มีมติสภาเห็นชอบตามที่กมธ.แก้รธน.เสนอบัตรลต.2ใบ

มติที่ประชุมร่วมรัฐสภา 476:70 เห็นชอบตามที่ กมธ.แก้ รธน. เสนอให้ใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ

การประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ (ฉบับที่…) พ.ศ…. ( แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 83 และมาตรา 91 ว่าด้วยระบบเลือกตั้ง) ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) จัดทำแล้วเสร็จในวาระสอง โดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สมาชิกรัฐสภา อภิปรายสนับสนุนร่างรัฐธรรมนูญในมาตรา 83 และมาตรา 91 ที่ให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2 ประเภท แยกวิธีเลือกตั้งเป็นแบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อ นำไปสู่กลไกที่สร้างความยุติธรรมให้ทุกพรรคการเมือง เป็นวิธีการเลือกตั้งที่ดำรงอยู่ในระยะยาว เป็นระบบที่ทำให้ระบบรัฐสภามีประสิทธิภาพสูงสุด มีความเข้มแข็งในระบบพรรคการเมือง ส่งเสริมความหลากหลายทางความคิดในระบอบประชาธิปไตย และให้ทุกคะแนนเสียงสะท้อนกับความต้องการของประชาชนได้ เพื่อให้เกิดการจัดตั้งรัฐบาลที่เป็นของประชาชนอย่างแท้จริง

ขณะพลตำรวจโท ศานิตย์ มหถาวร สมาชิกรัฐสภา ได้ขอแปรญัตติไว้ 3 มาตรา เนื่องจาก จะเป็นประโยชน์ต่อการเมืองไทย โดยเฉพาะปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียงที่เป็นสิ่งทำลายประชาธิปไตย ซึ่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะปรับเปลี่ยนการเลือกตั้งแบบใหม่ โดยใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ คือ แบ่งเป็น ส.ส.แบบเขตเลือกตั้ง 400 คน และแบบบัญชีรายชื่อ 100 คน ถือว่าถอยหลังลงคลอง อีกทั้ง การเพิ่ม ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งจะทำให้เกิดการซื้อสิทธิ์ขายเสียงเพิ่มมากขึ้น

ด้านนายคำนูณ สิทธิสมาน สมาชิกรัฐสภา ในฐานะกรรมาธิการ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า การที่กรรมาธิการตัดสินใจเติมการเลือกตั้งโดยตรงและโดยลับ เนื่องจาก รัฐธรรมนูญ ปี 2560 บัญญัติให้การเลือกตั้งโดยตรงและลับไว้ในมาตรา 85 ซึ่งแต่เดิม ส.ส.ต้องมาจากการเลือกตั้งแบบเขตเลือกตั้ง เพราะรัฐธรรมนูญปี 2560 เป็นการเลือกตั้งแบบเขตเลือกตั้งด้วยบัตรใบเดียว แล้วนำคะแนนไปคิดทั้งเขตเลือกตั้งและบัญชีรายชื่อ แต่เมื่อมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จึงต้องการเปลี่ยนไปใช้ระบบบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ คือ ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง และส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ หากไม่ระบุให้ชัดเจนว่าจะให้ใช้วิธีการออกเสียงลงคะแนนโดยตรงและลับไปบัญญัติไว้ในมาตรา 83 จะกลายเป็นว่าใช้การลงคะแนนโดยตรงและลับ เฉพาะ ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งหรือไม่

อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดแล้วที่ประชุมมีมติผ่านมาตรา 3 ให้ยกเลิกความในมาตรา 83 ให้ไปใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ด้วยคะแนน เห็นด้วยกับการแก้ไขของกรรมาธิการ ด้วยคะแนนเสียง 476 เสียง ไม่เห็นด้วย 70 เสียง งดออกเสียง 91 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 1 เสียง

 

ขอบขอบคุณข้อมูลจาก:innnews