Social :



โจ๋18 คอตก หลักฐานมัดตัว ปมทำร้ายสาว40 ดับ หวังทำมิดีมิร้าย พบผู้เสียชีวิตติดโควิด

12 ส.ค. 64 14:08
โจ๋18 คอตก หลักฐานมัดตัว ปมทำร้ายสาว40 ดับ หวังทำมิดีมิร้าย พบผู้เสียชีวิตติดโควิด

โจ๋18 คอตก หลักฐานมัดตัว ปมทำร้ายสาว40 ดับ หวังทำมิดีมิร้าย พบผู้เสียชีวิตติดโควิด

วันที่ 12 ส.ค.2564 จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบร่าง น.ส.วราพร อายุ 40 ปี พนักงานโรงงาน แห่งใน นิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ถูกทำร้ายเสียชีวิต โดยพบร่างถูกนำมาทิ้งไว้ในคลองบางพระครู ม.3 ต.ตาลเอน อ. บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา และคนร้ายได้เผาเสื้อผ้าของผู้เสียชีวิตเพื่อทำลายหลักฐาน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา


ต่อมาผลการตรวจสอบชันสูตรพบ ผู้เสียชีวิตติดเชื้อโควิด19 ทำให้ต้องเร่งเผาร่างก่อนกำหนด เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน เร่งรัดติดตามคดี สอบสวนพยานบุคคล ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดหลายจุดประกอบ ย้อนดูหลายครั้ง สอบสวนพยานบุคคล ตรวจสอบบุคคลต้องสงสัย พร้อมกับDNA

จนล่าสุดช่วงค่ำวันที่ 11 ส.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สืบสวน ภาค1 ชุดสืบสวน ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ชุดสืบสวน สภ.บางปะหัน ติดตามไปเชิญตัวตัว นายกวิน อายุ 18 ปี เป็นคนงานก่อสร้าง ใกล้กับที่เกิดเหตุ มาสอบสวนให้การรับสารภาพ เป็นผู้ก่อเหตุจริง เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวไว้ ต่อมาช่วงเช้าที่ผ่านมาของวันนี้ นางวาสนาอายุ 47 ปี น.ส.สุดใจ ไชยศรี อายุ 30 ปี แม่และสาว ของนายกวิน ผู้ต้องหา ได้นำอาหาร มาเยี่ยมผู้ต้องหา ถูกควบคุมตัวผในห้องขัง นายกวิน ก้มหน้าร้องไห้ตลอดเวลา

นางวาสนา ไชยศรี อายุ 47 ปี แม่ นางสาวสุดใจ ไชยศรี อายุ 30 ปี พี่สาว ของนายกวิน ผู้ต้องหา เปิดเผยว่า ถ้าไม่มีพยานหลักฐานอะไร ตนเองไม่เชื่อว่า นายกวินจะก่อเหตุ ตนเองติดตามข่าวนี้และรู้สึกสงสารครอบครัวของผู้เสียชีวิต ตกใจมาก เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับกุมที่แคมป์คนงานก่อสร้าง

หลังเกิดเหตุ เคยสอบถามลูกชายว่าไปเกี่ยวข้องอะไรหรือไม่
Lif
นายกวิน ตอบว่าไม่รู้เรื่อง ไม่ไดไปใกล้ที่เกิดเหตุ นายกวิน เป็นคนเงียบๆไม่ค่อยมีเรื่องอะไรกับใคร ตั้งแต่เกิดเหตุก็ทำงานใช้ชีวิตปกติ ไม่มีความผิดปกติอะไร ขนาดตำรวจมาถึงยังไม่แสดงอาการอะไร จนตำรวจสอบสวนถึงได้รับสารภาพ

นายชัยยุทธ อายุ 40 ปี ลูกพี่ลูกน้องผู้เสียชีวิต กล่าวว่าพอทราบข่าวรีบเดินทางมาที่โรงพักทัน อยากเห็นหน้าคนร้ายว่าทำไมเป็นคนโหดเหี้ยมขนาดนี้ ไม่คิดว่าคนร้ายจะก่อเหตุเพียงคนเดียว ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจมากที่ติดตามจับกุมคนร้ายได้ ทำงานอย่างจริงจังมาโดยตลอดไม่ได้เงียบหายไป

เบื้องต้น นายกวินให้การรับสารภาพว่า วันเกิดเหตุกินเหล้าอยู่ที่แคมป์คนงานก่อสร้าง หัวหน้างานให้ไปซ่อมรถแมคโคร จึงได้ขับรถจักรยานยนต์จะไปซ่อมรถระหว่างทาง พบเห็นผู้เสียชีวิตขับขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาพอดี เห็นว่ารูปร่างดีเกิดอารมณ์ และขับรถติดตามไป จนทันแล้วถีบจนรถล้ม และ เข้าไปทำร้ายร่างกายจนสลบ

แล้วนำตัวผู้เสียชีวิตพาดกับถังน้ำมันรถจักรยานยนต์ ของตนเองพามายังที่ ริมคลอง จับถอดเสื้อหวังจะทำมิดีมิร้าย แต่ผู้เสียชีวิตฟื้นขึ้นมา และเกิดการต่อสู้กัย จึงใช้ก้อนหินทุบที่ศีรษะจนแน่นิ่งไป จากนั้นคิดว่าเสียชีวิต จึงกระชากเอาสร้อยคอ หนัก1 บาท ติดมือมาด้วย ส่วยโทรศัพท์โยนทิ้งน้ำในคลอง แล้วนำร่างทิ้งลงในคลอง จากนั้นกลับมาที่พัก นำทองคำโยน หลังที่พัก เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตามตรวจยึดมาได้


รายงานข่าวระบุว่า หลักฐานที่นำไปสู่การจับตัวคนร้ายนั้น เป็นซาวด์อะเบาท์ ที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ ซึ่งเจ้าหน้าที่นำไปตรวจหาดีเอ็นเอ แล้วนำมาเปรียบเทียบกับผู้ต้องสงสัย ที่มีบ้านไม่ห่างจากที่เกิดเหตุ พบว่าดีเอ็นเอตรงกับชายวัย 18 ดังกล่าว เมื่อนำตัวมาสอบสวน จึงรับสารภาพ และนำชี้จุดซ่อนของกลางคือ สร้อยคอทองคำ ทรัพย์สินของผู้ตาย ขณะนี้กำลังสอบสวนขยายผล ว่าทำเพียงคนเดียวจริงหรือไม่

ขอบคุณที่มา   ข่าวสด

โพสต์โดย : ปลายน้ำ