Social :



“รพ.สนามมธ.” เล็งลดเตียงหลังผู้ติดเชื้อลดต่อเนื่อง ขอระลอก5อย่ามาชี้ถ้ามีผู้ป่วยจะมากกว่าระลอกเม.ย. 2 เท่า

14 ก.ย. 64 11:09
“รพ.สนามมธ.” เล็งลดเตียงหลังผู้ติดเชื้อลดต่อเนื่อง ขอระลอก5อย่ามาชี้ถ้ามีผู้ป่วยจะมากกว่าระลอกเม.ย. 2 เท่า

“รพ.สนามมธ.” เล็งลดเตียงหลังผู้ติดเชื้อลดต่อเนื่อง ขอระลอก5อย่ามาชี้ถ้ามีผู้ป่วยจะมากกว่าระลอกเม.ย. 2 เท่า

เมื่อวันที่ 14 กันยายน เพจเฟซบุ๊ก โรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์โพสต์ข้อความ โดยระบุว่า “วันจันทร์ที่ 13 กันยายน กลับมาเล่าเรื่องราวของโรงพยาบาลธรรมศาสตร์อีกครั้ง ในวันที่ 157 ของโรงพยาบาลสนามเวฟ 3+4วันที่ 99 ของศูนย์รับวัคซีนธรรมศาสตร์และวันที่ 77 ของศูนย์ Home Isolation

จำนวนผู้ป่วยใหม่ทั่วประเทศในวันนี้เหลืออยู่ที่ 12,583 ราย และผู้เสียชีวิตจากโควิดลดลงเหลือเพียง 132 รายทั่วประเทศ ความคาดหวังเดิมของเราที่เคยอยากจะเห็นวันที่มีผู้ป่วยใหม่ลดลงต่ำสุดในช่วงกลางเดือนกันยา (ก่อนที่จะค่อย ๆ ทรงตัวและเพิ่มสูงมากขึ้นในช่วงต่อ ๆ ไป) จนเหลือแถวหมื่นนึงหรือต่ำกว่า ก็ยังมีโอกาสที่จะเป็นไปได้อยู่เหมือนกันนะ คอยดูอีกสามสี่วันนี้แหละว่าช่วงลงต่ำสุดของเวฟ 4 นี้ จะอยู่ที่จำนวนผู้ป่วยใหม่วันละกี่คนกันแน่

สถานการณ์ในโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ทุกระบบ ยังคงเป็นไปตามสถานการณ์ของขาลงในเวฟ4 เป็นเรื่องที่น่ายินดี และพวกเราอยากจะดีใจอย่างนี้ไปนาน ๆ นะ ขอให้เวฟ 5 อย่าเพิ่งมาเร็วนักเลย วันนี้มีผู้ป่วยโควิดในรพ.หลักจำนวน 65 ราย (จาก 100 เตียงที่เรามีอยู่) ในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยสีแดงราว 28 ราย โดยเป็นผู้ป่วยวิกฤตที่ต้องใส่ Tube รวม 13 ราย เช้าวันนี้มีผลการตรวจ Swab กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง 85 ราย มีผลเป็นบวกใหม่ 13 ราย ถ้ารวมเอาจำนวนของเมื่อวานนี้ 103 รายซึ่งพบผลบวก 13 รายเช่นกัน ถ้าคิดรวมสองวัน สัดส่วนการ Swab กลุ่มเสี่ยงสูง พบผลเป็นบวกลดลงเหลือเพียง 13.8% เท่านั้น

ที่โรงพยาบาลสนามในวันที่ 157 สถานการณ์ขาลงก็ปรากฏชัด ขณะนี้จำนวนผู้ป่วยโควิดที่ยังรักษาตัวอยู่กับเราเหลืออยู่ที่ 148 คน ตัวเลขนี้ทำให้การประเมินสถานการณ์และการที่พวกเราตัดสินใจลดจำนวนการเตรียมเตียงของรพ.สนามจาก 470 เตียงให้เหลือเพียง 200 เตียงในปลายสัปดาห์นี้ น่าจะสอดคล้องตรงกับความจริงมากขึ้น และสำหรับผู้ป่วยกลุ่มอาการสีเหลืองทั้งหมด ได้ถูกย้ายเข้ามาดูแลรักษาในรพ.หลักแล้ว

สำหรับ Thammasat Home Isolation ของเราซึ่งดำเนินการมาจนถึงวันที่ 77 ในวันนี้ เราพบว่า 4-5 วันมานี้มีผู้ป่วยใหม่เข้ามาในโครงการเพียงประมาณวันละ 10 คนเท่านั้น ขณะที่เราจำหน่ายผู้ป่วยที่รักษาหายแล้วออกจากโครงการได้มากกว่านั้น โดยเฉลี่ยประมาณ 20 คน/วัน ทำให้ขณะนี้มีผู้ป่วยแอคทีฟเหลืออยู่ใน HI เพียง 116 คน ในขณะที่จำนวนผู้ป่วยสะสมที่เราดูแลมาจนถึงวันนี้ในโครงการHome Isolation มีรวมกันอยู่ที่ 2,274 คน

ที่ศูนย์รับวัคซีนธรรมศาสตร์รังสิต ที่ยิม 4 ซึ่งฉีดวัคซีนมาจนถึงวันที่ 99 ในวันนี้ เรายังคงมี “ลูกค้า” มารับวัคซีน Astra อย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ ตัวเลขเฉลี่ยผู้มารับวัคซีนทั้งเข็มที่สองและเข็มแรกอยู่ที่ 86% + โดยตลอด ขณะที่จำนวนจองคิวนัดฉีดแต่ละวันอยู่ที่ประมาณสามพันคน เราเคยยืนยันการนัดคิวสำหรับผู้มีรายชื่อและมีวันนัดคิวฉีดวัคซีนจนถึงวันอาทิตย์ที่ 19 กันยายนนะ วันนี้ มีข่าวดีที่เราได้รับจัดสรรวัคซีนAstra จาก คร. ผ่านทาง สสจ ปทุมธานีอีกราว 12,000 โดส ทำให้เราสามารถยืนยันได้ว่า ผู้ที่มีคิวฉีดวัคซีนตามนัดใน #หมอพร้อม ไว้ที่ศูนย์รับวัคซีนธรรมศาสตร์ ไปจนถึงวันที่ 24 กันยายน เราได้จัดเตรียม Astra ไว้รอสำหรับท่านพร้อมแล้ว


สำหรับผู้ยังไม่มีวันนัดรับวัคซีน แต่ได้จองคิว Astra ไว้กับเรา สัปดาห์หน้า เราจะเริ่มลงคิวนัดให้ท่าน ตั้งแต่วันที่ 1 เดือนตุลาคมเป็นต้นไป ให้ท่านได้มารับวัคซีนจนครบถ้วนแน่นอน รอเราอีกนิดนึงนะ เราสัญญาว่าจะไม่ทิ้งใครไว้เลย

พวกเราที่ธรรมศาสตร์เชื่อว่าเวฟ4 ของโควิดกำลังเป็นช่วงขาลงอยู่ และคงจะจบภายในสัปดาห์หรือสองสัปดาห์จากนี้ โดยจะยังคงมีจำนวนผู้ป่วยใหม่รายวันหลักเกือบหมื่นอยู่ทุกวัน และจากนั้น จะทรงตัวอยู่แถวๆตัวเลขนี้ไประยะหนึ่ง หลังจากนั้นกราฟจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันจะเริ่มผงกหัวขึ้น ซึ่งก็จะเป็นสัญลักษณ์ของเวฟที่ 5 ซึ่งพวกเราภาวนาให้มารุกรานพวกเราช้าที่สุด แต่ก็ไม่มีเหตุผลใดที่จะยืนยันว่า จะไม่เกิดเวฟ5 อีกแล้ว ในเมื่อการระบาดของสายพันธ์เดลต้ายังรุนแรงเหมือนเดิม และเรามีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมต่าง ๆ ที่ทำให้มีการพบปะสมาคมของผู้คนแวดวงต่าง ๆ มากยิ่งกว่าในเดือนที่แล้วหลายเท่าหรือหลายสิบเท่า เพียงแต่ว่า เวฟ5 ที่พวกเราคาดว่าจะมานั้น แม้ว่าจะมีผู้ป่วยใหม่รายวันมากกว่าเวฟ 4 อย่างน้อยสักสองเท่า แต่จำนวนผู้เสียชีวิตรายวันก็น่าจะลดลงกว่าเวฟ 4 และน่าจะอยู่แถวๆที่ต่ำกว่า 100 คน/วัน ได้ เพราะเรามีการเข้าถึงยาต้านไวรัสได้เร็วขึ้นและมีมากเพียงพอ
Lif
ขณะที่ early detection ของเราก็ดีกว่าระบบที่เป็นมาเมื่อ 3 เดือนก่อนเป็นอย่างมาก

เพราะฉะนั้น ถึงแม้เราจะต้องเผชิญกับเวฟ5 ที่มีผู้ป่วยใหม่รายวันมากขึ้น แต่ก็คงไม่น่ากลัวมากนักในเชิงจำนวนคนที่เสียชีวิตนะ

ที่รพ.ธรรมศาสตร์ เราเชื่อเรื่อง “แม้หวังตั้งสงบ จงเตรียมรบให้พร้อมสรรพ” ดังนั้น ในเดือนกันยายนที่มีภาระเรื่องผู้ป่วยโควิดที่ลดลงนี้ เราจึงเร่งมาซ่อมสร้างป้อม ค่าย คู ประตู หอรบ สำหรับสงครามโควิดรอบใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในการเตรียมความพร้อมให้มากยิ่งขึ้น สำหรับเตรียมรับผู้ป่วยโควิดวิกฤต สีแดงเข้ม สีแดง สีเหลืองและเหลืองเข้มในรพ.หลัก โดยในสิ้นเดือนกันยายนนี้ เราจะเตรียมปรับปรุงและจัดวอร์ดโควิดใหม่ออกเป็นสามระดับในรพ.หลักดังนี้

(1)หอผู้ป่วยวิกฤตความดันลบ ขณะนี้เราเปิด Negative Pressure ICU สำหรับโควิดครบถ้วนแล้วรวม 4 หอผู้ป่วย ซึ่งอยู่ในพื้นที่เดียวกัน คือหอผู้ป่วยวิกฤตเมฆสวรรค์ หอผู้ป่วยวิกฤตธัญลักษณ์ หอผู้ป่วยวิกฤตบ้านปู2 และหอผู้ป่วยวิกฤตสุรัตนา ซึ่งทั้ง 4 วอร์ดนี้ เพิ่งสร้างเสร็จและเปิดใช้งานครบถ้วนในปี 2564 นี้ ด้วยงบประมาณราว 200 ล้านบาท ทุกวอร์ดเป็น Negative Pressure Room แยกเฉพาะผู้ป่วยแต่ละรายสำหรับผู้ป่วยสีแดงเข้ม ที่ต้องใส่tube และใช้เครื่องช่วยหายใจ รวม 30 ห้องแยก ซึ่งเมื่อรวม Negative Pressure Room ที่อยู่นอก ICUอีก 2 ห้องแยก ที่เตรียมไว้สำหรับผู้ป่วยวิกฤติที่เป็น PUI แล้ว เราจะมีห้องผู้ป่วยวิกฤตในลักษณะนี้ รวมถึง 32 ห้องแยก ที่เป็นห้องความดันลบ

(2)หอผู้ป่วยวิกฤตรวม ซึ่งสามารถรับผู้ป่วยโควิดระดับที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ High-Flow ซึ่งต้องเป็นห้องที่ปรับเป็นความดันลบ เรามีสองวอร์ดที่สามารถรับผู้ป่วยวิกฤตสีแดงเหล่านี้ได้ คือ Cohort Ward สำหรับโควิด ขนาด 16 เตียงที่ยังคงใช้งานอยู่ กับ วอร์ด RCU บ้านปู ซึ่งกำลังปรับปรุงเป็นวอร์ดความดันลบ 3 ห้องแยก ห้องละ 4 เตียงวิกฤติ ซึ่งจะสามารถรับผู้ป่วยวิกฤตโควิดที่ต้องใช้ High-Flow ได้อีก 12 เตียง

ภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้ เราจะมีเตียง Negative Pressure ในสองวอร์ดที่เตรียมไว้สำหรับผู้ป่วยโควิดวิกฤติระดับสีแดงนี้ได้รวมทั้งสิ้น 28 เตียง


(3)หอผู้ป่วยโควิดที่เป็นเตียงแยก และไม่ได้ติดตั้งระบบความดันลบ ซึ่งเคยเป็นหอผู้ป่วยพิเศษเดิมก่อนสถานการณ์โควิด ซึ่งขณะนี้เราปรับเตรียมไว้อีก ถึงสามวอร์ดในรพ.ธรรมศาสตร์ สำหรับผู้ป่วยเคสสีเหลืองที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจที่ยังไม่ถึงระดับHigh-Flow ประกอบด้วยหอผู้ป่วยพิเศษยูงทอง1 (20 เตียง) หอผู้ป่วยยูงทอง2 (20 เตียง) และหอผู้ป่วยเฉพาะโรค Cohort2 (16 เตียง) รวมทั้งสิ้น 56 เตียง และเมื่อรวมกับอีก 20 เตียงสำหรับผู้ป่วยโควิดในระบบประคับประคอง (Palliative Care) ที่ศูนย์ธรรมศาสตร์ธรรมรักษ์ อีก 20 เตียงแล้ว เราจะมีห้องแยกสำหรับผู้ป่วยโควิดที่ไม่ใช่ห้องความดันลบแต่เป็นผู้ป่วยเคสสีเหลือง หรือสีเหลืองเข้ม ได้อีกมากถึง 76 เตียง

ถ้ารวมจำนวนเตียงโควิดทุกประเภทที่สามารถรับเคสโควิดสีเหลือง สีแดงและแดงเข้มในรพ.ธรรมศาสตร์ ตั้งแต่สิ้นเดือนกันยายนนี้ไป เราจะมีศักยภาพรองรับการระบาดรอบใหม่นี้เฉพาะในรพ.หลัก ได้มากถึง 136 เตียงโควิด ทั้งนี้ ยังไม่นับรวมเตียงสีเขียวในรพ.สนามธรรมศาสตร์อีก 470 เตียง ที่มีศักยภาพและได้พิสูจน์ศักยภาพถึงระดับที่เคยรับคนไข้โควิดมากถึง 430-440 คนมาแล้ว ในระหว่างการระบาดเวฟที่3+4 ที่เพิ่งผ่านไป

เราไม่อยากให้มีการระบาดอีกเลยไม่ว่าจะเป็นเวฟไหน ๆ และถ้าประเทศจะไม่มีโควิดมารุกรานอีกเลย พวกเราก็จะมีความสุขที่สุด แต่ถ้าหากมีความจำเป็น พวกเราก็พร้อมอย่างเต็มที่ ที่จะทำหน้าที่ ที่เชื่อว่าเป็นหน้าที่ของพวกเราให้ดีที่สุด และจะรับหน้าที่ดูแลผู้คนร่วมชาติที่เดือดร้อน เจ็บป่วยและต้องการความช่วยเหลือจากพวกเราให้ได้มากที่สุดนะ เราสัญญา..

ขอบคุณที่มา    ข่าวมติชน


โพสต์โดย : ปลายน้ำ