หาดสมิหลา ชายทะเลเมืองสงขลาซึ่งเปรียบเสมือนห้องรับแขกธรรมชาติ ที่ต้อนรับผู้มาเยือนเรื่อยมาจนปัจจุบัน หาดสมิหลาอยู่ทางตอนเหนือของชายทะเลเมืองสงขลาถัดจากแหลมสนอ่อนทอดยาวไปจรดแหลมสมิหลาที่อยู่ท้ายหาดทางด้านใต้ เป็นชายหาดสวยงามน่าเดินเล่นทรายขาวละเอียด น้ำไม่ลึกมาก เล่นน้ำได้ดี ตลอดแนวจัดเป็นสถานที่พักผ่อนทางวิ่งออกกำลังกาย จุดชมวิวที่มีทิวทัศน์ของเกาะหนู เกาะแมวเป็นฉากหลัง มีปฏิมากรรมรูปนางเงือกนั่งอยู่บนโขดหิน อันเป็นสัญลักษณ์ของสมิหลา พร้อมด้วยรูปปั้นแมวและหนูที่บอกเล่าตำนานของเกาะหนูเกาะแมวเป็นที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวตั้งใจมาเยือนเมื่อมาถึงจังหวัดสงขลา
แหลมสมิหลา หรือที่มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า แหลมหิน อยู่ในเขตเทศบาลเมือง ห่างจากตลาดทรัพย์สิน(ตลาดสดเทศบาล)ประมาณ 2.5 กิโลเมตร มีหาดทรายขาวสะอาด ทิวสนร่มรื่น หาดสมิหลาเริ่มจากถนนชลาทัศน์ที่เป็นถนนเลียบชายหาดทางฝั่งตะวันออก สมิหลาเป็นเหมือนสัญลักษณ์หนึ่งของสงขลา เป็นหาดที่ไม่มีการจับจองพื้นที่กางเตียงผ้าใบไว้บริการ สร้างทัศนะอุจาดเช่นหลายชายหาด ร้านค้าร้านอาหารจะถูกกันให้อยู่อีกฝั่งถนน
บริเวณแหลมสมิหลามีโขดหินขนาดย่อมยื่นลงทะเล หาดทรายขาวละเอียดมากที่เรียกว่า "ทรายแก้ว" มีป่าสนร่มรื่น จากแหลมสมิหลาสามารถมองเห็นทิวทัศน์อันงดงามของ เกาะหนูเกาะแมว จนมีคำกล่าวว่าใครมาเยือนสงขลาแล้วไม่มาเยือนสมิหลาก็เหมือนมาไม่ถึงสงขลา
รูปปั้น“นางเงือกทอง” สัญลักษณ์อันโดดเด่นของจังหวัดสงขลาตั้งอยู่บริเวณปลายแหลมสมิหลา นักท่องเที่ยวนิยมจะไปถ่ายภาพคู่กับนางเงือกกันเสมอ นางเงือกทองถูกสร้างขึ้นตามนิยายปรัมปราของไทยโบราณ
หาดสมิหลา อยู่ในเขตเทศบาลนครสงขลา ห่างจากตลาดสดเทศบาลเพียง 2.5 กม. การเดินทางสะดวกมีถนนเลียบชายหาดตลอดแนว
รูปปั้น“นางเงือกทอง ”
สัญลักษณ์อันโดดเด่นของจังหวัดสงขลาตั้งอยู่บริเวณปลายแหลมสมิหลา นักท่องเที่ยวนิยมจะไปถ่ายภาพคู่กับนางเงือกกันเสมอ นางเงือกทองถูกสร้างขึ้นตามนิยายปรัมปราของไทยโบราณ
จากแผ่นจารึกที่ประติมากรรมนางเงือกทอง กล่าวไว้ว่า “รูปปั้นนางเงือกนี้ สร้างขึ้นในปี 2509ตามดำริของ นายชาญ
เกาะหนูเกาะแมว
สองเกาะนี้มีตำนานว่าพ่อค้าสำเภาชาวจีนที่ล่องเรือขายสินค้าระหว่างเมืองจีนกับสงขลา ซื้อแมวกับหมาไปจากสงขลาจะกลับไปเมืองจีน เมื่ออยู่ในเรือนานๆ หมากับแมวเกิดเบื่อคิดอยากจะกลับไปบ้านที่สงขลา และรู้ว่าพ่อค้ามีดวงแก้ววิเศษที่ใครเกาะแล้วจะไม่จมน้ำ แมวจึงไปข่มขู่หนูในเรือให้ขโมยดวงแก้ว เมื่อสบโอกาสหนูลอบไปลักดวงแก้ววิเศษของพ่อค้าโดยอมไว้ในปาก แล้วหมา แมว และหนู ก็กระโดดลงน้ำว่ายจะไปขึ้นฝั่งที่หน้าเมืองสงขลา
ขณะที่ว่ายน้ำมาด้วยกัน หนูเกิดอยากได้ดวงแก้วเป็นของตนผู้เดียวจึงว่ายน้ำหนี แมวก็ไล่ตามตะครุบ ทั้งสองตัวไล่หนีกันจนในที่สุดดวงแก้วหลุดจากปากหนูไป แมวจมน้ำตายก่อนกลายเป็นเกาะแมว ส่วนหนูว่ายมาเกือบถึงฝั่งก็หมดแรงจมน้ำตายกลายเป็นเกาะหนูส่วนหมาก็ตะเกียกตะกายว่ายน้ำไปจนถึงฝั่ง แต่ก็เหนื่อยจนขาดใจตายกลายเป็นเขาตังกวนริมอ่าว ส่วนดวงแก้ววิเศษที่หล่นจากปากหนูก็แตกแหลกละเอียดเป็นหาดทรายแก้วอยู่ทางเหนือของอ่าวสงขลา
ทุกวันนี้ที่ริมหาดสมิหลามีรูปปั้นหนูกับแมวขนาดใหญ่ กำลังยื้อแย่งลูกแก้วกันอยู่ตามตำนาน
ตลอดทั้งปี