Social :



รวบแล้ว แก๊งก่อเหตุถีบจยย.-ทำร้าย ‘ลุงตู่’ เจ้าหน้าที่ รพ.พังงา

05 พ.ค. 64 11:05
รวบแล้ว แก๊งก่อเหตุถีบจยย.-ทำร้าย ‘ลุงตู่’ เจ้าหน้าที่ รพ.พังงา

รวบแล้ว แก๊งก่อเหตุถีบจยย.-ทำร้าย ‘ลุงตู่’ เจ้าหน้าที่ รพ.พังงา

จากกรณี คนร้ายก่อเหตุถีบรถจักรยนต์ นายอัมพร บุญฮอง หรือ ลุงตู่ อายุ 59 ปี เจ้าหน้าที่ รพ.พังงา ต.ท้ายช้าง อ.เมือง จ.พังงา จนได้รับบาดเจ็บ เข้ารุมทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ บริเวณถนนซอยราษฎร์อุทิศ-ซอยศิริราษฎร์(อู่เรือ) เขตเทศบาลเมืองพังงา ซึ่งได้เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.ถาวร ศรีปล้อง พนักงานสอบสวนเวร สภ.เมืองพังงา ในเวลาต่อมานั้น

อ่านข่าว ‘ลุงตู่’ ถูกแก๊งคนร้ายดักถีบรถล้ม รุมตีไม่มีสาเหตุ ยันไม่เคยมีคู่อริที่ไหน (มีคลิป )

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองพังงา ใช้เวลาในการแกะร่องรอยคนร้ายตามกล้องวงจรปิดต่างๆ จนสามารถจับกุม นายวิศรุต ณ นคร อายุ 29 ปี พร้อมด้วย นายศุภชัย ด้วงดำ อายุ 28 ปี  เป็นผู้ก่อเหตุร่วมกับพวกที่หลบหนี ทำร้ายร่างกาย นายอัมพร บุญฮก จนได้รับบาดเจ็บที่บริเวณ ตาขวา หน้าท้อง ข้อศอก และขา

โดยทางเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนจากภาพกล้องวงจรปิดที่มีอยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุ จนทั้งคู่รับสารภาพว่าได้กระทำตามภาพวงจรปิดจริง จากนั้นได้นำเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เข้ายึดรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า
MulticollaC
เวฟ 100 สีแดง-ดำ ทะเบียน กฉบ 735 พังงา และ ยามาฮ่า สกุ๊ปปี้ สีฟ้า-ขาว ทะเบียน กษค 199 พัทลุง ทางเจ้าหน้าที่ได้บันทึกการจับกุมพร้อมแจ้งข้อกล่าวหาว่า ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ นำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพังงา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนคนร้ายที่เหลือทางเจ้าหน้าที่เตรียมออกหมายจับนำตัวเข้าดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากนั้นนำตัวเข้าสอบปากคำเบื้องต้น จนทราบสาเหตุว่า นายวิศรุต ณ นคร ซึ่งมีบ้านและที่ดินติดกับ นายอัมพร ในช่วงอาศัยอยู่นั้น นายอัมพร ได้เผาขยะและใบไม้บริเวณหลังบ้านของนายอัมพรเอง แต่ควันไฟและกลิ่นเผาไหม้ ได้ถูกลมพัดพาเข้าบ้านตนเองจนเกิดความรำคาญ บ่อยครั้งเข้าจึงกลายเป็นอารมณ์ความแค้น ซึ่งตนเองได้พูดจาหลายครั้งแต่นายอัมพร ไม่เคยคิดจะฟังและแก้ปัญหาให้ตนเองเลย จึงได้ชวนเพื่อนอีก 2 คน เข้าก่อเหตุตามคลิปวงจรปิดที่เกิดขึ้น

ขณะ นายอัมพร ผู้เสียหาย กล่าวต่อสื่อมวลชนว่า ที่ผู้ก่อเหตุอ้างว่าสาเหตุจากควันไฟก่อให้เกิดความรำคาญนั้น ตนเองมองว่าน่าจะเข้ามาพูดคุยกันดีๆไม่น่าทำร้ายกันจนถึงขนาดนี้เนื่องจากเห็นผู้ก่อเหตุตั้งแต่เด็ก ซึ่งอีกเรื่องคือ แนวเขตที่ดิน เนื่องจากกำแพงของผู้ก่อเหตุที่เพิ่งจะก่อกำแพงใหม่นั้นได้รุกเข้าในที่ดินซึ่งต้องเว้นไว้ตามกฎหมายแต่ทางผู้ก่อเหตุกลับไม่เว้นและคิดครอบครองโดยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน ที่ผ่านมายอมรับว่า มีปัญหากับครอบครัวผู้ก่อเหตุหลายเรื่อง ซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดจากครอบครัวของผู้ก่อเหตุทั้งสิ้น

ขอบคุณที่มา ข่าวมติชน




โพสต์โดย : ปลายน้ำ