รอดด้วยมติศาลรธน. - อย่างที่ว่าเอาไว้ ตลอดเวลากว่า 10 ปีมานี้ คนไทยเราอยู่ในอารมณ์ความรู้สึกชาชินกับคำตัดสินคำวินิจฉัยโดยองค์กรอิสระในคดีทางการเมือง แบบไม่ต้องลุ้นไม่ต้องระทึกอะไรกันล่วงหน้า
ด้วยเพราะสังคมเราเป็นอย่างที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวไว้เสมอๆ คือ เราต้องเป็นประชาธิปไตยแบบไทยๆ อย่าไปเอาตามอย่างคนอื่น
ฟังแล้วก็ต้องบอกว่าใช่เลย
เกือบทุกอย่างของบ้านเรา เป็นเรื่องเฉพาะของไทยเราทั้งหมด ทั้งระบบโหวตนายกฯ ระบบความยุติธรรม ล้วนแต่มีความเป็นไทยๆ รับรองไม่มีทางเหมือนมาตรฐานสากลอย่างแน่นอน!
กล่าวสำหรับคดีบ้านหลวงในกรมทหาร ที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้กระทำผิด
เรื่องกระบวนการศาลก็เป็นส่วนหนึ่ง
แต่ในทางการเมือง ทุกคนกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่ผิดคาด!!
กล่าวกันว่า พล.อ.ประยุทธ์ รอดพ้นความผิด ด้วยคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ แต่ในแง่ความคิดเห็นของประชาชน ถือว่าเรื่องนี้ยังไม่จบตามไปด้วย ยังเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์กันมากมาย
ที่เขาพูดกันมากก็คือ ขณะที่เยาวชนคนรุ่นใหม่ออกมาเคลื่อนไหว เรียกหาการเมืองที่เป็นประชาธิปไตยแท้จริง ไม่มีกติกาที่สร้างความเหลื่อมล้ำทางการเมือง
คดีบ้านหลวง ตอกย้ำความเหลื่อมล้ำนี้หรือไม่!?
เหตุใดนายกฯที่เป็นพลเรือน มาจากนักการเมือง จึงอยู่บ้านที่ซื้อเอง เช่าเอง จ่ายเงินค่าส่วนกลางให้หมู่บ้านเพื่อจ้างรปภ.ขี่จักรยานตรวจตราเอง
ทำไมนายกฯที่มาจากการเลือกตั้ง จึงไม่ต้องมีการระแวดระวังในการคุ้มครองรักษาความปลอดภัยมากมายเป็นพิเศษ
ในกรณีของพล.อ.ประยุทธ์ การชี้แจงในศาลบอกชัดว่า ได้สิทธิ์ในการอยู่บ้านพักทหารได้
ในฐานะอดีตผบ.ทบ.ที่ทำคุณงามความดีให้บ้านเมือง หากพักอยู่นอกเขตทหาร จะเกิดความยากลำบากในการรักษาความปลอดภัย
เรื่องต้องพักเขตทหารเพื่อรักษาความปลอดภัยเป็นไข่ในหินนี่แหละ ที่ทั้งสังคมกล่าวขวัญและเป็นข้อเปรียบเทียบ!
อีกอย่างที่ชาวบ้านพูดถึงกันมาก กรณีการอยู่บ้านพักทหาร ก็ยิ่งตอกย้ำความเป็นนายกจากทหารอีกครั้ง
ทำให้นึกย้อนกันไปถึงการเข้าสู่อำนาจด้วยการรัฐประหาร
พอเป็นนายกฯ ในรัฐบาลเลือกตั้ง ก็อาศัยอำนาจพิเศษจาก 250 ส.ว.อีก
ทั้งหลายทั้งปวงฟังเสียงผู้คนเขาวิจารณ์กัน ก็ให้หนักใจแทนพล.อ.ประยุทธ์
รอดด้วยศาลรัฐธรรมนูญ แต่ไม่รอดจากความคิดเห็นประชาชน
โดยเฉพาะจากม็อบนักเรียนนักศึกษา ที่ยิ่งเพิ่มประเด็นให้เคลื่อนไหวขยายผลได้มากขึ้น!
