คุกคามประชาชนถึงบ้าน “อมรัตน์”จี้นายกฯเปลี่ยนมุมมืดกระบวนการยุติธรรมไทย

“อมรัตน์” เรียกร้องนายกฯเปลี่ยนมุมมืดของกระบวนการยุติธรรมไทยให้เป็นกระบวนการยุติธรรมที่พึงประสงค์หยุดข่มขู่คุกคามประชาชนถึงบ้าน

นาง อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงงบประมาณในส่วนของกระบวนการยุติธรรม ว่าการจัดสรรงบประมาณเป็นการไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันรัฐบาลมีงบประมาณในปราบปรามกับกลุ่มผู้ชุมนุมแต่กลับไม่มีเงินในการจัดซื้อกำไร EM ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่ออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้ตนเองเสียก่อนเรือนจำจะเป็นบ้านหลวงหลังสุดท้ายของ พล.อ.ประยุทธ์

สำหรับงบประมาณประจำปี 2565 กรมราชทัณฑ์ ได้รับการจัดสรรงบประมาณอยู่ที่ 1,3000 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากปี 2564 พันกว่าล้านบาท ผู้ต้องขังในราชทัณฑ์ทั่วประเทศจำนวน 310,830 คน ซึ่งเมื่อหารเฉลี่ยจากงบประมาณที่จัดสรรในแต่ละด้าน เช่น งบประมาณค่าอาหารทั้งหมดจำนวน 4,400 ล้านบาท เมื่อหารเฉลี่ยแล้วพบว่าผู้ต้องขังได้รับการจัดสรรค่าอาหารเพียงมื้อละ 13 บาท ต่อหนึ่งคน จะมีคุณภาพที่ย่ำแย่ขนาดไหน ส่วนการก่อสร้างและปรับปรุงเล็กๆน้อยๆ ไม่มีการพัฒนาและการสร้างสรรค์ใดใดทั้งสิ้น  ขณะที่ ภายในเรือนจำยังเป็นการใช้แรงงานทาส ซึ่งการใช้แรงงานผู้ต้องขังเหล่านี้พวกเขาได้รายได้เพียงหลักร้อยบาทต่อเดือน เมื่อเฉลี่ยแล้วได้ค่าแรงไม่เกิน 30 บาทต่อวัน

ทั้งนี้ ตนขอเรียกร้องให้ส่องแสงไฟเปลี่ยนมุมมืดของกระบวนการยุติธรรมไทย ให้เป็นกระบวนการยุติธรรมที่พึงประสงค์หยุดข่มขู่คุกคามประชาชนถึงบ้าน  หยุดใช้ความยุติธรรม 2 มาตรฐาน แบบที่เป็นอยู่นี้ ที่ฝ่ายหนึ่งแค่หายใจแรงแรงก็บอกว่าผิดแล้ว อีกฝ่ายหนึ่งแม้จะค้ายาเสพติดข้ามชาติก็ยังคว้ามาเป็นรัฐมนตรีเพราะมันคือแป้ง

ขอบขอบคุณข้อมูลจาก:innnews