ย้ำ "ล็อกดาวน์"ไม่ใช่สูตรสำเร็จแก้โควิด หวั่นคนแตกตื่น

เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 กรณีพบผู้ติดเชื้อที่ตลาดกลางกุ้ง จ.สมุทรสาคร ว่า ขณะนี้ข้อมูล ณ ปัจจุบัน ข้อบ่งชี้การระบาดคือตลาดกลางกุ้ง จ.สมุทรสาคร ค่อนข้างชัด จากนี้จะค้นหาเชิงรุก เก็บตัวอย่างโดยใช้รถพระราชทานเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยที่ทำให้มีการเก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งเพื่อส่งตรวจหาเชื้อได้รวดเร็ว โดยตั้งแต่ 17-19 ธ.ค.2563 มีการคัดกรองคนในพื้นที่ไปแล้ว 1,935 ราย แยกเป็น ตลาดกลางกุ้ง 1,263 คน และตลาดทะเลไทย  672 คน ในจำนวนนี้มีการส่งตรวจหาเชื้อ 1,449 คน อยู่ระหว่างรอผลและจะมีการตรวจคัดกรองเพิ่มเติมอีกกว่า 3,000 คน ให้ถึงอย่างน้อย 5,000 คน เพื่อจะดูขอบข่ายโรคกระจาย และสอบถามประวัติผู้ติดเชื้อ ส่วนใหญ่เป็นชาวเมียนมา 80-90% และคนไทย 10-20%

นพ.โอภาส กล่าวว่า เราจะเอาข้อมูลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ และการสอบสวนโรคมาตีวงการระบาดว่าอยู่ในกรอบแค่ไหน และมาตรการต่อไปคือการเฝ้าระวังในพื้นที่ทั้งสถานพยาบาล ร้านขายยา ความร่วมมือของจังหวัดสมุทรสาครมีความสำคัญมาก โดยผู้ว่าราชการจังหวัดและคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดมีการออกมาตรฐานสำคัญหลายอย่างต่อเนื่อง เช่น จำกัดการเคลื่อนย้ายกลุ่มแรงงานบางกลุ่มในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร เป็นต้น  เพราะฉะนั้นจะเห็นว่าเรามีมาตรการต่างๆ ที่ลงไปและผลการดำเนินการก็จะทยอยออกไปเพื่อควบคุมสถานการณ์ ปฏิบัติการอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามต้องขอความร่วมมือจากประชาชนในการสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ล้างมือ และอย่าลืมสแกนแอพพลิเคชั่นไทยชนะ

เมื่อถามถึงหลักเกณฑ์พิจารณาล็อกดาวน์พื้นที่ นพ.โอภาส กล่าวว่า ถ้าดูจากประเทศออสเตรเลียที่มีการสั่งล็อกดาวน์ประเทศนั้นเป็นเพราะไม่สามารถจัดการและหาต้นตอการระบาดได้ ส่วนที่ของไทย ด้วยข้อมูลที่มีอยู่ตอนนี้ คือพบจุดระบาดที่ตลาดกลางกุ้ง ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการควบคุมป้องกัน อย่างไรก็ตามถ้าคุมไม่ได้ ก็ต้องมีการพิจารณาข้อดี ข้อเสียของการล็อกดาวน์ให้ดี เพราะหากไม่มีการเตรียมการให้ดี จะยิ่งทำให้เกิดการกระจายออกจากพื้นที่ เพราะคนไม่มีงานทำ ดังนั้นการล็อกดาวน์ไม่ใช่สูตรตายตัว  ที่สำคัญหากจำเป็นต้องล็อกดาวน์จริงๆ ก็ล็อกเป็นจุดๆ ที่มีความเชื่อมโยงกับสถานที่เกิดการระบาด

เมื่อถามย้ำว่า เนื่องจากใกล้เทศกาลปีใหม่ ซึ่งจะมีคนเดินทางข้ามจังหวัดจำนวนมาก ดังนั้นในช่วงเวลานี้จำเป็นต้องจำกัดคนที่อยู่ในสมุทรสาครห้ามเดินทางออกนอกจังหวัดก่อนหรือไม่ นพ.โอภาส กล่าวว่า อยู่ที่การพิจารณาของจังหวัดสมุทรสาคร

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีการระบุว่าต้นตอของโรคครั้งนี้มาจากแรงงานต่างด้าว นพ.โอภาส กล่าวว่า ข้อมูลต่างๆ บ่งชี้ว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเป็นเช่นนั้น เพราะเป็นพื้นที่ที่แรงงานต่างชาติทำงานอยู่จำนวนมาก แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ 100% จะต้องนำหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่างๆ มาประกอบด้วย รวมถึง การนำเชื้อที่ตรวจพบมาถอดรหัสพันธุกรรมหาต้นทางของเชื้อ อย่างกรณีคนที่มาจากท่าขี้เหล็ก เมื่อถอดรหัสพันธุกรรมเชื้อก็พบว่ามาจากอินเดียและเข้าสู่เมียนมา.

 

 ขอบคุณข้อมูล -เดลินิวส์