คุมตัวมือปาหินชิงทอง ทำแผน เคยเป็น รปภ.แต่ตกงาน สารภาพ ไม่มีเงินส่งค่างวด
เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน จากกรณีคนร้ายเป็นชาย ก่อเหตุบุกเข้าไป ใช้ก้อนหินขว้างปาเข้าไปใน ร้านทองเยาวราช เอเชีย ภายในห้างสรรพสินค้าโลตัส สาขาบางปะอิน ริมถนนสายเอเชีย ขาออก หลักกิโลเมตรที่ 1 ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา แล้วชิงทองรูปพรรณ ขนาดต่างๆ น้ำหนัก รวม 20 บาท มูลค่ากว่า 500,000 บาท ใช้เวลาในการก่อเหตุเพียง 10 วินาที แล้วหลบหนีไป หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระอินทร์ราชา อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ได้เร่งรัดสืบสวน ตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด พร้อมทั้งวิทยุสกัดจับกุมคนร้าย
จนล่าสุดเมื่อกลางดึก เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว สามารถสกัดจับรถเก๋งคนที่คนร้ายก่อเหตุได้ พร้อมจับกุมตัวคนร้ายคือ นายธราเทพ จันทร์แดง อายุ 34 ปี ที่ ชาว ต.หนองกลับ อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ ได้พร้อมทองรูปพรรณ จำนวน 20 เส้น คนร้ายขายสร้อยทอง น้ำหนัก 1 บาทไปแล้ว จำนวน 1 เส้น ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 23 มิถุนายน พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 พร้อมด้วย พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.ชัชพล สมแก้ว ผกก.สภ.พระอินทร์ราชา อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ควบคุมตัวนาย ธราเทพ จันทร์แดง อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่ร้านทอง
เยาวราช เอเชีย ภายในห้างสรรพสินค้าโลตัส สาขาบางปะอิน ริมถนนสายเอเชีย ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา
การทำแผนดังกล่าว เริ่มตั้งแต่คนร้ายขับรถเก๋งเข้ามาจอดภายในลานจอดรถ แล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับร้านทอง สวมหมวกไหมพรม จากนั้นนำก้อนหินที่เตรียมออกมาจากเป้ ปาก้อนหินเข้าไปที่ตู้โชว์ทอง แล้วปีนขึ้นไปยืนบนเคาน์เตอร์ตู้โชว์ทอง ยกเอาถาดที่แขวนโชว์ทอง วิ่งหลบหนีไป ขับรถเก๋งที่จอดเอาไว้ที่ลานจอด
พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 กล่าวว่า จากการที่มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจซักซ้อมแผนเผชิญเหตุการณ์ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ อยู่เป็นประจำทุกเดือน ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าใจแนวทางการปฏิบัติทันทีเมื่อเกิดเหตุ หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีถึงที่เกิดเหตุ ฝ่ายสืบสวน ฝ่ายปราบปราม ทำงานอย่างรวดเร็ว เมื่อได้ข้อมูล ตำหนิรูปพรรณของคนร้าย และยานพาหนะที่มีพลเมืองดีถ่ายภาพเอาไว้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนจึงเร่งรัดติดตามประสานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตามพื้นที่ต่าง ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทาง จนสามารถประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะในพื้นที่ตำรวจภูธร ภาค 2 จนสามารถจับกุมคนร้ายได้
ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ เคยทำงานเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย แต่ตกงาน ไม่มีเงินส่งค่างวดรถ จึงตัดสินใจก่อเหตุ เพื่อหาเงินส่งค่าวงดรถ มีการพูดคุยกับญาติว่ามีทางออกแล้วที่หาเงินมาส่งค่างวดรถ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหามีการเช็กอินห้างสรรพสินค้าหลายแห่งในพื้นที่ปทุมธานีและพระนครศรีอยุธยา ก่อนที่จะมาก่อเหตุ มีการแชร์โพสข่าวคนร้ายก่อเหตุชิงทองผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ก่อนที่จะมาก่อเหตุ พักอาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานคร และตัดสินใจมาก่อเหตุที่พระนครศรีอยุธยา เพราะเคยมาแล้วและเห็นว่าร้านทองอยู่ใกล้กับทางเข้าออกห้าง จึงได้ตัดสินใจลงมือก่อเหตุ
ขอบคุณที่มา ข่าวมติชน
โพสต์โดย : ปลายน้ำ