Social :



นิวไฮ! วันเดียว กทม.ป่วยพุ่ง 5,140 ราย ชี้ ยังต้องพึ่งล็อกดาวน์-เร่งฉีดวัคซีน

13 ส.ค. 64 15:08
นิวไฮ! วันเดียว กทม.ป่วยพุ่ง 5,140 ราย ชี้ ยังต้องพึ่งล็อกดาวน์-เร่งฉีดวัคซีน

นิวไฮ! วันเดียว กทม.ป่วยพุ่ง 5,140 ราย ชี้ ยังต้องพึ่งล็อกดาวน์-เร่งฉีดวัคซีน

เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)(ศบค.) แถลงสถานการณ์ประจำวัน ว่า ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 35 ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ 23,418 ราย

หายป่วยกลับบ้าน 20,083 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 184 ราย กำลังรักษา 212,179 ราย อยู่ในโรงพยาบาล 61,299 คน โรงพยาบาลสนาม และอื่น ๆ 150,880 ราย อาการหนัก 5,565 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 1,111 ราย ไทยเรายังอยู่ในกลุ่มผู้ติดเชื้อที่มีตัวเลขที่สูง รองลงมาจากอินโดนีเซีย และมาเลเซีย ซึ่งต้องติดตามและหามาตรการในการควบคุมโรค ขณะที่ สหรัฐอเมริกา ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่ 143,537 ราย

“เป็นสิ่งที่น่ากังวลใจ ว่าการจะควบคุมโรคนี้ให้ประสบความสำเร็จ จะต้องใช้มาตรการใดบ้างนอกจากการล็อกดาวน์ การใช้วัคซีน ส่วนตัวเลขผู้ฉีดวัคซีน เข็มที่ 1 จำนวน 171,488 ราย เข็มที่ 2 จำนวน 28,359 ราย เข็มที่ 3 จำนวน 19,993 ราย โดยอยากให้เน้นกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ และ 7 กลุ่มโรคร้าย เพราะเป็นกลุ่มเปราะบางกลุ่มแรกๆ ที่ได้รับผลกระทบจากการติดเชื้อและทำให้เสียชีวิต จึงขอให้เร่งมารับวัคซีน เพื่อทำให้อัตราการเสียชีวิตลดลง”


นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า สำหรับ 10 จังหวัด ผู้ติดเชื้อสูงสุด ดังนี้ กรุงเทพฯ 5,140 ราย สมุทรปราการ 1,936 ราย สมุทรสาคร 1,847 ราย ชลบุรี 1,408 ราย นนทบุรี 731 ราย อุบลราชธานี 537 ราย นครปฐม 532 ราย บุรีรัมย์ 530 ราย สระบุรี 485 ราย และพระนครศรีอยุธยา 484 ราย

ทั้งนี้ในส่วนกรุงเทพฯ ถือเป็นนิวไฮ เป็นผลจากการตรวจเชิงรุก และใช้วิธีการตรวจโดยเร็ว เข้าไปในชุมชน ซึ่งมีโอกาสพบเชื้อ 1:10 ดังนั้นขอให้คนที่คิดว่ามีความเสี่ยงแยกตัว จากครอบครัวและชุมชน เพื่อมารับการตรวจโดยเร็วที่สุด มีการรายงาน ทีมค้นหาเชิงรุก รายงานว่ามีการติดเชื้อจากผู้สัมผัสเสี่ยงสูงถึงร้อยละ 15.78 มากกว่า 1:10 ซึ่งกทม.จะรับหน้าที่ดังกล่าวต่อเนื่อง และเสนอข้อมูลเหล่านี้ต่อประชาชน เพื่อให้มีส่วนร่วมในการป้องกัน


โฆษก ศบค. กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังมีการรายงานคลัสเตอร์ใหม่ ในจังหวัดสมุทรสาคร 3
Lif
กลุ่ม โรงงานผลิตกระป๋อง 16 ราย โรงงานเฟอร์นิเจอร์ 14 ราย และ โรงงานทอผ้า 9 ราย ชลบุรี โรงงานผลิตภัณฑ์อาหาร 21 ราย และนนทบุรี บริษัทเสื้อผ้า 58 ราย นครปฐม บริษัทเครื่องกีฬา 10 ราย ระยอง โรงงานอาหารทะเล 16 ราย สุพรรณบุรี โรงงานน้ำแข็ง 17 ราย ประจวบคีรีขันธ์ โรงงานผลไม้กระป๋อง 14 ราย ตาก หอพักนักเรียน 13 ราย จันทบุรี ค่ายตากสิน 19 ราย

จะเห็นว่าในต่างจังหวัด จะมีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งมีการหารือ ว่า พบเชื้อแล้ว ต้องทำ บับเบิลแอนด์ซีลแยกผู้ป่วยออกมา สำหรับการรายงานผู้ป่วยสะสมที่นำเข้าเขตสุขภาพ 1-12 ในต่างจังหวัด กระจายไปในภาคอีสานจำนวนมาก ระบบสาธารณสุขรองรับและดูแลผู้ป่วยที่กลับบ้านเป็นอย่างดี เป็นความร่วมมือทั้งวัดและชุมชน ให้ใช้พื้นที่ในการดูแลผู้ป่วย โดยหลายที่ยังมีความรู้สึกว่าผู้ป่วยเป็นที่น่ารังเกียจ ของชุมชน ก็ต้องพึงวัดในการให้ที่พัก

“มีการวิเคราะห์การติดเชื้อและเสียชีวิต จะเห็นว่า ช่วงอายุ 50-59 ไม่สูงมาก อยู่ที่ร้อยละ 1.47 ตัวเลขเสียชีวิตจะไปมากในช่วงอายุ 60-69 ปี ร้อยและ 12.48 ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 834,326 ราย เสียชีวิตสะสม 7,032 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.84 กลุ่มเป้าหมายที่ต้องเข้าถึงวัคซีนโดยเร็วคือ ผู้สูงอายุ ซึ่งจะช่วยลดอัตราการเสียชีวิตลงได้ พยายามจะเน้นย้ำในทุก ๆ ครั้ง ที่ประชุมศบค. ยังรับทราบการคาดการณ์ติดเชื้อ ถ้าไม่มีการล็อกดาวน์ จะเกิดการติดเชื้อช่วงปลายเดือนสิงหาคม-ต้นกันยายน อยู่ที่ 6-7 หมื่นราย

ถ้าล็อกดาวน์อย่างมีประสิทธิภาพ ร้อยละ 20 การติดเชื้อก็จะพุ่งสูงขึ้นจากปัจจุบัน อยู่ที่ 45,000 ราย ในประมาณต้นเดือนกันยายน เพราะฉะนั้นถ้าร่วมมือกันมากกว่านี้ เพื่อจะลดจำนวนผู้ติดเชื้อ ให้ได้ ร้อยละ 5 รวมเป็น ร้อยละ 25 ต้องพึ่งการล็อกดาวน์ที่มีประสิทธิภาพนาน 2 เดือน และเร่งฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มเป้าหมาย คิดว่าจะช่วยลดจำนวนผู้ติดเชื้อลงมาได้ แต่นั่นก็หมายความว่า จะมีตัวเลขผู้ติดเชื้อแตะๆ 20,000 รายต่อเนื่อง ตรงนี้เป็นการคาดการณ์จากกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ซี่งไม่ได้ขัดจากความเป็นจริง ” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว


ขอบคุณที่มา    ข่าวมติชน

โพสต์โดย : ปลายน้ำ