Social :



‘เก๋ อัญวีญ์’ ยันเรื่องเงินไม่ใช่ประเด็น ขอให้ ‘บัวขาว’ เคลียร์เรื่องลูก ชี้หมดรักแล้ว

07 พ.ค. 64 13:05
‘เก๋ อัญวีญ์’ ยันเรื่องเงินไม่ใช่ประเด็น ขอให้ ‘บัวขาว’ เคลียร์เรื่องลูก ชี้หมดรักแล้ว

‘เก๋ อัญวีญ์’ ยันเรื่องเงินไม่ใช่ประเด็น ขอให้ ‘บัวขาว’ เคลียร์เรื่องลูก ชี้หมดรักแล้ว

จากกรณี “เก๋” อัญวีญ์ พรชัยวิบูลย์ ภรรยานอกสมรส “บัวขาว บัญชาเมฆ” นักมวยชื่อดัง ได้ยื่นฟ้องต่อศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ต้องการให้บัวขาวรับรองลูกสาววัย 5 ขวบ พร้อมระบุที่ผ่านมา ฝ่ายบัวขาวไม่เคยเลี้ยงดูบุตรเลย และเรียกค่าอุปการะเลี้ยงบุตรสูงถึง 25 ล้านบาทนั้น

ล่าสุด “เก๋” อัญวีญ์ ได้รับเชิญไปออกรายการ “ถกไม่เถียง” ทางช่อง 7HD ที่ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ พร้อมด้วยทนาย อนันต์ชัย ไชยเดช มาพูดถึงทุกข้อสงสัยที่เกิดขึ้นในเวลานี้

“เก๋” อัญวีญ์ กล่าวว่า “ปัญหานี้มันเริ่มเกิดมาแต่ปี 59 ที่เขาไปทำค่ายมวยที่เชียงใหม่ เขาทำตัวชอร์ตเงินตลอดมาๆ หายๆ ไม่ค่อยสนใจลูกเหมือนเคย เขาเอาพวงมาลัยมาขออโหสิกรรมแล้วบอกว่าเขาจะบวชพรุ่งนี้นะ เราก็เฮ้ยทำไมเพิ่งมาบอกเรา รับรู้ได้ว่าเขาเปลี่ยนไปเราเลยขอให้เขาจดทะเบียนรับรองบุตรไว้เพราะเราทั้งคู่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน เขาก็ผลัดอยู่เรื่อยๆ จนช่วงหลังนี่หายไปเลยไม่มาสนใจครอบครัว เราเลยตัดสินใจว่าจะฟ้อง ก็เซิร์ทหาทนายที่ถูกใจที่สุดมาทำคดีให้ แต่กลายเป็นเราโดนโจมตี ต่างๆ นาๆ ว่าเรียกเงินไปถึง 25 ล้านซึ่งเราไม่เคยบอกจำนวนเลย แต่จริงๆแล้ว ถามว่า 25 ล้านเยอะมากไหม ถ้าเรานับเป็นปีต่อปี จนถึงลูกบรรลุนิติภาวะแล้วมันก็ไม่เยอะเลยนะ แต่ก็โดนเอาไปว่าในเพจของบัวขาวแบบไม่มีชิ้นดี เก๋ไม่โกรธนะ พวกที่มือไวกว่าสมองแต่เขาควรได้รับบทลงโทษบ้างพูดเลยว่าเก๋ไม่รับกระเช้าค่ะ รกบ้าน”

“เก๋โกรธมา โกรธบัวขาวด้วยที่หายไปเลย ไม่ออกมาพูดอะไรบ้าง ปล่อยให้เราโดนโจมตี อยากบอกว่าใครทำอะไรไว้ก็ต้องรับสิ่งนั้นแหละค่ะ ในการเรียกร้องครั้งนี้เขาอ้างว่าค่ายมวยเขามีปัญหา ซึ่งโควิดมันเกิดปี 2019 มันไม่มี โควิด 2017 อยู่แล้ว และมันก็ไม่ได้เกิดแค่ที่ค่ายบัญชาเมฆอย่างเดียว มันเกิดไปทั่ว เขาจะเอาอะไรมาช็อตในตอนนั้น รายได้จากงาน หรือพรีเซนเตอร์อะไรของเขา เก๋รู้หมด
Lif
ไม่เคยกีดกันพ่อลูก มีแต่เขาที่ไม่ค่อยมาหาลูกเอง เรามาเพื่อวัตถุประสงค์เดียวคือ การเซ็นต์รับรองลูก ไม่ได้หวังจะโจมตีอะไรเลย วันก่อนที่พูดเอาไว้ยังไงมันก็เป็นอย่างนั้น มีแต่ฝ่ายเขาที่ออกมาสร้างข้อกล่าวหาให้เก๋เป็นฝ่ายผิด มาทำให้ทัวร์ลงที่เรา”

“บัวขาวไม่เคยขอตรวจ DNA เพราะ DNA อยู่บนหน้า เเละสิ่งที่เก๋อดทนพยายามทำงานให้มีเงินมาเลี้ยงลูก เพราะคิดว่าเขาเอาเงินไปลงทุนทำค่ายมวยใหม่ คิดว่าใช้เงินเยอะ แต่เขาก็มายืมเงินเก๋ ให้เก๋ไถ่นาฬิการาคา 6 แสนบาทให้ เก๋ก็ควักกระปุกเอาเงินที่เก็บไว้จากค่าที่เรารักสักคิ้วบ้างขายของออนไลน์ออกมาให้ อย่างงี้เรื่องเงินสำหรับเก๋มันไม่ใช่ประเด็นค่ะ”

ด้านพิธีกรถามว่าแบบนี้แล้วยังรักบัวขาวอยู่ไหม? “เมื่อก่อนเคยรัก ตอนนี้เรียกว่าแค่มีความหวังดีให้ เราอยากให้เขามาคุย ซึ่งเรื่อง 25 ล้านเนี่ย มันไม่ได้ยอดนั้นจริงๆหรอก มันอยู่ที่ดุลพินิจของศาล ถามว่ามีโอกาสจะกลับมาเป็นครอบครัวเดียวกันอีกไหม ถ้าเขายังร่วมงานกับทีมงานใกล้ชิดทีมนี้อยู่ ก็คงตอบว่าไม่ค่ะ ส่วนเรื่องที่ทำให้เสียความรู้สึก มันเป็นเรื่องเกี่ยวข้องของบุคคลที่ 3 4 5 และมากกว่านั้นที่เกี่ยวข้องกับเขาล้วนๆเลย”

ด้านทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ได้พูดถึงกรณีมีข่าวเสียหายโดนทัวร์ลงหนักว่า “ผมไม่เคยคิดเกินเลยกับลูกความอย่าง คุณเก๋ กับคุณเก๋ไม่รู้จักกันมาก่อน เขาก็เลือกทนาย สุดท้ายมาลงที่ผม ปกติผมไม่รับคดียาเสพติด ฟ้องหย่า และคดีเกี่ยวกับเพศ คดีเกี่ยวกับครอบครัวเป็นคดีที่เกี่ยวกับเรื่องละเอียดอ่อนก็เลยไม่ค่อยรับ แต่คดีนี้มันเหมือนชีวิตเรา เราก็เลยเข้าใจหัวอกของเขา เลยตัดสินใจทำคดีให้เขา เราคุยกันแค่เฉพาะเรื่องของงาน ที่เอาไปพูดกันว่าผมกับเขามีอะไรกัน มันทำให้ผมเสียหายถึงครอบครัว ถ้าภรรยาของผมไม่เข้าใจ เราก็อาจจะมีปัญหากันได้ ผมยืนยันว่าไม่มีอะไร แต่ผมบอกเลยว่าอยากให้เรื่องนี้เป็นบรรทัดฐานไว้สำหรับพวกที่มือเร็วกว่าสมองพิมพ์โดยไม่คิดไว้เป็นบทเรียนผมไม่ถอนฟ้องแน่นอนครับ สุดท้ายนี้ในฐานะทนายผมอยากให้บัวขาวออกมาคุยกันดีๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องของคนสองคน ไม่ใช่ทนาย ไม่ใช่พี่สาว ไม่ต้องมีบุคคลที่สาม อยากให้ทั้งสองคนออกมาคุยกันมากกว่าปัญหาจะได้จบ”

ขอบคุณที่มา ข่าวมติชน

โพสต์โดย : ปลายน้ำ