Social :



พิษโควิด-19ทำคนตาบอดปทุมธานีเดือดร้อน ขายลอตเตอรี่ไม่ได้ วอนพักชำระหนี้ค่าบ้าน-ช่วยอุดหนุนผ่านออนไลน์

18 เม.ย. 63 10:04
พิษโควิด-19ทำคนตาบอดปทุมธานีเดือดร้อน ขายลอตเตอรี่ไม่ได้ วอนพักชำระหนี้ค่าบ้าน-ช่วยอุดหนุนผ่านออนไลน์

พิษโควิด-19ทำคนตาบอดปทุมธานีเดือดร้อน ขายลอตเตอรี่ไม่ได้ วอนพักชำระหนี้ค่าบ้าน-ช่วยอุดหนุนผ่านออนไลน์

พิษโควิด-19ทำคนตาบอดปทุมธานีเดือดร้อน ขายลอตเตอรี่ไม่ได้ วอนพักชำระหนี้ค่าบ้าน-ช่วยอุดหนุนผ่านออนไลน์


ที่บ้านเลขที่ 51/136 หมู่บ้านทัศนีย์ ต.บ้านฉาง อ.เมือง จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นที่พักของกลุ่มคนตาบอดที่มีอาชีพขายลอตเตอรี่ โดยมีนางสาวฐิติยาพร นุชนาจ อายุ 31 ปี ,นางสาวปิยธิดา โสสุด อายุ 31 ปี และกลุ่มคนตาบอดอาชีพขายลอตเตอรี่รวม 8 คน โดยแยกกันอยู่ 3 หลัง ทั้งหมดเป็นผู้พิการทางสายตาบอดสนิททั้งสองข้าง ซึ่งได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระบาดในช่วงนี้ เพราะไม่สามารถขายลอตเตอรี่ได้ เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่เริ่มประหยัดค่าใช้จ่าย ลดรายจ่ายในชีวิตประจำวัน จึงทำให้กำลังซื้อลอตเตอรี่ลดลงไปมาก ส่วนใหญ่เก็บเงินไว้ใช้จ่ายอย่างอื่นที่จำเป็นต่อการดำรงชีพในชีวิตประจำวันมากกว่า


นางฐิติยาพรฯ ผู้พิการตาบอด กล่าวเปิดเผยว่า ช่วงนี้พวกตนไม่สามารถขายลอตเตอรี่ได้เลยตั้งแต่มีโรคโควิค-19 บ้านก็ต้องผ่อนเดือนละ8,400 บาท ตอนนี้กำลังติดต่อ ธนาคารแห่งหนึ่งเพื่อขอพักชำระหนี้ ซึ่งคนขายลอตเตอรี่พิการอย่างตนเองเจ้าหน้าที่ธนาคารดังกล่าวบอกว่าไม่ได้รับผลกระทบกับไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ตนเองก็ยังงงอยู่ คนขายขายลอตเตอรี่อย่างนี้นะไม่ได้รับผลกระทบ ตอนนี้ตนเองติดต่อไปอีกครั้งเพื่อขอพักชำระหนี้ค่าบ้าน เจ้าหน้าที่ให้ไปลงทะเบียนออนไลน์ ตนเองก็ต้องหาคนลงให้เพราะตนเองมองไม่เห็น เงินทุนลอตเตอรี่กว่า 7 หมื่นบาทยังจม ไม่สามารถนำไปขายได้เนื่องจากลูกค้าไม่ค่อยซื้อลอตเตอรี่เพื่อเสี่ยงโชคกัน จึงทำให้มีจำนวนลอตเตอรี่ที่ยังขายไม่ได้เหลือจำนวนมาก


ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงสิ้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมาออกไปทดลองขายเพราะคิดว่าจะมีคนเงินเดือนออกแล้วพอจะซื้อลอตเตอรี่บ้าง แต่ก็ขายไม่ได้ จึงไม่ได้ออกไปขายอีกเลย รายได้หลักก็ลดลงเกือบเป็นศูนย์แต่ยังต้องแบกภาระ ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าผ่อนบ้านแม้จะได้รับการลดดอกเบี้ยแต่ก็ยังไม่พอค่าใช้จ่าย เพราะไม่มีรายได้หลักเหมือนเมื่อก่อน มีเพียงเบี้ยคนพิการ 800 บาท ต่อเดือน ส่วนอาชีพเปิดหมวกร้องเพลงก็ไม่สามารถทำได้เช่นกันจากพิษโควิด แต่พวกตนก็หาวิธีการหารายได้เพิ่มเพื่อให้พอมีใช้กับค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน โดยให้พี่อีกคนหนึ่งที่ตาบอดแค่ข้างเดียวและสามารถขับรถได้ ออกไปซื้อสับปะรดภูแลที่ตลาดไทแล้วนำไปขายที่ตลาดสดใกล้ ๆ บ้านกัน เพื่อให้พอมีรายได้บ้าง และประกาศขายลอตเตอรี่ออนไลน์ โดยใช้วิธีการโอนเงินออนไลน์ให้กันก่อน แล้วนำลอตเตอรี่ของลูกค้าส่งไปให้ โดยให้รถจยย.รับจ้างไปส่งให้ ซึ่งต้องขอคิดค่าส่งในราคา 40 บาท หนทางที่พวกเราจะรอดต้องประหยัดให้มากที่สุด และหาอาชีพเสริมหารายได้เข้าบ้าน


ส่วนข้าวสาร ไข่ อาหารแห้ง ของกิน ของใช้ จำนวนมาก ได้รับบริจาคจากผู้ใจบุญนำมาให้เพื่อแบ่งน้ำใจให้ พวกตนเองจึงช่วยจัดแบ่งใส่ถุง ส่วนหนึ่งแบ่งให้กับคนตาบอดที่รู้จักกันในพื้นที่ปทุมธานี เพื่อให้กลุ่มคนตาบอดด้วยกันได้มีของกินในการประทังชีวิตประจำวันอีกส่วนบริจาคให้สมาคมคนตาบอดจังหวัดปทุมธานี เอาไปแบ่งบันกันแจกจ่ายไปให้เพื่อนๆที่ประสบปัญหาจากผลกระทบโควิด-19 โดยคนตาบอดที่จังหวัดปทุมธานี มีประมาณ 1,500 คน ส่วนตนเองนั้นเก็บของไว้ใช้เองนิดหน่อย อาทิ โอวันตินซอง
Lif
สบู่ ยาสีฟันแค่พอใช้เท่านั้น ถ้าสถานการณไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)ยังไม่ยอมหยุดแพร่ระบาดหรือลากยาวไปอีกตนเองคงขายลอตเตอรี่ของงวดวันที่1เม.ย.ให้หมดแล้ว ก็จะไม่ไปรับมาขายอีก ถ้าขายลอตเตอรี่งวดนี้หมดก็จะได้เงินประมาณ7หมื่นกว่าบาท ถ้าธนาคารไม่พักชำระหนี้ให้ ก็คงจะมีเงินค่างวดส่งบ้านได้ประมาณ7เดือนส่วนเงินละทะเบียน 5,000 บาทจากรัฐบาลพวกตนเองได้รับแล้ว และขอฝากผ่านไปยังหน่วยงานต่างๆว่าคนพิการทางสายตานั้น ต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือเรื่องความสะดวกในการเข้าถึงนโยบายของภาครัฐโดยตนเองได้ข่าวมาว่า รัฐบาลกำลังจะให้เงินคนพิการอีก1,000บาทในเดือนเมษายนนี้โดยให้คนพิการไปลงทะเบียนเพื่อขอรับเงิน ซึ่งจริงๆแล้วข้อมูลคนพิการทั้งประเทศภาครัฐก็มีอยู่ในระบบอยู่แล้ว ทำไมต้องให้ไปลงทะเบียนอีก ซึ่งการลงทะเบียนแต่ละครั้งมันแสนลำบากมากเพราะพวกเรามองไม่เห็น วอนให้เห็นใจพวกเราบ้าง

นางฐิติยาพรฯ ผู้พิการตาบอด กล่าวต่ออีกว่า หากลูกค้าต้องการช่วยเหลือพวกตนเองกลุ่มคนตาบอด เราไม่ต้องการให้ท่านบริจาคเงิน แต่ขอให้ท่านช่วยซื้อลอตเตอรี่ทางออนไลน์กับพวกเรา เพราะเราต้องการขายลอตเตอรี่ตามอาชีพของพวกเราเท่านั้น ซึ่งสามารถติดต่อได้ที่ 081-8431885 และจากสถานการณ์ในช่วงนี้ ขอให้ทุกคนอดทนต่อสู้ผ่านโรคระบาดที่เกิดขึ้นนี้ไปให้ได้ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่ประสบวิกฤตโควิด ว่า อย่าเพิ่งท้อตอนนี้ทุกอาชีพลำบากกันหมด ขนาดตัวเองที่เป็นคนตาบอดปกติก็ลำบากอยู่แล้ว ตอนนี้เจอวิกฤตโควิด-19ก็ทวีคูณไปอีกหลายเท่า ชีวิตต้องดิ้นรนเพื่อให้อยู่รอดสู้ผ่านวิกฤตนี้ไปให้ได้ เข้าใจว่าทุกคนท้อแต่ขอให้กำลังใจ “ท้อได้แต่อย่าถอย ล้มได้แล้วลุกขึ้นนะค่ะ ปัดฝุ่นแล้วเดินไปต่อค่ะ”


ด้านนายเอกรัตน์ วงศ์ปรีชา ผู้พิการทางสายตาที่ได้รบผลกระทบจากสถานการณ์ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)เปิดเผยตั้งแต่วันที่25 มี.ค.ผ่านมาจนถึงวันนี้ตนเองขายขายลอตเตอรี่ได้เพียงแค่20ใบเท่านั้นเองต้องหารับผลไม้จากตลาดขายส่งมาขายที่ตลาดสดใกล้ๆบ้านเพื่อนำเงินมาใช้จ่ายในครอบครัวเพราะตนเองอยู่ด้วยกัน3คนพ่อแม่ลูก หากวิกฤตินี้ยังไม่หายไปจากประเทศตนเองคงต้องหาอะไรทำไปก่อนซึ่งตนเองก็ยังไม่รู้ว่าจะทำอะไรเพราะเราไม่ได้เป็นคนปกติเหมือนคนทั่วไป
ด้านนายวินัย ประเจริญ อายุ 40 ปี มอเตอร์ไซค์รับจ้าง วินการเคหะเอื้ออาทร บ้านฉาง อ.เมือง จ.ปทุมธานี เปิดเผยให้ฟังว่า ตนเองก็คอยช่วยเหลือกลุ่มคนพิการที่ขายลอตเตอรี่ มาตั้งแต่เกิดเหตุการณ์โควิด19 โดยนำของที่บริจาคไปส่งให้กลุ่มคนตาบอดในพื้นที่ปทุมธานี ไปซื้อของที่ตลาดมาส่งให้พวกคนพิการตาบอดไปนำขายบ้าง โดยคิดเพียงแค่ค่าน้ำมันเท่านั้น ถ้าเดินทางไปส่งใกล้ๆตนเองจะไม่คิดเงินไปส่งให้ฟรี เราต้องช่วยเหลือกันในวิกฤติอย่างนี้เท่าที่เราจะช่วยได้ ส่วนเงิน 5,000 บาทจากรัฐบาลตนเองลงทะเบียนไว้ตั้งแต่วันที่ 28 มี.ค.2563 แต่รัฐบาลตัดสิทธิไม่ให้ โดยมีขอความจากการตรวจสอบผู้รับสิทธิว่าตนเองเป็นเกษตรกร ทำให้ไม่ได้รับเงินเยียวยา ทั้งๆที่ตนเองขับมอเตอร์ไซค์รับจ้างมา 10กว่าปีแล้ว ก็ยังงงว่าทำไมถึงได้ อยากให้รัฐบาล ตรวจสอบให้ดีให้ละเอียดกว่านี้ บางคนไม่ได้อยู่ในกลุ่มที่ต้องได้รับเงินเยียวยาแต่ก็ได้รับเงิน ซึ่งตนเองรู้สึกผิดหวังมาก เงิน5,000บาทต่อเดือนมันก็สำคัญกับชีวิตความเป็นอยู่อย่างคนหาเช้ากินค่ำแบบพวกตนเองในวิกฤติเช่นนี้

กลุ่มผู้พิการทางสายตาหรือคนตาบอด เป็นอีกกลุ่มที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักช่วงไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระบาด เพราะสำหรับพวกเขาการสัมผัสมีความสำคัญต่อชีวิตอย่างมากเพราะนอกจากรายได้ที่หดหายจากการประกอบอาชีพอิสระแล้ว การต้องเว้นระยะห่างทางสังคม และลดการสัมผัสตัวกันก็ถือเป็นเรื่องยาก สำหรับผู้พิการทางสายตานั้นการสัมผัสสำคัญต่อการใช้ชีวิตอย่างมาก ปัญหาของพวกเขาในสถานการณ์ที่ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระบาดที่ อุปกรณ์ป้องกันจึงมีความสำคัญกับพวกเขาอย่างมาก แต่ก็ต้องเผชิญกับสภาพที่ไม่ต่างกับคนทั่วไป คือการเข้าถึงอุปกรณ์เหล่านี้ได้ยาก คนพิการทางสายตาหรือคนตาบอด ทั้งประเทศมีประมาณ 200,000 คน ซึ่งคนตาบอดต้องใช้ชีวิตประจำวันในการสัมผัสคนที่คอยช่วยเหลือหรือสัมผัสสิ่งของเมื่อตามองไม่เห็นย่อมไม่รู้เลยว่าคนที่เขาสัมผัสใส่หน้ากากอนามัยหรือไม่ หรือล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์หรือไม่ ถ้าวันนี้คนตาบอดมีหน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอล์ไว้ติดตัวใช้เอง อย่างน้อยก็สร้างความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวันได้มากขึ้น


ขอขอบคุณข้อมูล -สยามรัฐ 

โพสต์โดย : Ao