Social :



ขออย่าขัดแย้ง!! นายกฯลงดูฉีดวัคซีนโควิด-ยังใช้หมอพร้อมอยู่

29 พ.ค. 64 07:05
ขออย่าขัดแย้ง!! นายกฯลงดูฉีดวัคซีนโควิด-ยังใช้หมอพร้อมอยู่

ขออย่าขัดแย้ง!! นายกฯลงดูฉีดวัคซีนโควิด-ยังใช้หมอพร้อมอยู่

นายกรัฐมนตรี ตรวจความพร้อมเอเชียทีคฉีดวัคซีน ย้ำทุกอย่างเป็นไปตามกำหนดเดิม จะฉีดให้ได้มากที่สุด ขออย่าขัดแย้ง ไม่อยากให้ใครทะเลาะกัน ต้องช่วยกันให้กำลังใจเจ้าหน้าที่





พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตรวจเยี่ยมจุดบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 นอกสถานพยาบาล ภายใต้ความร่วมมือระหว่างกรุงเทพมหานครและหอการค้าไทย ดำเนินการโดยศูนย์การค้าเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ และโรงพยาบาลบางปะกอก



โดย พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า ในวันนี้ได้เห็นความพร้อมในเรื่องการเตรียมการตามมาตรฐานสาธารณสุขอย่างครบถ้วน ขอบคุณผู้ให้บริการ เจ้าของสถานที่ รวมถึงผู้ที่บริจาคสิ่งของดูแลช่วยเหลือให้กับผู้ที่ได้รับเข้าฉีดวัคซีน โดยจะเห็นได้ว่าขณะนี้การบริหารวัคซีน การฉีดวัคซีนเร่งทำให้มากยิ่งขึ้นตามปริมาณวัคซีนที่ได้กระจายไป และมีหลายกลุ่มที่มีความจำเป็นที่ต้องได้รับความเร่งด่วนในการฉีดวัคซีน ขอให้ฟังที่ตนเองพูด อย่าไปฟังที่อื่นพูด เพราะจะทำให้เกิดความไม่เข้าใจหรือเข้าใจผิด แต่ขอให้ช่วยกันให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ เพราะทำงานแบบนี้เหนื่อย เสียสละอดทน จะให้ทุกคนได้ฉีดมากที่สุด โดยเป้าหมายจะฉีดให้ได้ในเดือนธันวาคม และย้ำว่าทุกอย่างเป็นไปตามกำหนด แต่ยอมรับว่า การทำงานเพื่อคนหมู่มากในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา คงไม่ต้องขอโทษใครเพราะบางอย่างจำเป็นต้องมีความยืดหยุ่นในการบริหาร ซึ่งการทำงานมีแนวทางกำหนดไว้ล่วงหน้าแล้ว ฉะนั้นการบริหารวัคซีน การจัดหาสถานที่ จำนวนผู้ฉีด การกระจายวัคซีน ทุกอย่างจะต้องมีการปรับแต่ทุกคนจะได้รับการฉีดวัคซีนอย่างแน่นอน ขอยืนยัน ขออย่าไปพูดว่าคนนั้นไม่ได้ฉีด คนนี้ได้ฉีด ขอความร่วมมือกับสื่อด้วย เรื่องใดที่ไม่เกิดประโยชน์ ขออย่านำไปเผยแพร่เพื่อลดความขัดแย้ง เพราะไม่ใช่เรื่องสนุกที่จะไปทะเลาะเบาะแว้งกัน ไม่อยากให้ใครทะเลาะกันทั้งสิ้นไม่ว่าฝ่ายใดก็ตาม ต้องไปด้วยกัน การทำสิ่งดีๆ เพื่อสิ่งดีๆ ถือเป็นกุศลต่อตนเองทำให้ประเทศชาติฟื้นตัวขึ้น ช่วยกันทำความดี แต่บังคับใครไม่ได้อยู่แล้ว


ทั้งนี้สำหรับหน่วยบริการเอเชียทีคตั้งอยู่ที่บริเวณหน้าโกดัง 4 ขนาดกว้าง 2,462 ตารางเมตร โดยได้รับการสนับสนุนจากเจ้าหน้าที่บุคลากรทางการแพทย์เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์จากโรงพยาบาลบางปะกอก 1 และสามารถรองรับการฉีดวัคซีนได้กว่า 2,000 คนต่อวัน เปิดบริการตั้งแต่เวลา
Lif
08.00 -18.00 น. โดยมีการเตรียมความพร้อมเพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนที่มาฉีดวัคซีนควบคุมมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด พร้อมแจกหน้ากากอนามัยเจลแอลกอฮอล์และน้ำดื่มให้กับประชาชนที่ฉีดวัคซีนทุกคน

 

นายกฯ ยึดกฏหมายนำเข้าวัคซีน อย่าถามล่วงหน้าปมฟ้องเอกชนเผยแพร่ข้อมูลชิโนฟาร์ม อย่ากังวลโควิดสายพันธุ์ไทยแพร่อังกฤษ ปัดปัญหาวัคซีนกระทบการเมือง ยันทุกพรรคเข้าใจดี
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่บริษัทเอกชนยื่นข้อเสนอเจรจาซื้อขายวัคซีนซิโนฟาร์ม 20 ล้านโดส ให้กับรัฐบาลและมีการเผยแพร่ข้อมูลออกไปนั้น ว่า เป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการต่อไป ขออย่ามาถามล่วงหน้า ส่วนบริษัทที่มาติดต่อเป็นทางการแล้ว ต้องผ่านการขึ้นทะเบียน อย. กำลังรอการเจรจานำเข้าและย้ำว่าต้องตามช่องทางที่ถูกต้อง เป็นไปตามกฎหมาย จะเข้าพบใคร เจรจาใครก็ได้ เพราะตนไม่ได้มีหน้าที่ตรงนั้น เป็นหน้าที่ขององค์การเภสัช และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาส่วนการกระจายวัคซีนแอสตราเซเนกา ที่จะเข้ามาในเดือน มิ.ย. ย้ำว่า วัคซีนทั้งหมดที่มีอยู่ในเดือนนี้ จะกระจายเดือน มิ.ย. และกระจายไปให้ได้มากที่สุด มอบนโยบายไปแล้วว่า จำเป็นต้องกระจายเป็นรายเดือน ยืนยันว่าทุกคนได้รับการฉีดแน่นอน ประชาชนที่ได้ลงทะเบียนผ่าน แอปพลิเคชัน “หมอพร้อม” จะได้รับการฉีดวัคซีนทุกคน รวมทั้งแอปพลิเคชันที่ทำขึ้นมาใหม่ ส่วนพื้นที่จังหวัดต่างๆ ทุกจังหวัดมีระบบอยู่แล้ว ขอให้ไปติดตามจากกระทรวงมหาดไทย ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัด ดำเนินการร่วมกับ สสจ.และ อสม.


นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงข้อมูลโควิดสายพันธุ์ไทยที่ไปแพร่ระบาดในประเทศอังกฤษ ว่า ขณะนี้มีได้ทุกสายพันธุ์ ขออย่ากังวล ต้องฉีดวัคซีนให้ได้ก่อน หากเป็นก็รักษาได้ พร้อมขอให้ดูแลตัวเองป้องกันตัวเองหากช่วยกัน อย่าไปจับผิด ส่วนปัญหาวัคซีนทางการเมืองนั้น ยืนยันว่า ไม่มี ทุกพรรคเข้าใจกันดี ได้คุยกับพรรคประชาธิปัตย์ และชาติไทยพัฒนาแล้ว ไม่ได้มีปัญหาอะไร จะมีปัญหาเพราะมีคนแถวนี้ยุแยงตะแคงรั่ว วันนี้มีปัญหาอะไรตรงไหน การจะปรับเปลี่ยน ก็เปลี่ยนตามข้อเสนอของกระทรวงสาธารณสุข อะไรดีกว่า อะไรใช่ อะไรไม่ใช่ ต้องปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ ส่วนของกระทรวงมหาดไทย ที่อยู่ใกล้ชิดกับประชาชน และสาธารณสุข ทั้งหมดรู้อยู่แล้วว่าใครเป็นประธาน ศบค. จะไปสั่งอะไรเรื่อยเปื่อยได้หรือไม่ ไม่ได้ยึดอำนาจใครแต่ต้องบูรณาการให้ได้ เพราะคือหน้าที่ ทำทุกอย่างตามข้อมูลที่หลายฝ่ายเสนอเข้ามา ขออย่าเอาไปตีให้แตกกันหมดเลย บ้านเมืองวุ่นวายพออยู่



ขอบขอบคุณข้อมูลจาก:innnews

โพสต์โดย : monnyboy