ยกระดับการชุมนุม “ณัฐวุฒิ”ชี้คาร์ม็อบเป็นการข้ามพ้นข้อจำกัดโควิด

“ณัฐวุฒิ” เผยจัดการชุมนุมแบบผสม ชี้คาร์ม็อบเป็นการข้ามพ้นข้อจำกัดโควิด ยืนยันต้องการยกระดับการชุมนุม

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวถึงการชุมนุมขณะนี้เป็นการสร้างรูปแบบผสมจากจุดแข็งเดิมคือคิกออฟที่สามารถให้ประชาชนออกมามีส่วนร่วมได้จำนวนมากและทุกครั้งก็ได้มีการประเมินว่ามี คนออกมาร่วมมากขึ้น ซึ่งการจัดกิจกรรมในรูปแบบคาร์ม็อบส่วนตัวมองว่าเป็นการข้ามพ้นข้อจำกัดโควิด-19 ซึ่งเป็นอีกเหตุผลที่สำคัญที่ทำให้ประชาชนยังไม่ค่อยกล้าออกมาร่วมกิจกรรม

กิจกรรมในวันนี้ตนต้องการสร้างให้เป็นโมเดลใหม่คือมีการชุมนุมที่แยกอโศก ใช้เป็นฐานที่มั่นสะสมกำลัง และมีการเคลื่อนรถผ่าน ให้เห็นภาพทั้งคาร์ม็อบ และคนม็อบนอกจากนี้ อีกไม่กี่วันข้างหน้าจะมีการนัดชุมนุมใหญ่ครั้งสำคัญขอให้มวลชนเตรียมติดตามข่าวสาร

พร้อมยืนยันว่าจะมีการยกระดับการชุมนุมอย่างแน่นอนเพียงแต่ในช่วงนี้ต้องให้ประชาชนที่ออกมาทำกิจกรรมเข้าใจในการชุมนุมและมีส่วนร่วม

สำหรับการชุมนุมในรูปแบบการปักหลักยอมรับว่าขณะนี้สถานการณ์บ้านเมืองยังไม่เอื้อ ต่อการ ชุมนุมในรูปแบบนั้น อีกครั้งยุคปัจจุบันยังไม่เหมือนการชุมนุมเมื่อ 10 ปีก่อนปัจจุบันคนส่วนใหญ่ไม่ต้องการยืดเยื้อ ประกอบกับ กลุ่มพี่น้องจากภูมิภาคยังไม่สามารถเข้ามาในพื้นที่กรุงเทพฯได้ สำหรับการชุมนุม 2 วันที่ผ่านมาส่วนตัวและผู้จัดพอใจเพราะเห็นผู้ที่ออกมาร่วมกิจกรรมมีทั้งกลุ่มหนุ่มสาว ที่ออกมาร่วมกับกลุ่มรุ่นใหญ่ แต่สำหรับการชุมนุมครั้งต่อไปจะต้องปรับเปลี่ยนเพื่อให้แต่ละกลุ่มเข้ามามีส่วนร่วมและมีพื้นที่ในการแสดงออกได้มากขึ้น

สำหรับการชุมนุมของกลุ่มเยาวรุ่นถือว่าเป็นคนละขบวนมาตั้งแต่ต้นส่วนตัวเป็นห่วงสถานการณ์ทั้งของประชาชนกลุ่มผู้ชุมนุมรวมถึงเจ้าหน้าที่ แต่ก็เคารพแนวทางการต่อสู้ของแต่ละฝ่ายและอยากฝากถึงเจ้าหน้าที่ ให้เข้าใจว่าเยาวชนเหล่านี้คือผู้ที่มีบาดแผลในชีวิตจากสถานการณ์โควิด-19 บางคนต้องสูญเสียครอบครัวบางคนต้องตกงานเมื่อถึงจุดหนึ่งคนเหล่านี้จึงเลือกแสดงออกที่ไม่เหมือนกันรัฐต้องอดทนอดกลั้น แต่ที่ผ่านมาตนก็เสนอแนวสันติให้กับทุกกลุ่มรวมถึงภาครัฐด้วย

ขอบขอบคุณข้อมูลจาก:innnews