Social :



‘ฝ่ายค้าน’ รุมซัด รบ.อย่าโบ้ยฝ่ายค้าน เย้ย ยิ่งตอกย้ำให้เห็นความขัดแย้งรัฐบาล

17 ธ.ค. 64 13:12
‘ฝ่ายค้าน’ รุมซัด รบ.อย่าโบ้ยฝ่ายค้าน เย้ย ยิ่งตอกย้ำให้เห็นความขัดแย้งรัฐบาล

‘ฝ่ายค้าน’ รุมซัด รบ.อย่าโบ้ยฝ่ายค้าน เย้ย ยิ่งตอกย้ำให้เห็นความขัดแย้งรัฐบาล

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 17 ธันวาคม ที่รัฐสภา ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน นำโดย นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) นางมนพร เจริญศรี ส.ส.นครพนม พรรคพท. และนายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) แถลงภายหลังสภาฯ ล่ม โดยนายสมคิด กล่าวว่า สถานการณ์ของสภาฯ วันนี้บ่งบอกถึงความไม่พร้อมของรัฐบาล เราให้เวลาและให้โอกาส แม้กระทั่งจะนับองค์ประชุมแบบขานชื่อเราก็ยอม ซึ่ง 2 ปีครึ่งที่ผ่านมาเราช่วยเป็นองค์ประชุมตลอด แต่เห็นได้ชัดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นแม้กระทั่งกฎหมายตัวเองรัฐบาลก็ไม่รับผิดชอบ และที่สำคัญคือเป็นสัญญาณมา 2-3 สัปดาห์แล้ว ยืนยันว่าที่องค์ประชุมครบบางครั้งเราก็ช่วยประคอง อยากให้สภาฯ เดินหน้าได้ แต่วันนี้เหตุเกิดโดยที่เราก็เห็นความผิดปกติในการไม่มาประชุม หากลองไปตรวจสอบว่าพรรครัฐบาลจำนวนมากที่ไม่เข้าร่วมประชุมเป็นใคร ก็จะทราบว่าอะไรเกิดขึ้น ฉะนั้น ไม่ใช่ฝ่ายค้านจะเล่นเกมไม่ให้ประชุม ฝ่ายค้านคือตัวนั่งประชุม แต่ทางการเมืองนั้นเราไม่อยากให้รัฐบาลเอาเปรียบเราตลอดเวลา

ด้านนางมนพร กล่าวว่า ทุกครั้งที่มีการประชุมจะเห็นว่าสัดส่วนการอภิปราย ส.ส.ฝ่ายค้าน มีเป็นจำนวนมาก โดยได้เสนอปัญหาและประเด็นที่มีความสำคัญกับประชาชนตลอด แต่ขณะนี้กฎหมายสำคัญจะมาอ้างว่ากฎหมายไม่ได้บอกว่าองค์ประชุมเป็นของรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน ซึ่ง น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)​ ได้เสนอให้นับองค์ประชุมแบบขานชื่อและแสดงตน ซึ่งหลายคนคงจำได้สมัยที่พรรค พท. เป็นรัฐบาล น.ส.รังสิมาหรือไม่ ที่ทำลายความเชื่อมั่นของระบบรัฐสภา ที่ลุกขึ้นไปลากเก้าอี้ของนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานสภาฯ บนบัลลังก์ และวอล์กเอาต์ เขวี้ยงเก้าอี้ เขวี้ยงหนังสือ แต่วันนี้พอคุณเป็นรัฐบาลกลับบอกว่าฝ่ายค้านไม่อยู่เพื่อเป็นองค์ประชุม ไม่ช่วยกันพิจารณากฎหมายเพื่อช่วยเหลือประชาชน อยากย้ำเตือนอีกครั้งว่าพรรค
Lif
พท.และพรรคร่วมฝ่ายค้านได้ทำหน้าที่ ส.ส. ที่เป็นเงาสะท้อนประชาชนในการเป็นองค์ประชุม และเราหวังว่าจะนำไปสู่วาระพิจารณารับทราบของวันนี้ให้เสร็จสิ้น แต่สมาชิกฝ่ายรัฐบาลไม่เข้าร่วมเป็นองค์ประชุม และหลายคนก็มีกรณีกดบัตรแทนกันด้วย อย่างไรก็ตาม พรรค พท.และพรรคร่วมฝ่ายค้านยึดมั่นในระบบรัฐสภา และเราจะทำหน้าที่เป็นตัวแทนประชาชนในการแก้ไขปัญหาให้ประชาชนต่อไป

ขณะที่นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เราเห็นสถานการณ์แบบนี้มาตลอดสมัยประชุมที่ผ่านมา แต่ความจริงคือเสียงของพรรครัฐบาลมีมากกว่าฝ่ายค้าน แต่เสียงที่มีจำนวนมากกลับไม่สะท้อนความเป็นเอกภาพของพรรครัฐบาล และยิ่งเป็นการตอกย้ำให้เห็นว่ามีความขัดแย้งอย่างมากในพรรครัฐบาลหรือพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด ซึ่งประชาชนต้องติดตามว่าการทำหน้าที่บนพื้นฐานความขัดแย้งนั้น ประโยชน์จะเกิดต่อประชาชนได้อย่างไร นอกจากนี้ ขอขอบคุณนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ รองหัวหน้าพรรค พท.ที่ทำหน้าที่เป็นกระดูกสันหลังของพรรคร่วมฝ่ายค้านมาโดยตลอด เพราะจะเห็นได้ว่าบทบาทการทำหน้าที่ของประธานในการประชุมในสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างเป็นปกติมากนัก ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็นการแบกพรรคร่วมรัฐบาล ตนคิดว่าประธานต้องมีความเป็นกลางมากกว่านี้ และต้องไม่ใช้กระบวนการในการกระทบกระเทียบ การบอกว่าบางคนของพวกเราเป็น ส.ส.ใหม่ บางคนเป็น ส.ส.ที่อยู่มาหลายสมัย ตนคิดว่าเป็นคำเปรียบเทียบที่ไม่อาจจะรับได้ ซึ่งมีเพื่อนสมาชิกพรรครัฐบาลหลายคนที่พูดในลักษณะเช่นนั้น ก็ขอเตือนว่าถ้าติดตามการประชุมสภาฯ ตลอด จะเห็นว่าพรรคฝ่ายค้านอภิปรายเยอะมาก เราทำหน้าที่อย่างเต็มที่ การประชุมสภาฯ ล่มในวันนี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องทบทวนตัวเองว่าสาเหตุที่แท้จริงเป็นเพราะสิ่งใด แต่ตนอยากย้ำว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านพร้อมทำหน้าที่อย่างแข็งขันต่อไป โดยเฉพาะการประชุมร่วมรัฐสภาและประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่จะมีขึ้นในวันที่ 21-24 ธันวาคม ทั้งนี้ เราทำหน้าที่ของเราอย่างเต็มที่ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นอุบัติเหตุหรือความตั้งใจ เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องตอบต่อประชาชน ไม่ใช่ฝ่ายค้าน

เมื่อถามว่าจะมีการตกลงเรื่ององค์ประชุมกับวิปรัฐบาลหรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า เรื่ององค์ประชุมเราเคยพูดว่าเราช่วยกันมาตลอด แต่ช่วงหลังเราพูดอย่างชัดเจน พรรค พท.กับพรรคร่วมฝ่ายค้านไม่ได้แอบ เราบอกวิปรัฐบาลว่าเราจะไม่แสดงตนเป็นองค์ประชุมในบางเรื่อง ไม่ได้ปิดบัง เพราะอยากให้รัฐบาลเตรียมตัวและกระตุ้นให้มาทำงาน

ขอบคุณที่มา   ข่าวมติชน

โพสต์โดย : ปลายน้ำ