ย้ำสงกรานต์ยึดมาตรการสธ. “อนุชา”ลุยเชียงใหม่ติดตามผล”คนละครึ่ง-เราชนะ”

“อนุชา”ลงพื้นที่เชียงใหม่ ติดตาม”คนละครึ่ง-เราชนะ” แม่ค้าฟ้องแอปพลิเคชันขัดข้องบ่อย แต่เป็นโครงการดีช่วยเศรษฐกิจฐานรากได้ ย้ำสงกรานต์ยึดมาตรการสธ.

นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจตลาดประตูเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ เพื่อติดตาม โครงการ คนละครึ่ง และเราชนะ

โดยนายอนุชา กล่าวหลังจากการสอบถามพ่อค้าแม่ค้า พบว่ามีปัญหาเรื่องระบบแอปพลิเคชันขัดข้อง แต่โดยรวมแล้วพ่อค้าแม่ค้าที่เป็นฐานรากของเศรษฐกิจ และประชาชนที่มาจับจ่ายซื้อของชื่นชมรัฐบาล ว่าโครงการนี้ทำให้การค้าขายดีขึ้น แม้ช่วงสถานการณ์โควิดที่อาจจะลดลงบ้าง แต่ทำให้การค้าขายได้หมุนเวียนมากขึ้น ซึ่งเชื่อว่ารัฐบาลจะมีการขยายต่อโครงการต่าง ๆ เนื่องจาก นายกรัฐมนตรีต้องการจะช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่เดือดร้อน

พร้อมกันนี้ นายอนุชา กล่าวว่า มาตรการในช่วงสงกรานต์ จะต้องมีการเว้นระยะห่างและสวมหน้ากากอนามัย รวมถึงจะต้องระมัดระวังในการรวมกลุ่มกัน เพราะการรวมตัวกันทำกิจกรรมจำนวนมากอาจจะทำให้เกิดซูเปอร์สเปรดเดอร์ขึ้นได้ จึงต้องระมัดระวัง เมื่อสถานการณ์โควิดถือว่าเบาบางลงรัฐบาลจึงผ่อนคลายมาตรการ ให้สามารถจัดกิจกรรมสงกรานต์ได้ เพียงแต่ไม่ให้สาดน้ำประแป้ง แต่ดำเนินกิจกรรมอื่นๆตามประเพณีได้ โดยขอไม่ให้มีการรวมกลุ่มกันเป็นคนหมู่มาก เช่นกันสรงน้ำพระ สำหรับสถานที่ท่องเที่ยว วัด ที่อยู่ในกำกับของสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กำชับ เป็นพิเศษเรื่องการจัดกิจกรรมแบบ New Normal

ส่วนบทลงโทษ ถ้าหากมีการฝ่าฝืนเล่นน้ำและประแป้งนั้น ให้เป็นไปตามบทลงโทษของกฎหมายตามพ.ร.บ.โรคติดต่อ เชื่อว่ามาตรการในจังหวัดเชียงใหม่ที่มีอยู่ถ้าทุกคนรักษา มาตรการที่ทางรัฐบาลกำหนดก็ถือว่าเพียงพอแล้ว ควรจะเลิกกังวลเพื่อให้เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไปได้

“อนุชา”ยันไร้สัญญาณโยกตำแหน่ง ปรับโครงสร้าง กก.บห.พรรค เป็นเรื่องปกติ ย้ำไม่ยึดติดอยู่ตรงไหนก็ทำเต็มที่ ชี้แค่ข่าวลือพรรคแตกแยก

ทั้งนี้นายอนุชา นาคาศัย กล่าวถึงความคืบหน้าของการปรับคณะรัฐมนตรี ว่าไม่ใช่เรื่องที่จะต้องไปกังวลหรือติดตาม เพราะเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ ของนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรค จะปรึกษาหารือแต่งตั้งบุคคลที่มีความรู้ความสามารถขึ้นมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี เมื่อนายกรัฐมนตรีตัดสินใจแล้ว ทุกคนที่ขึ้นมาเป็นรัฐมนตรีมีความเหมาะสมแน่นอน ส่วนตนเองยืนยันว่าไม่ได้รับสัญญาณว่าจะมีการปรับโยกย้ายหรือไม่

ส่วนที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐได้ระบุว่าจะมีการปรับโครงสร้างพรรคนั้น ตนมองว่าเป็นเรื่องปกติของพรรคการเมือง เรื่องภายในพรรคจะมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงซึ่งถือเป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้ในการทำการเมือง ไม่มีอะไรเป็นเรื่องที่แตกต่างไปจากพรรคการเมืองอื่น

ส่วนถ้ามีการปรับโครงสร้างพรรค ตนเองจะยังอยู่ในตำแหน่งเลขาธิการพรรคหรือไม่ นั้น ตนคิดว่าคงไม่จำเป็น เพราะตัวเองเป็นคนสบายๆกับเรื่องพวกนี้เพราะคิดว่าอยู่ตรงไหนก็ทำหน้าที่ให้เต็มกำลังความสามารถ ส่วนปัญหาข่าวลือความแตกแยกภายในพรรคขณะนี้ ก็มองว่าข่าวลือก็คือข่าวลือ

 

ขอขอบคุณเจ้าของข้อมูล:innnews