โดยปัจจุบันนี้ น้องเก้า ได้เข้าเรียนโรงเรียนวิทยาลัยเทคนิคบัวใหญ่ ชั้นปีที่ 1 สาขาช่างยนต์ อาศัยออกเก็บของเก่าขายเลี้ยงตัวเอง จนมีคนไทยใจดีช่วยกันบริจาคเงินเป็นทุนการศึกษาให้กับน้องเก้า เป็นเงิน 9 แสนกว่าบาท ทางน้องเก้า จึงได้เดินทางไปที่ธนาคาร เพื่อแจ้งป

ให้ตรวจสอบผู้ต้องสงสัย เป็นชายชาว อ.บางสะพาน หลังมีข้อมูลจากสายลับว่า มีพฤติกรรมลักลอบขนยาบ้าจากพื้นที่ จ.ปทุมธานี และ จ.กรุงเทพมหานคร มาเก็บไว้ที่บ้านเช่าหลังหนึ่ง ที่หมู่ 4 ต.แม่รำพึง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์

หลังรับทราบข้อมูลพ.ต.อ.กิตติภพ จึงสั่งการให้ชุดสืบสวน ภ.จว.ปทุมธานี ตรวจสอบข้อมูลก่อนพบว่าบ้านหลังดังกล่าว มีนายฉัตริน หรือ เอก ขอมีกลาง อายุ 28 ปี อาชีพรับจ้างขับรถขนสินค้า ชาวต.เกาะหลัก อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ เป็นคนพักอาศัย เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม สภ.บางสะพาน

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ติดตามนายฉัตริน ซึ่งขับรถยนต์ ยี่ห้อชูซูกิ รุ่นสวิฟท์ สีขาว หมายเลขทะเบียน กท 146 ประจวบคีรีขันธ์ เข้ามาที่บ้านเช่าที่หมู่ 4 ต.แม่รำพึง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์

จากนั้นได้ประสานและวางแผนการจับกุมร่วมกับ พ.ต.อ.สุธี วรรณสูตร ผกก สภ.บางสะพาน , พ.ต.ท.กฤษณรักษ์ วงษ์งาม รอง ผกก.สส. , พ.ต.ต.ธัญญะ จิตรจารุวงศ์ สว.สส. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ โดยปิดล้อมบ้านหลังดังกล่าวไว้ พร้อมกับร้องเรียกให้ นายฉัตริน ออกมาพบเจ้าหน้าที่ แต่ปรากฏว่านายฉัตรินไม่ยอมออกมาพบโดยง่าย จึงได้บุกเข้าทางข้างบ้านแล้วควบคุมตัวได้ในที่สุด

จากการตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว พบกล่องพลาสติกสี่เหลี่ยมสีเทาสำหรับใส่สิ่งของ ขนาดใหญ่ วางอยู่ในห้องนอน เมื่อเปิดออกตรวจสอบ พบห่อยาบ้าพันด้วยพลาสติกสีดำ จำนวน 92 มัด

สารภาพรับจ้าง5หมื่น

นายฉัตริน ให้การยอมรับว่า ได้รับว่าจ้างจากนายแฟร้งค์ ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง ซึ่งอยู่บ้านดอนสำนัก หมู่ที่ 1 ต.ร่อนทอง อ.บางสะพาน และ นายฟลุ๊ค ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง อยู่ที่ ต.เกาะหลัก อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ให้ไปรับยาบ้าจำนวน 100 มัด หรือ 2 แสนเม็ด มาจาก จ.ปทุมธานี

โดยจะได้รับค่าจ้าง เป็นเงิน จำนวน 50,000 บาท โดยนายแฟร้งค์ ขับรถยนต์กระบะอีกคันตามไปด้วย เพื่อพบกับนายฟลุ๊คที่ปั๊มร้างบนทางด่วนดาวคะนอง ซึ่งขับรถเก๋งมาอีกคัน

เมื่อไปถึงที่นัดหมาย จ.ปทุมธานี มีชายวัยกลางคน ไม่ทราบชื่อขับรถเก๋งนำยาบ้า 100 มัด ใส่กล่องพลาสติกสีเทา มาใส่ท้ายรถเก๋งของตนเอง จากนั้นได้ขับกลับ อ.บางสะพาน โดยนายแฟร้งค์ขับนำหน้าคันที่ 1 นายฟลุ๊คคันที่ 2 และตนคันที่ 3

เมื่อขับมาถึงบ้านกรูด อ.บางสะพาน นายฟลุ๊คแยกย้าย ย้อนกลับมาบ้านพักที่ ต.เกาะหลัก อ.เมืองประจวบฯ ส่วนตนและนายแฟร้งค์ กลับถึง อ.บางสะพาน ต่อมานายแฟร้งค์ โทรศัพท์บอกให้นำยาบ้า 10 มัดไปส่งให้ลูกค้า ในตัว อ.บางสะพาน จากนั้นได้สั่งให้นำยาบ้าที่เหลือไปส่งให้นายฟลุ๊ค ที่ ต.เกาะหลัก ในวันที่ 12 มิ.ย.นี้ แต่มาถูกจับกุมเสียก่อน

เผยทำเป็นครั้งที่สอง

นายฉัตริน ยอมรับด้วยว่า ได้รับจ้างขนยาบ้ามาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อเดือนพ.ค. ไปรับยาบ้า ที่กรุงเทพฯ จำนวน 75 มัด หรือ 150,000 เม็ด ได้รับค่าจ้าง 40,000 บาท ไปส่งให้ลูกค้าจนเกือบหมดแล้ว เหลือเพียง 2 มัด

ครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง รับยาบ้า 100 มัด หรือ 200,000 เม็ด จาก จ.ปทุมธานี ส่งลูกค้าไปเพียง 10 มัดเหลือ 90 มัด รวมกับของเก่า อีก 2 มัด ทำให้มีของกลางรวม 92 มัดดังกล่าว

หลังสอบสวนเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ก่อนนำตัวผู้ต้องหาส่ง พนักงานสอบสวน สภ.บางสะพาน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป