เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนิน พร้อมด้วย สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา และเจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี ไปในพิธีสวดเจริญมหามงคลรวมศาสนา ณ พระลานพระราชวังดุสิต สืบสานพระราชปณิธาน "ธรรมราชินี" รวมใจภักดิ์ น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ "พ่อแห่งแผ่นดิน"
โอกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญ พระพุทธมณีรัตนปฏิมากร หรือ พระแก้วมรกตน้อย มาประดิษฐานในพิธีเพื่อให้ประชาชนได้สักการะด้วย
สำหรับ พระพุทธมณีรัตนปฏิมากรหรือพระแก้วมรกตน้อยเป็นพระพุทธรูป สมัยรัตนโกสินทร์ แกะสลักจากหยกสีเขียวเข้ม เป็นพระพุทธรูปประทับนั่งแบบวัชรอาสน์ พระหัตถ์ซ้ายวางหงายบนพระเพลา พระหัตถ์ขวาวางคว่ำบนพระชานุ พระพักตร์กลม พระนลาฏแคบ พระขนงโก่ง มีอุณาโลมที่พระนลาฏ พระเนตรเหลือบต่ำ พระนาสิกโด่ง พระโอษฐ์เรียว พระกรรณสั้น พระเศียรประกอบด้วยพระเกศาขมวดเป็นก้นหอย มีเกตุมาลา และรัศมีดอกบัวตูมริ้วจีวรเป็นแบบธรรมชาติ ห่มเฉวียงบ่าเปิดพระอังสาขวา
มีสังวาลสองสายสร้างเลียนแบบพระมหาสังวาลนพรัตน์ราชวราภรณ์และสังวาลพระนพตามอย่างเครื่องต้น ประดิษฐานบนฐานไม้
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระพุทธมณีรัตนปฏิมากรขึ้น สำหรับเป็นที่สักการะบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคลในพระราชวังดุสิต ดังเช่น พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ในพระบรมมหาราชวัง
โดยสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถ กรมหลวงพิศณุโลกประชานารถ (พระยศในขณะนั้น) ทรงพบหยกสีเขียวก้อนใหญ่ในประเทศรัสเซีย รัชกาลที่ 6 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ห้างฟาร์แบร์เช่ ห้างเครื่องทองและอัญมณีประจำราชสำนักรัสเซีย เป็นผู้แกะสลักพระพุทธรูปสำคัญนี้ โดยห้างฟาแบร์เช่เป็นห้างเครื่องทองและอัญมณีประจำราชสำนักรัสเซีย ดำเนินกิจการโดยนายปีเตอร์ คาร์ล ฟาแบร์เช่
ใต้ฐานพระพุทธมณีรัตนปฏิมากร มีจารึกว่า “FABERGÉ 1914” เป็นชื่อของห้าง “ฟาแบร์เช่” และปีที่สร้างพระพุทธรูปองค์นี้ คือปี 2457
