ป้าจ้อย สุดยอดคุณแม่ วัย 90 ปี เลี้ยงดู ลูกสาวฝาแฝดวัย51 พิการมาตั้งแต่ 6 ขวบ
วันที่ 12 ส.ค.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หมู่ 7 ต.ดงพระราม อ.เมืองจ.ปราจีนบุรี มีเรื่องราวความรักของแม่ต่อลูก ที่ไม่มีวันเสื่อมคลาย ที่แม่เฒ่า วัย 90 ปี ชื่อนางจ้อย จิตรพินิจ ที่มีต่อลูกสาวฝาแฝดพิการ จ.ปราจีนบุรี กับลูกสาวฝาแฝด คือ น.ส.ธิดารัตน์ หรือเล็ก และน.ส.กัลยา หรือใหญ่ อายุ 51 ปี โดยลูกสาวฝาแฝดของนางจ้อยนั้น เป็นโรคกระดูกงอกมาตั้งแต่อายุ 6 ขวบ ส่งผลให้ลูกฝาแฝดทั้งคู่ของนางจ้อยไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ จนถึงปัจจุบันนั้น
โดยแต่ละวันจะคอยดูแลลูกสาวฝาแฝดพิการทั้งคู่ นับจากการให้น้ำ ป้อนข้าว ทำความสะอาดไม่ให้เกิดแผลกดทับ เพราะลูกสาวทั้ง 2 ที่พิการ คนแรกธิดารัตน์จะนอนกับที่อย่างเดียวลุกไม่ได้ ส่วนกัลยา ลุกยืนได้ แต่ก็ต้องช่วยประคับประคอง และนั่งไม่ได้
ในวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม นี้ ความรู้สึกของนางจ้อยที่มีต่อลูกสาวฝาแฝดนั้น นางจ้อย กล่าวเพียงสั้น ๆ ว่า“รักและทะนุถนอมดูแลลูกตลอด และสงสารมาก ที่ลูกสาวฝาแฝดพิการ แม่รักลูกอย่างไรก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลง” เกรงว่าปั้นปลายนี้ที่ตนเองสังขารทรุดโทรมมาก หูตึงฟังไม่ค่อยรู้เรื่องแล้ว เดินเหินลำบากมาด่วนตายจากไปลูกพิการจะเป็นอย่างไร
ทั้งนี้ ก่อนหน้า นั้นปี พ.ศ.2551 ป้าจ้อย เคยได้รับรางวัล “แม่ดีเด่น” จาก นางพรรณี แก่นสุวรรณ ผวจ.ปราจีนบุรี เนื่องในวันแม่แห่งชาติเป็นขวัญและกำลังใจมาก่อนหน้านี้ และยังได้รับความเมตตาจากหลวงพ่อเงินเจ้าอาวาสวัดสะเดาโด่(วัดแก้วสามัคคี) คอยเมตตาให้ข้าวก้นบาตรมาโดยตลอด ตามที่นำเสนอรายละเอียด ก่อนหน้านี้นั้น
ผู้สื่อข่าว ได้มาที่บ้านปูนชั้นเดียวของป้าจ้อยอีกครั้ง ตั้งแต่เช้า พบลูกสาวและหลานสาว ของป้าจ้อยบ้านข้าง ๆ ชื่อนางเลนศรี โอวาสสุวรรณ และ หลานสะใภ้ นางสาวนิภาพร เคนพันธุ์ ได้นำอาหารมาให้ คุณยายจ้อยและน้องสาวได้รับประทาน โดยนำมาให้เป็นประจำทุก ๆ วันเป็นกิจวัตร พร้อม ๆกันนั้น ได้นำดอกไม้มากราบนางจ้อยด้วยในวันแม่
บรรยากาศหลังยายจ้อย ได้รับอาหารมาจากลูกสาว หลานสะใภ้ข้างบ้าน ยายก็เอากับข้าวที่ลูกสาว บางที่ก็หลานสะใภ้นำมาให้นี้ นำมาอุ่นปรุงอีกรอบพอร้อนๆที่เตาแก๊สหน่อย ไม่ให้เกิดมีเชื้อโรค เชื้อรา สำหรับคนพิการกิน แล้วก็นำมาป้อนให้ลูกสาวที่พิการทั้ง2คนได้กิน พร้อมๆปัดกวาดบ้านให้สะอาดสะอ้านน่าอยู่ ซึ่งเป็นช่วงที่ หลังจากคุณยายจ้อยร่างกายเริ่มอ่อนแอลง
จากที่เมื่อก่อนนี้นั้น คุณยายจะเดินไปทำกิจกรรมช่วยเหลืองานพระสงฆ์ ที่วัดแก้วสามัคคีธรรม (วัดสระเด่าโด่) ปัดกวาด ถู ล้างจาน จัดเสนาสนะ ขากลับก็จะนำอาหารจากวัดหรือข้าวก้นบาตรพระมาให้ลูกสาวทั้ง2คนได้รับประทาน
บรรยากาศหลังยายจ้อย ได้รับอาหารมาจากลูกสาว หลานสะใภ้ข้างบ้าน ยายก็เอากับข้าวที่ลูกสาว บางที่ก็หลานสะใภ้นำมาให้นี้ นำมาอุ่นปรุงอีกรอบพอร้อนๆที่เตาแก๊สหน่อย ไม่ให้เกิดมีเชื้อโรค เชื้อรา สำหรับคนพิการกิน แล้วก็นำมาป้อนให้ลูกสาวที่พิการทั้ง2คนได้กิน พร้อมๆปัดกวาดบ้านให้สะอาดสะอ้านน่าอยู่ ซึ่งเป็นช่วงที่ หลังจากคุณยายจ้อยร่างกายเริ่มอ่อนแอลง
จากที่เมื่อก่อนนี้นั้น คุณยายจะเดินไปทำกิจกรรมช่วยเหลืองานพระสงฆ์ ที่วัดแก้วสามัคคีธรรม (วัดสระเด่าโด่) ปัดกวาด ถู ล้างจาน จัดเสนาสนะ ขากลับก็จะนำอาหารจากวัดหรือข้าวก้นบาตรพระมาให้ลูกสาวทั้ง2คนได้รับประทาน
จากการสอบถามผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 นายพนดล บุญเกิด กล่าวว่า ได้มีการช่วยเหลือไปบ้างแล้วในเบื้องต้นทั้งข้าว อาหารแห้ง และ อสม.มาดูแล ส่วนวัคซีนโควิด-19 ก็ได้จัดสรรของคนที่มีอายุเกิน60 และคนพิการ แล้ว และในอดีต ทางคณะกรรมการหมู่บ้าน ได้เสนอชื่อให้ คุณยายจ้อย จิตรพินิจได้รับรางวัลและใบประกาศเกียติคุณ”คุณแม่ดีเด่น” ประกาศเชิดชูเกียรติอีกด้วย เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2551
และจากที่ผู้สื่อข่าวนำเสนอเรื่องราวความรักของแม่วัย 90 ปี ต่อลูกสาวฝาแฝดพิการ พบมีคนสอบถามอยากช่วยเหลือ แม่ดีเด่น สามารถดูแลช่วยเหลือได้ที่ ชื่อบัญชี นางจ้อย จิตรพินิจ ประเภทออมทรัพย์ 010102246140 ธกส
ในส่วนของบรรยากาศวันแม่ตามสถานศึกษาทุกสังกัด ที่ปกติจัดงานวันแม่ นั้นโรงเรียนทุกสังกัดปิดการเล่าเรียนเนื่องจาก เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดหรือแดงเข้ม พบครูโรงเรียนเทศบาล 2 (วัดหลวงปรีชากูล) ได้มอบหมายให้นักเรียน ได้เขียนการ์ดบอกรัก-ความในใจอวยพรถึงแม่ พร้อมให้นำการ์ดอวยพรให้กับแม่ และบันทึกภาพนาทีบอกรักแม่-ส่งการ์ดวันแม่นี้ ส่งช่วงเรียนออนไลน์ด้วย
ขอบคุณที่มา ข่าวสด
โพสต์โดย : ปลายน้ำ
