Social :



ชาวบ้านงง เสาไฟหายเพียบ ผอ.แขวงทางหลวงชนบทเมืองคอน แจง ถอนมา 38 ต้น อยู่ระหว่างดูแลรักษา

22 มิ.ย. 64 15:06
ชาวบ้านงง เสาไฟหายเพียบ ผอ.แขวงทางหลวงชนบทเมืองคอน แจง ถอนมา 38 ต้น อยู่ระหว่างดูแลรักษา

ชาวบ้านงง เสาไฟหายเพียบ ผอ.แขวงทางหลวงชนบทเมืองคอน แจง ถอนมา 38 ต้น อยู่ระหว่างดูแลรักษา

เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน ผู้ใช้เส้นทางถนนพุทธภูมิ เชื่อมต่อถนนเลียบทางรถไฟ ต.มะม่วงสองต้น อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ว่าเสาไฟโซล่าเซลล์ที่ติดอยู่บริเวณดังกล่าวได้หายไปกว่า 30 ต้น ขอให้ช่วยตรวจสอบ เนื่องจากถนนสายดังกล่าวมักมีพวกมิจฉาชีพออกมาดักจี้ปล้นรถจักรยานยนต์ที่วิ่งผ่านไปมา ทำให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน

จึงเดินทางไปตรวจสอบพบว่าเสาไฟโซล่าเซลล์ที่ติดตั้งบนถนนเลียบทางรถไฟ ช่วงรอยต่อระหว่าง ต.มะม่วงสองต้น อ.เมืองนครศรีธรรมราช กับ ต.นาสาร อ.พระพรหม เป็น 1 ใน 22 สายทาง ตามโครงการ “จัดซื้อโคมไฟพลังงานแสงอาทิตย์ ติดตั้งเสาไฟแสงสว่างแบบ LED ในปี 2560 วงเงิน 194 ล้านบาท” จำนวน 2,998 ชุด ราคาตกเสาละ 65,000 บาท จากวงเงินงบประมาณเพิ่มเติม

จากการตรวจสอบตลอดเส้นทาง มีความยาว 5 กม. ตั้งแต่แยกศาลาหมอปาน-แยกวังวัว ต.นาสาร อ.พระพรหม พบว่ามีการติดเสาไฟโซล่าเซลล์ จำนวน 146 ต้น พร้อมระบุหมายเลขติดตั้งจาก A001-A146 ส่วนเสาไฟโซล่าเซลล์ที่หายไปคือหมายเลข A 110-A145 เท่ากับว่าเสาหายไป จำนวน 35 ต้น สอบถามชาวบ้านในละแวกดังกล่าวระบุว่าไม่ทราบว่ามีการถอดเสาไปในช่วงใด และไม่ทราบสาเหตุของการถอดเสาจำนวนดังกล่าวด้วย

นายนพ จามิกนนทา อายุ 40 ปี ชาวบ้าน ต.นาสาร กล่าวว่า ตนมาวิ่งออกกำลังกายบนถนนสายนี้เป็นประจำ ไม่ได้สังเกตว่าเสาไฟโซล่าเซลล์หายไปตอนใด พอช่วงค่ำจึงรู้ว่าถนนมืดกว่าปกติ เนื่องจากก่อนหน้านี้มีไฟของกรมทางหลวงมาติด และไฟจากเสาประติมากรรม 12 นักษัตร มาติดบนถนนพุทธภูมิด้วย จึงทำให้เกิดความสว่าง สำหรับถนนสายนี้เปลี่ยว มีการดักตีฉกชิงวิ่งราวกันบ่อย เนื่องจากเป็นถนนเลียบทางรถไฟที่ตัดผ่านจากในเมืองออกนอกเมืองได้สะดวกมากขึ้น จึงเป็นอีกเส้นทางหนึ่งที่รถจักรยานยนต์วิ่งสัญจรไปมาเป็นจำนวนมาก ส่วนเสาไฟโซล่าเซลล์จึงไม่เห็นว่าเอาออกไปตอนใด


ด้าน นายปราโมทย์ สวนประพัฒน์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลมะม่วงสองต้น เปิดเผยว่า เสาไฟดังกล่าว ไม่ใช่ของ ต.มะม่วงสองต้นแต่อย่างใด ไม่ทราบ ไม่รู้เรื่อง หายไปกี่ต้นก็ไม่ทราบ เท่าที่ทราบน่าจะเป็นความรับผิดชอบของเทศบาลตำบลนาสาร อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช

MulticollaC
ขณะที่ นายรักชาติ บุหงาชาติ ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงชนบทจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ช่วงแรกถนนสายดังกล่าวมืดมาก เราได้หารือร่วมกันว่าหากมีโครงการดังกล่าวก็จะได้ให้ความสว่างกับถนนสายถนนสาย นศ.3109 เนื่องจากเป็นถนนเลียบทางรถไฟ และเป็นช่องทางจักรยานเพื่อรณรงค์การปั่นจักรยานเพื่อสุขภาพ จึงต้องการการติดตั้งเสาไฟโซลาเซลส์ของจังหวัด จำนวน 145 ต้น

นายรักชาติกล่าวว่า เสาไฟดังกล่าวไม่ได้หายไปไหน ตอนนี้เก็บรักษาอยู่ที่เทศบาลตำบลนาสาร เนื่องจากทางเทศบาลได้รับการถ่ายโอนจากจังหวัดในการดูแลรักษาเสาไฟจำนวนดังกล่าว แต่เหตุที่ต้องถอนเสาไฟออกไป 38 ต้น ด้วยเหตุผลว่าช่วงระหว่าง กม.ที่ 0+000 ถึง กม.ที่ 1+080 ระยะทางรวม 1.080 กม. และขอย้ายเสาไฟส่องสว่าง จำนวน 38 ต้น โดยทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา


นายรักชาติกล่าวต่อว่า ส่วนลูกตุ้ม หรือฐานตอม่อ ไม่สามารถดึงออกมาได้ เนื่องจากมีความลึก 1 เมตร ต้องใช้การรื้อถอนที่มีความยุ่งยากมาก อย่างไรก็ตาม การรื้อถอนในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งในแผนดำเนินการโครงการไฟฟ้าส่องสว่างบริเวณทางแยกหลัก ถนนสาย นศ.3109 ของแขวงทางหลวงชนบท ร่วมกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จังหวัดนครศรีธรรมราช

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า โครงการจัดซื้อโคมไฟพลังงานแสงอาทิตย์ ติดตั้งเสาไฟแสงสว่างแบบ LED วงเงิน 194 ล้านบาท กำหนดติดตั้งใน 22 สายทาง จำนวน 2,998 ชุด ราคาตกเสาละ 65,000 บาท เกิดขึ้นในปี 2560 จากงบพัฒนาจังหวัด เป็นโครงการหนึ่งที่เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมในการก่อสร้าง เนื่องจากการตรวจสอบชุดอุปกรณ์ที่ประกอบด้วยแบตเตอรี่ โคมไฟ แผงโซลาเซลส์ในรุ่นและยี่ห้อเดียวกันนี้ กลับมีราคาที่แตกต่างต่ำกว่าราคาจัดซื้อจัดจ้างเพียง 25,200 บาทเท่านั้น เมื่อรวมเสาไฟฟ้า และค่าติดตั้งไม่ควรเกิน 40,000 บาท

ล่าสุด สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบ และอยู่ในระหว่างดำเนินการเรียกผู้รับผิดชอบโครงการเข้ามาชี้แจง และอาจจะต้องมีการตรวจสอบจริงจังอีกครั้งหนึ่งจาก ป.ป.ท.

ขอบคุณที่มา ข่าวมติชน

โพสต์โดย : ปลายน้ำ