Social :



โป้ แจงดราม่า‘บิณฑ์’ขอ 10 ล้านซื้อเสื้อชมพู ฮึ่มแจ้งกองปราบเอาผิดฉ้อโกง

14 ธ.ค. 63 11:12
โป้ แจงดราม่า‘บิณฑ์’ขอ 10 ล้านซื้อเสื้อชมพู ฮึ่มแจ้งกองปราบเอาผิดฉ้อโกง

โป้ แจงดราม่า‘บิณฑ์’ขอ 10 ล้านซื้อเสื้อชมพู ฮึ่มแจ้งกองปราบเอาผิดฉ้อโกง

เสี่ยโป้ แจงดราม่า‘บิณฑ์’ขอ 10 ล้านซื้อเสื้อชมพู รอฟังชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กภายในคืนนี้ ฮึ่มเตรียมแจ้งกองปราบเอาผิดฉ้อโกง สอบปมขอรับบริจาค

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 13 ธ.ค. ที่สโมสรราชพฤกษ์ นายสันธนะ ประยูรรัตน์ พร้อมด้วยนายเสี่ยโป้ โป้อานนท์ ร่วมแถลงกรณีร้องเรียนที่ยื่นหนังสือถึงพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ให้ตรวจสอบพฤติกรรมของบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ดาราจิตอาสา ที่ขอรับบริจาคเงินซื้อเสื้อชมพ ของโรงพยาบาลศิริราช เพื่อแสวงหาประโยชน์ส่วนตัวโดยมิชอบ พร้อมมีเอกสารหลักฐานประกอบการแถลงข่าว 8 แผ่น

ก่อนการแถลงข่าว นายสันธนะต่อสายถึงบิณฑ์ เพื่อสอบถามว่าจะมาร่วมแถลงข่าวด้วยหรือไม่ แต่บิณฑ์ไม่รับสาย

จากนั้นเสี่ยโป้ ชี้แจงไล่เรียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เรื่องราวเกิดจากตนไปเจอพี่บิณฑ์ในงานหนึ่ง ตนบอกพี่บิณฑ์ว่าจะให้เงิน 20 ล้าน เพื่อให้เขาพาคนที่อยากร่วมรับเสด็จมาให้เยอะที่สุด ใครไม่มีเงิน ไม่มีค่ารถ ให้มาเอาเงินที่ตน เพราะอยากให้คนได้มาร่วมงาน แต่เหตุการณ์ผ่านไปกว่าครึ่งเดือน พี่บิณฑ์โทรมาอยากนัดเจอ เพื่อคุยเรื่องเสื้อสีชมพูและเจอกันที่ซีคอนบางแค

พี่บิณฑ์บอกว่าขอเงินบริจาค 10 ล้าน เพื่อนำไปซื้อเสื้อชมพู ซึ่งตนก็ตกลง และถามสาเหตุว่าทำไมไม่ใส่เสื้อเหลือง เขาบอกเสื้อเหลืองเป็นเรื่องการเมือง สื่อถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พี่บิณฑ์บอกว่าไม่ชอบประยุทธ์ และอยากให้เสื้อชมพูสื่อถึงสัญลักษณ์ของสถาบัน ตนเห็นว่าเรามีอุดมการณ์ตรงกัน และเงิน 10 ล้านไม่ได้เยอะมาก

ต่อมาเป็นจังหวะเดียวกับที่ตนโดนคดีข้อหาพยายามฆ่า จึงแจ้งพี่บิณฑ์ว่าไม่สามารถออกนอกประเทศไปเซ็นเอกสารทำธุรกรรมได้ การเงินอาจจะขัดข้อง จึงโทรไปยืม "ซ้อ" 10 ล้านบาท ซึ่งซ้อถามสาเหตุว่าทำไมจึงยืม เอาไปทำบุญกับใคร ซ้อบอกว่ามีให้ 2 ล้าน จึงโทรกลับไปหาพี่บิณฑ์ว่าช่วยได้ 2 ล้าน และนัดแนะวันโอนเงินกัน


ซึ่งวันที่จะต้องโอนเงิน ตนไปเที่ยวจ.กระบี่ มีเลขาเป็นคนรับสายแทน เลขาได้คุยกับพี่บิณฑ์ว่า หากโอนไม่ตรงเวลาจะเสียเครดิต ตนจึงรีบโทรหาซ้อให้รีบโอนเงินมาให้ ไปๆ มาๆ ซ้อบอกให้โทรไปหานายสันธนะ และก็ทักท้วงว่า ทำบุญแบบนี้ได้ตรวจสอบหรือยัง จากนั้นนายสันธนะได้ขอเบอร์พี่บิณฑ์ไปคุยกันเอง หลังจากวันนั้นตนก็ไม่ได้พูดคุยกับพี่บิณฑ์และนายสันธนะ

Lif
เสี่ยโป้ กล่าวอีกว่า ตนเคยโอนเงินให้บิณฑ์ 1 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือน้ำท่วมด้วย ก็หวังในใจลึกๆ ว่าเขาจะไม่มีพฤติการณ์แอบอ้าง ตนมีอุดมการณ์ ทำบุญด้วยใจ ไม่เคยได้ผลประโยชน์จากการบริจาค และไม่เคยทำธุรกิจในประเทศไทย ถึงจะเป็นนักพนัน แต่ตนก็ไปเล่นที่ต่างประเทศ ซึ่งถูกกฎหมาย และเอาเงินมาบริจาค

ทั้งนี้ยอมตายเป็นหมาข้างถนน ดีกว่าไปเอาเงินทำบุญมากิน พร้อมฝากไปบอกพี่บิณฑ์ ว่าหากไม่ผิด ก็ให้นายสันธนะตรวจสอบ เพราะเขามีเอกสารครบถ้วน

ด้านนายสันธนะ กล่าวว่า ตนได้เบอร์นายบิณฑ์มาเมื่อวันที่ 23 พ.ย. พยายามโทรไป 3 สาย แต่ไม่มีใครรับสาย ต่อมา 25 พ.ย. เป็นวันที่นัดโอนเงิน 2 ล้านบาท นายบิณฑ์โทรกลับมา ก็ได้ซักถามถึงที่มาที่ไป ว่าจะเอาเงินจำนวนนี้ไปทำอะไร ทางบิณฑ์บอกว่าให้โอนเงินให้ 2 ล้านบาท สมทบทุนร.พ.ศิริราช

เมื่อตนฟังว่าเขาให้โอนเข้าบัญชีส่วนตัว จึงถามว่าทำไมต้องผ่านบัญชีส่วนตัว แต่เขาตอบไม่ได้ ตนจึงขอกลับมาตรวจสอบก่อน และยังไม่โอนเงินให้ พร้อมยังติงว่าการโอนเงินเข้าบัญชีส่วนตัว อาจเป็นข้อครหาได้ เขาก็บอกว่าเสี่ยโป้ รับปากกับผู้ใหญ่ไว้ จะต้องโอนเงินมา คำพูดเป็นเชิงให้ตนเข้าใจว่าเหมือนเสี่ยโป้ ติดหนี้เขา พร้อมยืนยันว่าหากเป็นการโอนเงินเข้าบัญชีของมูลนิธิ รพ.ศิริราช ทันที ตนจะไม่ติดใจแบบนี้

ต่อมา 3 ธ.ค. ตนจึงทำหนังสือไปที่ รพ.ศิริราช ว่ามีโครงการจัดทำเสื้อชมพู พร้อมตราสัญลักษณ์หรือไม่ ทางรพ.แจ้งมาว่า มีนพ.บุญ วนาสิน เป็นประธานดำเนินโครงการ ตนจึงมีหนังสือไปสอบถาม ท่านก็มีหนังสือตอบกลับมา มีใจความโครงการดังกล่าวเป็นโครงการบริจาคเงินสมทบทุนอาคารนวมินทรบพิตร 84 พรรษา

โดยคณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยลัยมหิดล เป็นผู้เสนอโครงการ ระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.- 31 ธ.ค.2563 และการบริจาคต้องโอนเงินบริจาคเข้าบัญชีศิริราชมูลนิธิ ธนาคารกรุงเทพ และในส่วนของบิณฑ์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการดำเนินการโครงการนี้

จากนี้จะรอฟังบิณฑ์ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กภายในคืนนี้ หากไม่ชี้แจง วันที่ 14 ธ.ค. เวลา 10.30 น. ตนจะไปกองปราบปราม พร้อมกับเสี่ยโป้ เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับบิณฑ์ ในข้อหาฉ้อโกง และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ให้ตำรวจสืบสวนสอบสวนถึงที่มาที่ไปการรับบริจาคต่อไป

โพสต์โดย : ต้นน้ำ