ไม่สนเสียงค้าน! หมู่เกาะแฟโร สังหารหมู่โลมา กว่า 1,400 ตัว มีดปาดคอทะเลแดงฉาน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมาว่า หมู่เกาะแฟโร ยังคงดำเนินประเพณีที่สืบทอดกันมายาวนาน 400 ปี ในการล่าวาฬและโลมา โดยในปีนี้มีการสังหารหมู่โลมาข้างขาวจำนวนมากถึง 1,428 ตัว จนทะเลกลายเป็นสีเลือด
ประเพณีการล่าโลมาของประเทศหมู่เกาะแฟโร ประเทศในมาหสมุทรแอตแลนติกตอนเหนือ ซึ่งชาวประมงจะใช้เรือต้อนโลมาเข้ามาในโซนน้ำตื้นก่อนจะลงมือสังหารด้วยมีดเพื่อเอาเนื้อและไขมันไปบริโภค ในปีนี้ ส่งผลให้เกิดการถกเถียงกันเป็นวงกว้าง แม้แต่กลุ่มผู้สนับสนุนประเพณีดังกล่าวเอง ยังกังลว่าการสังหารหมู่ในปีนี้มีจำนวนมากเกิดกว่าครั้งก่อนๆ และจะส่งผลให้ถูกจับตามองโดยไม่จำเป็น
ขณะที่กลุ่มพิทักษ์สัตว์เช่น Sea Shepherd Conservation Society ที่ต่อต้านประเพณีดังกล่าวก็ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า การสังหารหมู่โลมาดังกล่าวเป็นการล่าที่ผิดกฎหมาย และเป็นการกระทำที่โหดร้ายทารุณ
ทั้งนี้ทุกๆ ปี ชาวหมู่เกาะแฟโรจะต้อนวาฬซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นวาฬนำร่อง รวมไปถึงโลมาจำนวนหนึ่งให้ขึ้นมาในเขตน้ำตื้น ก่อนจะใช้มีดสังหาร โดยกลุ่มสนับสนุนระบุว่า ประเพณีนี้เป็นวิธีการสร้างสมดุลในการหาอาหารจากธรรมชาติ และเป็นส่วนสำคัญของอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม
โดยเฉลี่ยจะมีการสังหารวาฬนำร่องเฉลี่ยปีละ 600 ตัว ขณะที่โลมาข้างขาวจะมีสัดส่วนที่น้อยกว่า เช่นในปี 2020 สังหารโลมาเพียง 35 ตัว ขณะที่ปี 2019 สังหารไป 10 ตัว
ขอบคุณที่มา ข่าวมติชน
โพสต์โดย : ปลายน้ำ
