ตามยุทธศาสตร์ชาติ!! นายกฯร่ายยาวนำ3.1ลล.ฟื้นฟูศก.สู้โควิดยึดโปร่งใส
ประชุมสภา เริ่มแล้ว นายก รัฐมนตรี ร่ายยาวแจง งบฯ 65 ยืนยัน นำ 3.1 ลล. ฟื้นฟูเศรษฐกิจ สู้โควิด ยึดโปร่งใส ตามยุทธศาสตร์ชาติ
การ ประชุมสภา ผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 โดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายก รัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เสนอร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 วงเงิน 3,100,000 ล้านบาท ทั้งนี้ เป็นการดำเนินงานต่อเนื่อง จากปีงบประมาณ พ.ศ. 2564
โดยใช้งบประมาณเป็นเครื่องมือสำคัญในการผลักดันนโยบาย และมาตรการด้านต่าง ๆเพื่อให้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ แผนแม่บทเฉพาะกิจภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ อันเป็นผลมาจากสถานการณ์โควิด-19 พ.ศ. 2564-2565
แผนย่อยของแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติแผนการปฏิรูปประเทศ (ฉบับปรับปรุง) และนโยบายของรัฐบาล สามารถขับเคลื่อนต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นรูปธรรม เกิดผลสัมฤทธิ์และประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน โดยรัฐบาลได้ดำเนินการให้สอดคล้องกับสภาวะทางเศรษฐกิจภายในประเทศ และผลกระทบจากภายนอก รวมทั้ง สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
ขณะเดียวกัน เศรษฐกิจไทย ปี 2565 คาดว่า จะขยายตัว ร้อยละ 4.0-5.0 โดยมีการเดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจ การฉีดวัคซีนคุ้มกันหมู่ ซึ่งจะมีการขยายตัวดีขึ้นของอุปสงค์ภาคต่างประเทศและปัจจัยสนับสนุนจากภาคการท่องเที่ยว และคาดว่าอัตราเงินเฟ้อ อยู่ที่ร้อยละ 0.7 ถึง 1.7
สมพงษ์ ประชุมสภา
“สมพงษ์” ฉะรัฐตั้งงบฯ65 ราวกับประเทศอยู่ในสถานการณ์ปกติ ชี้แค่กลาโหม มากกว่าสาธารณสุข ทำสงครามกับโรคระบาดได้อย่างไร
นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย และในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวอภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณประจำปี พุทธศักราช 2565 ว่ามีนัยยะสำคัญอย่างยิ่ง ต่อชีวิตของประชาชนทั้งประเทศ ที่จะฝ่าช่วงเวลาวิกฤตของประเทศ และพาประชาชนอยู่รอดได้หรือไม่ แต่สิ่งที่เห็นกลับตรงกันข้าม ประชาชนกำลังลำบากอย่างแสนสาหัส แต่รัฐบาลกลับวางแผนจัดงบประมาณปี 2565 ราวกับประเทศอยู่ในสถานการณ์ปกติดี
กระทรวงกลาโหม ที่มีงบประมาณ มากกว่าของกระทรวงสาธารณสุข ถึงเกือบ 5 หมื่นล้านบาท วันนี้ ไทยกำลังทำสงครามอยู่กับใคร ที่ต้องใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ แต่ขณะนี้ไทยกำลังทำสงคราม กับโรคระบาดที่น่ากลัวที่สุดการจัดทำงบประมาณไปคนละทิศคนละทางกับความต้องการของประชาชน อีกทั้งไม่คำนึงถึงปัญหาทุกข์ร้อนของประชาชน ไม่แยแสทุกข์ร้อนของประชาชน ไม่เห็นประชาชนอยู่ในสายตา
ความบกพร่องของรัฐบาลมีอยู่ทุกด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่ประชาชน ไม่สามารถอดทนกับรัฐบาลต่อไปอีกได้ นั่นก็คือเรื่องของการวางแผนการจัดเตรียมวัคซีน ที่นับว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดเป็นอย่างมาก วัคซีนไม่พอ มาไม่ทัน และที่สำคัญรัฐบาลไม่ได้อธิบายความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ทำให้ประชาชนเกิดความสับสน ซึ่ง สะท้อนถึงศักยภาพในการบริหาร โดยเฉพาะผู้นำที่ไม่มีแผนรับมืออย่างเป็นระบบ
ทั้งนี้ การบริหารประเทศของรัฐบาล ภายใต้ พล.อ.ประยุทธ์ ทำให้ภาคเศรษฐกิจล้มละลาย ทำให้การตกงานสูงที่สุด และอัตราการว่างงานก็จะเพิ่มขึ้น รวมถึงหนี้ครัวเรือนที่จะเพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม แผนงบประมาณของประเทศ ที่ถูกจัดขึ้นอย่างไร้ยุทธศาสตร์ ในสภาวะการณ์ที่ประเทศกำลังเผชิญวิกฤตอย่างรุนแรงเช่นนี้” ตนไม่อาจยอมรับ” ให้ผ่านสภาแห่งนี้ได้
นายกฯ แจงสภา ยัน มิถุนายนนี้ มีวัคซีนทยอยเข้ามาเพียงพอ ไม่ปัญหา มั่นใจไม่มีการทุจริตเกิดขึ้นในรัฐบาลนี้แน่นอน
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลุกขึ้นชี้แจงผู้นำฝ่ายค้าน ต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 ทันที โดยยืนยัน จะนำทุกข้อเสนอแนะไปพิจารณา แต่ยังมีหลายอย่างที่เข้าใจไม่ตรงกันโดยเฉพาะเรื่องตัวเลขการจัดทำงบประมาณ หากมองตัวเลขเพียงอย่างเดียว ก็จะมองว่าไม่เป็นธรรม ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ต้องมองถึงภาพรวม เพราะต้องแก้ปัญหาหลายอย่าง
ส่วนเรื่องการจัดหาและการกระจายวัคซีน ยืนยันดำเนินการตามลำดับอย่างมีขั้นตอน ทุกประเทศก็มีปัญหาเช่นกัน เพราะมีความต้องการวัคซีนเพิ่มมากขึ้น และประเทศไทยเองก็มีบริษัทที่เป็นฐานผลิตวัคซีน แต่ทุกอย่างมีขั้นตอนและแผนเตรียมพร้อม ทั้งแผนหลักและแผนสำรอง จึงเชื่อว่าจะไม่มีปัญหาเรื่องวัคซีน ทั้งทางวัคซีนที่รัฐจัดหาและวัคซีนทางเลือก แต่ทั้งหมดยังต้องเป็นการนำเข้าแบบรัฐต่อรัฐ และยืนยันว่า ภายในเดือนมิถุนายนนี้จะมีวัคซีนทยอยเข้ามาอย่างเพียงพอ
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังชี้แจงถึงข้อสงสัยเรื่องการจัดงบประมาณของกระทรวงกลาโหม ที่มากกว่ากระทรวงสาธารณสุข ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง ขอให้ดูในภาพรวมเนื่องจากมีค่าใช้จ่ายทำเรื่องบุคลากรงบประมาณประจำปี และการพัฒนากองทัพ และในช่วงสองปีที่ผ่านมา ก็มีการปรับลดงบประมาณของกลาโหมไปแล้วนับ 10,000 ล้านบาท ส่วนที่เป็นงบผูกพันก็มีความจำเป็นจะต้องจัดสรร และดำเนินการต่อในปี 2565
ขณะที่งบประมาณของกระทรวงสาธารณะสุข นอกจากงบประมาณประจำปีแล้วยังมีงบประมาณอีก3 กองทุน คือ กองทุนประกันสังคม กองทุนแพทย์ฉุกเฉิน และกองทุนแพทย์แผนไทย รวมประมาณ 295,681 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2564 ลดลงเพียง 5,000 กว่าล้านบาท หรือ 1.7% เท่านั้น ในภาพรวมถือว่างบประมาณของกระทรวงกลาโหมนั้น มีน้อยกว่าสาธารณสุข
ทั้งนี้ ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะลุกออกจากห้องประชุม ได้ย้ำว่า การบริหารงบประมาณเป็นไปอย่างเข้มงวดรัดกุม รับฟังทุกเสียงสะท้อน และพร้อมตอบทุกคำถาม ซึ่งเป็นการทำงานในแบบของตนตามระบอบประชาธิปไตย ก่อนจะทิ้งท้ายว่าการทำงานภายใต้รัฐบาลของตนไม่มีการทุจริตเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
ขอบคุณเจ้าของข้อมูล:innnews
โพสต์โดย : monnyboy