Social :



กรมควบคุมโรคจัดวัคซีน ‘ไฟเซอร์’ 4.8 ล้านโดส พร้อมฉีด นร.ต้นตุลาฯนี้!

13 ก.ย. 64 19:09
กรมควบคุมโรคจัดวัคซีน ‘ไฟเซอร์’ 4.8 ล้านโดส พร้อมฉีด นร.ต้นตุลาฯนี้!

กรมควบคุมโรคจัดวัคซีน ‘ไฟเซอร์’ 4.8 ล้านโดส พร้อมฉีด นร.ต้นตุลาฯนี้!

วันที่ 13 กันยายน 2564 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยในช่วงการแถลงข่าวและเสวนาร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ เรื่องการเตรียมความพร้อมเปิดภาคเรียน 2/2564 สถานศึกษาปลอดภัยเด็กได้รับวัคซีนถ้วนหน้า ว่า ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อบุคลากรทางการศึกษา นักเรียน และกลุ่มผู้ปกครอง ต้องปิดการเรียนการสอนในโรงเรียน นักเรียนต้องเรียนผ่านระบบออนไลน์ที่บ้านแทน

เพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มวัยมีภูมิคุ้มกันโรคอย่างเพียงพอ ดำเนินชีวิตอยู่กับโรคโควิด-19 ได้ โรงเรียนทุกแห่งเปิดเทอม นักเรียนสามารถไปเรียนหนังสือได้ตามปกติ การฉีดวัคซีนจะเป็นอีกเครื่องมือสำคัญที่ช่วยในการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาด ซึ่งกรมควบคุมโรคพร้อมให้การสนับสนุนการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในกลุ่มนักเรียนตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และนโยบายของรัฐบาล

อย่างไรก็ตาม ประชาชน ทุกคนจะต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันส่วนบุคคลขั้นสูงสุดแบบครอบจักรวาลควบคู่กันไปด้วย เช่น สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ เว้นระยะห่าง เป็นต้น จะส่งผลให้การป้องกันควบคุมโรคเกิดประสิทธิภาพอย่างสูงสุด

นพ.โอภาส กล่าวต่อไปว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ขึ้นทะเบียน และอนุมัติให้ใช้วัคซีนไฟเซอร์ ฉีดในเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปได้ ซึ่งแผนการจัดหาวัคซีนในเดือนตุลาคมนี้ ที่จะได้รับวัคซีนรวมทั้งสิ้นประมาณ 24 ล้านโดส รวมกับวัคซีนซิโนฟาร์ม จากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์อีก จำนวน 6 ล้านโดส รวมเป็น 30 ล้านโดส

ซึ่งในจำนวนนี้ มีวัคซีนของไฟเซอร์ จำนวน
Lif
8 ล้านโดส ที่ประชุมของของ ศบค. เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2564 มีมติให้จัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ จำนวน 4.8 ล้านโดส ให้กับกลุ่มนักเรียนอายุ 12-17 ปีทั่วประเทศ ทั้งนี้ กำหนดให้บริการฉีดวัคซีน ผ่านสถาบันการศึกษา ดังนี้ คือ โรงเรียนมัธยมศึกษาสังกัดรัฐบาลและเอกชน สถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน โรงเรียนพระปริยัติธรรม สถาบันการศึกษาปอเนาะ และสถาบันการศึกษาอื่นๆ ที่มีผู้มีอายุ 12 ปีขึ้นไป กำลังศึกษาอยู่ เป็นต้น โดยกรมควบคุมโรคจะหารือกับ ศธ.เพื่อวางแผนจัดระบบความพร้อมก่อนฉีดโดยเร็ว ทั้งนี้ ผู้ปกครองต้องแสดงความจำนงให้นักเรียนในปกครองฉีดวัคซีนโควิด-19 ล่วงหน้า

“การฉีดวัคซีนโควิด-19 จะคำนึงถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยเป็นหลัก วัคซีนที่ใช้ในประเทศไทยขณะนี้ ทุกตัวผ่านการรับรองจากองค์การอนามัยโลกและขึ้นทะเบียนรับรองจาก อย. จึงขอให้ผู้ปกครองนักเรียน ทุกคนมั่นใจในเรื่องของความปลอดภัยได้ กระทรวงสาธารณสุขจะทำงานร่วมกับ ศธ.ตามนโยบายการฉีดวัคซีนให้เด็กถ้วนหน้าให้ดีที่สุด ยึดประโยชน์ของผู้ปกครองและประชาชนไทยทุกคนเป็นสำคัญ” นพ.โอภาส กล่าวและว่า สำหรับการขยายผลฉีดวัคซีนให้บุคลากรทางการศึกษาในโรงเรียน ทั่วประเทศตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการ ศธ.นั้น สธ.จะเร่งดำเนินการในระยะต่อไปโดยเร็ว รวมทั้งดำเนินการในกลุ่มของผู้ปกครองนักเรียนบางส่วนที่อาจยังไม่ได้รับวัคซีนด้วย

ขอบคุณที่มา   ข่าวมติชน




โพสต์โดย : ปลายน้ำ