บุกทลายเครือข่ายปืนเถื่อนออนไลน์ จับหนุ่มโรงกลึง ต้นตอลอบผลิต-ดัดแปลง
บุเมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 8 ก.ค. พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รองผบก.ป. พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ท.ณัทกฤช น้อยคําปัน รอง ผกก.5 บก.ป. พร้อมหมายค้นศาลอาญาเข้าตรวจค้นหอพักพนักงานของโรงกลึงแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ต.คลองข่อย อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เพื่อจับกุม นายประจักษ์ พูลเพียร อายุ 39 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1068/2564 ลงวันที่ 2 ก.ค.64 ข้อหา “ร่วมกันผลิตหรือรับซ่อมแซมดัดแปลงอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ,สั่งนำเข้าหรือจำหน่ายซึ่งอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ,และมีหรือครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต”กทลายเครือข่ายปืนเถื่อนออนไลน์ จับหนุ่มโรงกลึง ต้นตอลอบผลิต-ดัดแปลง
โดยพบตัวนายประจักษ์ กำลังนอนหลับพักผ่อนอยู่ในห้องพัก ก่อนเข้าตรวจค้นพบอาวุธปืนปากกา และปืนแบลงค์กัน หรือ ปืนเสียงเปล่า ที่ถูกดัดแปลงจนใช้งานได้จริงอีกหลายสิบกระบอก พร้อมเครื่องกระสุน และอุปกรณ์ส่วนควบอาวุธปืนอีกจำนวนมาก จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน
จากการจับกุมทราบว่า ก่อนเจ้าหน้าที่ได้สืบทราบว่า มีขบวนการลักลอบผลิตและจำหน่ายปืนเถื่อนออนไลน์ มีการตั้งกลุ่มลับผ่านสังคมออนไลน์ติดต่อซื้อขายแลกเปลี่ยนกันอย่างเสรีโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย จนทราบว่า นายประจักษ์ผู้ต้องหารายนี้มีส่วนเกี่ยวข้องโดยเป็นผู้ผลิต และรับดัดแปลงสิ่งเทียมอาวุธให้สามารถใช้งานได้เทียบเท่ากับอาวุธปืนทั่วไปได้อีกด้วย
เบื้องต้นสอบสวน
นายประจักษ์ ให้การรับสารภาพ ว่า ตนเป็นพนักงานของโรงกลึงดังกล่าว แต่รายได้ไม่พอ เพราะภาระค่าใช้จ่ายสูง จึงร่วมกับพวกลักลอบผลิตปืนปากกา หรือ นำสิ่งเทียมอาวุธพวกปืนบีบีกัน ปืนแบลงค์กัน มาดัดแปลงติดลำกล้องให้สามารถใช้งานได้เหมือนปืนจริงทั่วไป จากนั้นก็นำไปขายต่อให้กับพ่อค้าคนกลาง ที่จะมารับซื้อไปขายต่อในกลุ่มรับซื้อขายปืนเถื่อนออนไลน์ที่เปิดขึ้นมาเพื่อใช้ติดต่อซื้อขายปืนเถื่อนกันโดยเฉพาะ โดยทำมาแล้วนานกว่า 2 ปี ผลิตปืนขายไปแล้วกว่า 100 กระบอก
นายประจักษ์ ให้การอีกว่า สำหรับลำกล้องปืนส่วนใหญ่ตนจะทำขึ้นมาเอง เพราะมีความรู้การกลึงเหล็กอยู่บ้าง เพราะเรียนจบการศึกษาระดับปวส. มาจากวิทยาลัยแห่งหนึ่งย่านเพชรเกษม ส่วนเครื่องมือและอุปกรณ์ ที่ใช้ผลิตก็จะเป็นของโรงกลึงที่ตนเองทำงานอยู่ โดยอาศัยช่วงเวลาที่ไม่มีใครอยู่ แอบเข้าไปใช้งาน
ส่วนราคาก็ขึ้นอยู่กับประเภทของปืน เช่นปืนปากกาผลิตเองทั้งชิ้น ต้นทุนจะอยู่ที่ 400 บาท ขายต่อให้พ่อค้าคนกลางในราคา 1,100 บาท หากนำไปขายต่อจะได้ราคา 1,600 บาท ส่วนปืนแบลงค์กันและปืนบีบีกัน ต้นทุนอยู่ที่ 8,000 – 9,000 บาท เมื่อดัดแปลงติดลำกล้องเสร็จจนสามารถใช้งานได้จริงแล้ว ก็จะขายในราคา 16,000 ถึง 20,000 บาทขึ้นไป ขึ้นอยู่กับรุ่นของปืน
ขณะเดียวกันนอกจากการจับกุมดังกล่าวแล้ว เจ้าหน้าที่ยังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายอื่นๆในพื้นที่ต่างๆ เช่น จ.นคสววรค์, เพชรบูรณ์, อุบลราชธานี, อำนาจเจริญ, ชลบุรี, สมุทรปราการ, พระนครศรีอยุธยา อีกกว่า 15 จุด เพื่อติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาในเครือข่ายดังกล่าวที่เหลืออีกด้วย
ขอบคุณที่มา ข่าวสด
โพสต์โดย : ปลายน้ำ
