจะไม่ได้งดงามมากนัก หากเทียบกับสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ แต่สิ่งหนึ่งที่ป่าชายเลนมีให้เราได้สัมผัสอย่างแน่นอน นั่นก็คือ ความสุข ที่ไม่ว่าคุณจะมาอีกสักกี่ครั้ง ไม่ว่าวันเวลาจะเปลี่ยนผ่านไปนานแค่ไหน ธรรมชาติก็ยังยืนยันที่จะมอบความสุข ความเบิกบานสำราญใจให้คุณอยู่ดี !



               



จุด เด่น : ความงดงามของทุ่งโปรงทอง ที่ให้สีสันสวยงามสบายตา รวมถึงสภาพของป่าชายเลนที่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์

จุดด้อย : สะพานทางเดินไม้นั้นมีหลายจุดที่มีสภาพชำรุด ต้องสังเกตให้ดี เพราะถ้าดูเผินๆ อาจไม่ทราบได้ ซึ่งหากเดินเหยียบไปถูกไม้ที่ผุก็อาจเกิดอุบัติเหตุ และต้องระวังพื้นไม้ที่ลื่นเวลาเปียกน้ำฝน และในบางช่วงของเส้นทางก็ยังมีเศษขยะให้เห็นอยู่บ้าง รวมถึงเส้นทางที่แม้รถจะเข้าถึง แต่พื้นที่ก็ค่อนข้างแคบ ไม่สะดวก

บทสรุป : ถือเป็นหนึ่งสถานที่ที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย แม้จะไม่ได้มีกิจกรรมอย่างการลุยโคลนปลูกป่าชายเลน ทว่าเสน่ห์ที่ถูกรังสรรค์ขึ้นด้วยฝีมือของธรรมชาติ จึงน่าจะรับรองได้ว่า หากคุณได้มาเยือนจะมีแต่รอยยิ้มและความสุขกลับไปอย่างแน่นอน


                                                                                                                ข้อมูลจาก The TripPacker

โพสต์โดย : ครองแครง