ป.ป.ช.ส่งคืนสำนวนคดี อดีตผกก.โจ้ กองปราบรับดำเนินการต่อเหตุใกล้แล้วเสร็จ คาดสรุปสำนวนไม่เกินสิ้นเดือน ก.ย.นี้

เมื่อวันที่ 7 กันยายน  ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองบังคับการปราบปราม(รองผบก.บก.ป.) พร้อมคณะพนักงานสอบสวน บก.ป. นำสำนวนคดี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผกก.โจ้ อดีตผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ และพวกรวม 7 คน ผู้ต้องหากระทำผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฎิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ,ร่วมกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด , ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมาน หรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย หลังใช้ถุงดำคลุมศีรษะนายจิระพงศ์ ธนะพัฒน์  ผู้ต้องหาคดียาเสพติด จนเสียชีวิต จำนวน 4 แฟ้ม รวม 1,290 แผ่นมาส่งมอบให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาตามขั้นตอนกฏหมาย เนื่องจากคดีดังกล่าวผู้ถูกกล่าวหา เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ โดยมีนายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นผู้รับเรื่อง

พ.ต.อ.เอนก กล่าวว่า ตามขั้นตอนของกฎหมายแม้ว่าการสอบสวนจะยังไม่แล้วเสร็จ แต่เบื้องต้น การสอบสวนมีพยานหลักฐานพบว่า คดีนี้ผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐและมีมูลความผิด ฐานเป็นเจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ซึ่งตามกฎหมายต้องส่งสำนวนคดีให้ ป.ป.ช.พิจารณา ว่าคดีมีมูลหรือไม่

ทั้งนี้ หากคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติรับคดีนี้ไว้ไต่สวนเอง พนักงานสอบสวน บก.ป จะถือว่ายุติหน้าที่ลง แต่หากคณะกรรมการ ป.ป.ช.ส่งสำนวนให้พนักงานสอบสวนกองปราบปราม รับไปดำเนินการต่อ จะเร่งสืบสวนขยายผล และรอสำนวนการไต่สวนชันสูตรพลิกศพสาเหตุการเสียชีวิตของพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองนครสวรรค์ ที่ต้องสรุปสาเหตุการเสียชีวิตส่งให้อัยการภายในกรอบระยะเวลา 30 วัน จากนั้น พนักงานสอบสวนกองปราบปราม จะนำสำนวนคดีทั้งสองส่วน  เพื่อส่งฟ้องต่ออัยการ ตามขั้นตอนกฎหมาย

ด้าน นายนิวัติไชย กล่าวว่า เนื่องจากเป็นคดีเร่งด่วน คาดว่าจะเสนอ คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้ภายในวันนี้ เพื่อพิจารณาว่าอยู่ในอำนาจรับผิดชอบของ ป.ป.ช.หรือไม่  และหาก ป.ป.ช. รับไว้ไต่สวนเอง จะให้ พนักงานสอบสวน คุมตัวผู้ถูกกล่าวหามาส่งให้กับ ป.ป.ช.เพื่อดำเนินการตามกฏหมาย แต่หาก คณะกรรมการ ป.ป.ช.เห็นว่าเรื่องนี้สามารถส่งเรื่องให้พนักงานสอบสวน รับไปดำเนินการได้ จะส่งสำนวนกลับไปให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

“ยังยืนว่าคดีนี้สามารถเอาผิดผู้ต้องหาได้แน่ คำให้การพยานบุคคล รวมถึงคลิปวิดีโอพยานหลักฐานต่างๆ ทั้งหมดล้วนมีความสอดคล้องกัน ตัวผู้ต้องหาเองก็ยอมรับว่าเป็นบุคคลที่ปรากฎอยู่ในคลิปวิดีโอจริง จึงมั่นใจว่าไม่มีอะไรน่าหนักใจ” รอง ผบก.บก.ป. กล่าว

ขอบคุณที่มา    ข่าวมติชน