Social :



ชาวบ้านกว่า 200 คน ปีบแตรรถ เผาหุ่น ขับไล่ปลัด อบต.หลังไม่ได้เงินฌาปนกิจศพ

06 ก.ย. 64 18:09
ชาวบ้านกว่า 200 คน ปีบแตรรถ เผาหุ่น ขับไล่ปลัด อบต.หลังไม่ได้เงินฌาปนกิจศพ

ชาวบ้านกว่า 200 คน ปีบแตรรถ เผาหุ่น ขับไล่ปลัด อบต.หลังไม่ได้เงินฌาปนกิจศพ

เมื่อวันที่ 6 ก.ย.  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านหมู่ที่ 2 – 4 – 8 – 10 และหมู่ 15 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี กว่า 300 คน ชุมนุมประท้วงกันที่บริเวณหน้า อบต.รางบัว เพื่อขับไล่ปลัด อบต.ออกจากพื้นที่ จากกรณีไม่ได้รับงานเงินกลุ่มฌาปนกิจศพผู้ ชมรมผู้สูงอายุสถานีอนามัยบ้านหนองนกกระเรียน หลังชาวบ้านได้ส่งเงินคนละ 50 บาทเข้ากลุ่มไปแล้วนับสิบปี บางคนเสียชีวิตไปแล้วญาติได้มาทวงถาม แต่ยังไม่ได้รับเงินค่าทำศพของกลุ่มแต่อย่างใดเป็นเงินคนละหลักหมื่น – หลักแสนบาท

จนชาวบ้านเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับประธานกลุ่ม และคณะกรรมการฯ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด ต่อมาได้มีการยกเลิกกลุ่มเก่า และมาตั้งกลุ่มฌาปนกิจขึ้นมาใหม่อีกชุด โดยให้สมาชิกทั้งเก่าและใหม่มาลงซื่อเป็นสมาชิก และให้จ่ายเงินก่อนคนละ 5,000 บาท ซึ่งชาวบ้านที่เสียค่าฌาปนกิจไปหลายปียังไม่ได้รับเงิน และมาตั้งใหม่อีก ของเก่ายังไม่ได้แล้วของใหม่จะได้หรือเปล่าจึงได้มารวมตัวกันเพื่อเรียกร้องเงินที่เสียไปแล้วกลับคืนมา


ด้วยการนำรถยนต์พร้อมเครื่องขยายเสียงมาตั้งที่หน้า อบต.รางบัว เรียกร้องให้ปลัด อบต. มาชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีเรื่องเงินกลุ่มค่าฌาปนกิจศพ อีกทั้งเรื่องการก่อสร้างฟาร์มเลี้ยงสุกรในตำบลรางบัว ให้มีการก่อสร้างได้อย่างไร เพราะฟาร์มที่มีอยู่แล้วก็สร้างปัญหาเรื่องน้ำเสียให้กับชุมชนตลอดมา และจะมาสร้างโรงใหม่อีก ทำชาวบ้านต้องออกมาคัดด้านดังกล่าว โดยผู้ประท้วงได้ขึ้นปราศรัยบนรถบรรทุกประกาศผ่านเสียงขยายเสียง และให้รถบีบแตรเสียดัง เพื่อให้ปลัด อบต.ได้ยินให้ลงมาชี้แจงกับชาวบ้าน โดยมี พ.ต.อ.ไวโรจน์ แน่นพิมาย ผกก. สภ.จอมบึง นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่

นางเตือนใจ มิอะ ตัวแทนชาวบ้าน เปิดเผยว่า เคยไปยื่นหนังสือมา 3 ครั้งแล้ว ทวงถามแต่เรื่องเงียบหาย ได้ไปยื่นคัดค้านฟาร์มหมูและไปติดตามเรื่องเงินกลุ่มฌาปนกิจศพว่าภายใน 7 วันที่ได้ไปยื่นหนังสือที่ศาลากลางนั้นมีความคืบหน้าไปอย่างไร และไปทวงถามอีกครั้งว่าทำไมศูนย์ดำรงธรรมมีชาวบ้านมาร้องเรียนแล้ว ถึงส่งรายชื่อของชาวบ้านให้กับผู้ที่ถูกร้องด้วย และถ้าภายใน 7 วัน

ยังไม่สามารถย้ายปลัด อบต. นี้ออกไปได้ ก็จะเดินหน้าต่อไป ถ้าไม่มีใครมาชี้แจงจะเดินหน้าไปที่ กระทรวงมหาดไทย และอธิบดีกรมปกครอง ซึ่งชาวบ้านเดือนร้อนค่าฌาปนกิจศพบ้านหนองนกกระเรียนตั้งมาเกือบ 30 ปี ชาวบ้านส่งเงินศพละ 50 บาท จู่ ๆ มีคณะกรรมการบอกว่าหัวหน้าสายไม่เอาเงินมาส่งให้ ไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ ตนเองยังเป็นสมาชิกมา 9 ปี ไม่ส่งต่อแล้วเพราะเงิน 5,000 บาท เศรษฐกิจยุคนี้ลำบากมาก ส่วนศพก็ไม่สามารถตรวจสอบได้ เพราะไม่มีการชี้แจงรายละเอียด ข่าวว่าบางบิลของเก่าที่มาเก็บเงินซ้ำ เช่น อาทิตย์นี้ 4 ศพ ๆ ละ 50 บาท พอต่อมาก็จะมีบิลชื่อ นามสกุลนี้ไปเก็บซ้ำอีกชาวบ้านไม่ได้ดูก็จ่ายให้ตามบิล


ด้วยการนำรถยนต์พร้อมเครื่องขยายเสียงมาตั้งที่หน้า อบต.รางบัว เรียกร้องให้ปลัด อบต. มาชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีเรื่องเงินกลุ่มค่าฌาปนกิจศพ อีกทั้งเรื่องการก่อสร้างฟาร์มเลี้ยงสุกรในตำบลรางบัว ให้มีการก่อสร้างได้อย่างไร เพราะฟาร์มที่มีอยู่แล้วก็สร้างปัญหาเรื่องน้ำเสียให้กับชุมชนตลอดมา และจะมาสร้างโรงใหม่อีก ทำชาวบ้านต้องออกมาคัดด้านดังกล่าว โดยผู้ประท้วงได้ขึ้นปราศรัยบนรถบรรทุกประกาศผ่านเสียงขยายเสียง และให้รถบีบแตรเสียดัง เพื่อให้ปลัด อบต.ได้ยินให้ลงมาชี้แจงกับชาวบ้าน โดยมี พ.ต.อ.ไวโรจน์ แน่นพิมาย ผกก. สภ.จอมบึง นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่

นางเตือนใจ มิอะ ตัวแทนชาวบ้าน เปิดเผยว่า เคยไปยื่นหนังสือมา 3 ครั้งแล้ว ทวงถามแต่เรื่องเงียบหาย ได้ไปยื่นคัดค้านฟาร์มหมูและไปติดตามเรื่องเงินกลุ่มฌาปนกิจศพว่าภายใน 7 วันที่ได้ไปยื่นหนังสือที่ศาลากลางนั้นมีความคืบหน้าไปอย่างไร และไปทวงถามอีกครั้งว่าทำไมศูนย์ดำรงธรรมมีชาวบ้านมาร้องเรียนแล้ว ถึงส่งรายชื่อของชาวบ้านให้กับผู้ที่ถูกร้องด้วย และถ้าภายใน 7 วัน

ยังไม่สามารถย้ายปลัด อบต. นี้ออกไปได้ ก็จะเดินหน้าต่อไป ถ้าไม่มีใครมาชี้แจงจะเดินหน้าไปที่ กระทรวงมหาดไทย และอธิบดีกรมปกครอง ซึ่งชาวบ้านเดือนร้อนค่าฌาปนกิจศพบ้านหนองนกกระเรียนตั้งมาเกือบ 30 ปี ชาวบ้านส่งเงินศพละ 50 บาท จู่ ๆ มีคณะกรรมการบอกว่าหัวหน้าสายไม่เอาเงินมาส่งให้ ไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ ตนเองยังเป็นสมาชิกมา 9 ปี ไม่ส่งต่อแล้วเพราะเงิน 5,000 บาท เศรษฐกิจยุคนี้ลำบากมาก ส่วนศพก็ไม่สามารถตรวจสอบได้ เพราะไม่มีการชี้แจงรายละเอียด ข่าวว่าบางบิลของเก่าที่มาเก็บเงินซ้ำ เช่น อาทิตย์นี้ 4 ศพ ๆ ละ 50 บาท พอต่อมาก็จะมีบิลชื่อ นามสกุลนี้ไปเก็บซ้ำอีกชาวบ้านไม่ได้ดูก็จ่ายให้ตามบิล


พอกลุ่มเก่าเลิกก็มาตั้งกลุ่มใหม่ และให้จ่ายเงินใหม่ 5,000 บาท ของเก่ายังไม่ได้ ของใหม่ก็จะมาเอาอีก ไม่มีใครสานต่ออีก ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน บางคนได้เข้าไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว พร้อมได้ปรึกษาทนายได้แนะนำว่า ให้มีการรวมตัวเพื่อให้ชาวบ้านลงชื่อมีหลักฐานแล้วจะนำไปเสนอผู้ว่าราชการจังหวัด และเอาไปฟ้องร้องให้ มีเงินหมุนเวียนรุ่นเก่าของปู่ย่า ตายาย มีเงินสะสมเป็นสิบล้านบาท ปลัด อบต. คนนี้มาดำเนินการต่อทำให้ของเก่าเก็บมาได้อีก 19 ล้านบาท

และเก็บของใหม่อีกคนละ 5,000 บาท ได้เงินอีก 7 ล้าน 8 แสนบาท ไม่รู้เงินไปอยู่ที่ไหน ชาวบ้านอยากให้ย้ายปลัด อบต.รางบัว จะได้ไม่ต้องมาวุ่นวายให้ตำบลนี้
MulticollaC
นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านกลุ่มเก่าไปแจ้งความเป็นสิบคน กลุ่มใหม่เมื่อวานอีก 4 คน และยังมีอีกหลายสิบคนที่ไม่รู้ว่าจะไปหาใครมาช่วยเหลือ ซึ่งได้รับคำแนะนำจากทนายให้ชาวบ้านที่เหลือมาลงทะเบียนไว้ แล้วจะเป็นตัวแทนไปร้องเรียนผู้ว่าราชการจังหวัดและที่ศาลปกครองได้


นางพรรณิตา ชิตานุวัตร ปลัด อบต.รางบัว เปิดเผยว่า ที่ชาวบ้านมาร้องเรียนเรื่องแรกเป็นเรื่องฟาร์มหมู นายก อบต.รางบัว ได้เซ็นอนุญาตก่อสร้างอาคารเลี้ยงสุกรเรียบร้อยแล้ว มีการทำประชาคมทุกอย่างเสร็จพร้อมเรียบร้อยแล้ว ก่อนที่ตนจะมารับตำแหน่ง เพิ่งกลับมาอยู่ อบต.รางบัวได้แค่ 5 เดือน ก็มาเห็นว่าฟาร์มสุกรได้ถูกอนุญาตไปแล้ว และมีกลุ่มคัดค้านมายื่นคัดค้านขอให้ปลัดยกเลิกใบอนุญาต ซึ่งไม่ใช่อำนาจหน้าที่ของปลัดในการยกเลิกใบอนุญาต พยายามชี้แจงไปแล้วว่าไม่ได้เนื่องจากไม่มีกฎหมายใดรองรับ แต่จะเข้าไปตรวจสอบให้ โดยพบว่ามีการขุดดินลึกเกินกว่าที่ขอไว้

จึงได้สั่งระงับให้แก้ไข ส่วนการก่อสร้างอาคารเห็นว่ายังไม่เกิดความเข้าใจก็เลยขอให้ชะลอไว้ จนกว่าจะมีเอกสารเรื่องสิ่งแวดล้อมมาเพิ่มเติม ต่อมาได้มีการประชุมตัวแทนผู้นำชุมชนรวมทั้งกลุ่มผู้คัดค้านได้ เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. มีหลักฐานยืนยันว่าทางฟาร์มได้มีชี้แจงเรื่องสิ่งแวดล้อมแล้ว อบต.ก็ได้เก็บข้อมูลไประดับหนึ่ง มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่ว่าส่วนการเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วยไม่ได้มีผลผูกพันไปยกเลิกใบอนุญาตเขา เราแค่รับฟังเพื่อให้เขาปรับปรุงต่อไป ส่วนการเลี้ยงสุกร ยังอยู่ในขั้นตอนก่อสร้างฟาร์มอยู่

ส่วนเรื่องเงินฌาปนกิจนั้น เป็นกลุ่มเดิมชื่อ กลุ่มผู้สูงอายุสถานีอนามัยบ้านหนองนกกระเรียน ซึ่งมีอดีต นายก อบต. เป็นประธาน และมีกรรมการอีก 4 คน เมื่อปี2563 มีสมาชิกเสียชีวิตอยู่จำนวนกว่า 100 คน ที่ยังไม่ได้รับเงิน เดิมเคยตั้งจ่ายไว้ประมาณ 150,000 บาท โดยที่ไม่คำนึงถึงจำนวนสมาชิกว่ามีกี่คน ก็จ่ายที่เงิน 150,000 บาท ทำให้เกิดการขาดสภาพคล่องการจ่ายเงิน มีการโจมตีคนเก็บเงินว่าไม่มีการเก็บเงินมาส่งให้ พอนายก อบต.รางบัว

โดนชาวบ้านทวงเงินจึงลากออกจากตำแหน่ง และกรรมการพากันลาออกเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2563 แล้วทิ้งชาวบ้านลอยแพ มีกลุ่มชาวบ้านบางคนเข้ามาหาตนเองให้ช่วยดูเรื่องนี้ให้หน่อย ก็เลยชี้แจงว่ากลุ่มนี้จัดตั้งโดยที่ไม่ได้จดทะเบียน ไม่เกี่ยวข้องกับทางราชการ จึงทำได้แค่ตรวจสอบดูเอกสารหลักฐานให้ พบว่ามีคนเก็บเงินเรียกหัวหน้าสาย จะมีทีมคอยเก็บเงินเอามาส่งแต่ไม่ได้เอาเงินมาส่งให้ เอาเงินมาใช้เองส่วนตัว เป็นเงินหลักล้านบาท


จึงเรียกเข้ามาทำบันทึกยืนยันว่าได้เอาเงินไปจริง และให้เอาเงินมาจ่ายให้สมาชิกคืน บางคนคืนแล้ว บางคนยังคืนไม่ครบ บางคนไม่คืนเงินเลย ซึ่งมีหลักฐานอยู่ มีนับสิบคนที่เป็นคนเก็บเงินและได้นำเงินไปหลักแสน- หลักล้านบาท สมาชิกบางคนก็ยังไม่ได้ส่งเงินและขาดจากการเป็นสมาชิก เนื่องจากชมรมเดิมกำหนดไว้ว่าถ้าขาดส่ง 1 เดือน ก็จะถูกตัดเป็นสมาชิก ทำให้คนที่ตายแล้วไม่ได้ส่งเงินจะไม่ได้เงินด้วย จึงพยายามเยียวยาว่าขอให้สมาชิกมาช่วยจ่ายเงินให้กับคนที่เสียชีวิตด้วย โดยได้พยายามหากรรมการชุดใหม่เป็นชุดเฉพาะกิจที่จะมาช่วยเหลือชาวบ้าน พยายามชี้แจงให้เข้าใจ พอเก็บเงินได้ก็จ่ายไปแล้วกว่า 20 ล้านบาทเมื่อปี 63 ก็จบไป แต่ยังมีคนในปี 63 อยู่ 6-8 คน เพราะสายที่เก็บเอาเงินไปแล้วไมคืน จึงไม่รู้จะไปเอาเงินที่ไหนมาคืนให้ ต้องให้เขาไปทวงกับหัวหน้าสายที่เก็บเงินไป

จึงให้ชาวบ้านมาตั้งชมรมใหม่ว่า ชมรมกองทุนสวัสดิการผู้สูงอายุตำบลรางบัว มีสมาชิกประสงค์จะเข้าใหม่และที่ออกจากชมรมเก่ามาเข้าใหม่ทั้งหมดกว่า 1,400 คน ได้จ่ายเงินมาแล้ว 5,000 บาท เป็นเงินจ่ายค่าศพ 100 ศพ ศพละ 50 บาท จ่ายล่วงหน้าไว้ ตอนนี้มีคนตาย 62 ศพ ยังคงเงินที่ต้องจ่ายได้อีก แต่สมาชิกที่ลงชื่อไว้กลับไม่มาจ่ายเงิน บางคนจ่ายมาคนละ 1000 – 2000 บาท ก็หยุดจ่าย ทำให้คนที่รอรับเงินจำนวนที่เหลือยังไม่เงินค่าทำศพ ส่วนเรื่องรายชื่อชาวบ้านที่ไปร้องเรียนทั้งหมดมาอยู่ที่ปลัดหมดเลย โดยจังหวัดส่งมาให้อำเภอ และอำเภอส่งมาให้ อบต. ให้มาชี้แจงข้อเท็จจริงว่าที่ชาวบ้านขับไล่ปลัดนั้นด้วยสาเหตุอะไร มีความขัดแย้งกับคนเหล่านี้หรือไม่ จึงเอาชื่อมาดู และได้รายงานกลับไปว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคนเหล่านี้ ส่วนกรรมการชุดเก่าเป็นชมรมสถานีอนามัยหนองนกกระเรียนไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับกรรมการชุดใหม่ หากอยากได้เงินก็จะต้องไปแจ้งความเอากับคณะกรรมการชุดเก่า
อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการประท้วง ชาวบ้านได้เรียงร้องให้ทางปลัด อบต.ลงมาชี้แจงตามขอเรียกร้องดังกล่าว แต่ทางปลัด อบต.ไม่ยอมลงมา ทำให้ชาวบ้านได้นำหุ่นฟาง 3 ตัว มาเผาบริเวณด้านหน้าทางขึ้นสำนักงาน อบต.รางบัว จนควันไฟฟุ้งกระจายไปทั่ว โดยกลุ่มผู้ชุมนุมจะเคลื่อนขบวนไปที่หน้าศาลากลางจังหวัด

แต่ต่อมา นายพลกฤษ พวงวลัยสิน นายอำเภอจอมบึง พร้อมกับ พ.ต.อ.ไวโรจน์ แน่นพิมาย ผกก.สภ.จอมบึง ได้เดินทางไปพุดคุยกับชาวบ้าน โดยขอให้ชาวบ้านที่เดือดร้อนเรื่องส่งเงินกับกองทุนผู้สูงอายุสถานีอนามัยบ้านหนองนกกระเรียน ซึ่งเป็นกองทุนที่ล้มไปแล้ว เนื่องจากผู้ที่ทำหน้าที่เก็บเงินไปแต่ไม่ได้นำส่งให้กับกองทุน จึงทำให้เวลาที่มีผู้เสียชีวิตแล้วไม่มีเงินจ่ายค่าทำศพ ไปลงชื่อร้องขอความเป็นธรรมที่อำเภอ ส่วนในเรื่องของฟาร์มหมูที่กำลังจะมีการก่อสร้างนั้นทางอำเภอได้สั่งการให้กับทาง อบต.รางบัว ได้ทำการตรวจสอบว่ามีการขออนุญาตถูกต้องหรือไม่ ซึ่งในวันที่ 9 ก.ย. นั้นจะครบกำหนดที่ทาง อบต.จะต้องชี้แจงให้กับทางอำเภอได้รับทราบ แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับการชี้แจงแต่อย่างใด ซึ่งจะต้องรอให้ครบกำหนดก่อน

ส่วนเรื่องที่มีรายชื่อของชาวบ้านที่ร้องไปอยู่ในมือของผู้ถูกร้องนั้น ในเรื่องนี้ทางอำเภอได้ให้ อบต.รางบัว ได้ทำการชี้แจงเป็นหนังสือมาด้วย ส่วนที่ชาวบ้านต้องการให้ย้ายนางพรรณนิตา ชิตานุวัตร ปลัด อบต.รางบัว รักษาการนาย อบต.รางบัวนั้น ทางอำเภอก็จะต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน จึงจะมีคำตอบให้กับชาวบ้าน แต่อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านก็ยังไม่พอใจในคำตอบของทางอำเภอจอมบึง จึงได้นัดหมายว่าจะเข้าไปยื่นเรื่องที่กรุงเทพฯ อีกครั้งและยังยืนยันว่าจะต้องย้ายปลัดอบต.รางบัวออกนอกพื้นที่ให้เร็วที่สุด เพื่อลด


ขอบคุณที่มา   ข่าวมติชน


โพสต์โดย : ปลายน้ำ