Social :



กรมรางระดมสมองแก้ปัญหาจุดตัดถนนกับรถไฟ 2,943 แห่งทั่วประเทศ หวังลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุ

17 ธ.ค. 64 16:12
กรมรางระดมสมองแก้ปัญหาจุดตัดถนนกับรถไฟ 2,943 แห่งทั่วประเทศ หวังลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุ

กรมรางระดมสมองแก้ปัญหาจุดตัดถนนกับรถไฟ 2,943 แห่งทั่วประเทศ หวังลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุ

กรมการขนส่งทางราง ร่วมกับ กปถ.จัดสัมมนาเพื่อเผยแพร่ข้อมูลของโครงการและการมีส่วนร่วมของประชาชน ครั้งที่ 2 โครงการศึกษาเพื่อลดอุบัติเหตุจุดตัดทางถนนและทางรถไฟ

วันที่ 17 ธ.ค.64 ณ โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ (รางน้ำ) นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางราง เป็นประธานเปิดการสัมมนาเพื่อเผยแพร่ข้อมูลของโครงการและการมีส่วนร่วมของประชาชน ครั้งที่ 2 โครงการศึกษาเพื่อลดอุบัติเหตุจุดตัดทางถนนและทางรถไฟ โดยโครงการดังกล่าวเป็นการร่วมมือระหว่างกรมการขนส่งทางราง แและกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน (กปถ.) เพื่อจัดทำฐานข้อมูลจุดตัด และจัดทำเป็นแผนแม่บทและแผนปฏิบัติการแก้ไขอุบัติเหตุจุดตัดทางถนนและทางรถไฟ ซึ่งแบ่งเป็นระยะเร่งด่วน ระยะกลาง และระยะยาว ให้สอดคล้องกับแผนพัฒนารถไฟทางคู่ และโครงการรถไฟความเร็วสูง พร้อมทั้งจัดทำคู่มือมาตรฐานจุดตัดทางถนนและทางรถไฟ เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์จุดตัดทางถนนและทางรถไฟให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศ ตลอดจนพัฒนาคู่มือในการสอบสวนสาเหตุของอุบัติเหตุเชิงลึกบริเวณจุดตัดทางถนนและทางรถไฟ

นายพิเชฐ กล่าวว่า ปัจจุบันการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) มีโครงข่ายรถไฟระยะทาง 4,043 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ 47 จังหวัด ในจำนวนนี้มีจุดตัดทางถนน และทางรถไฟ 2,943 แห่ง แบ่งเป็น จุดตัดต่างระดับ 599 แห่ง, จุดตัดเสมอระดับ 1,663 แห่ง ทางลักผ่าน 485 แห่ง และจุดตัดที่ยกเลิกไป 196 แห่ง จากสถิติอุบัติเหตุที่ผ่านมาในช่วงระหว่างปีงบประมาณ 2559 – 2564 พบว่ามีอุบัติเหตุบริเวณจุดตัดทางถนนและทางรถไฟเกิดขึ้นกว่า 357 ครั้ง มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 138 ราย มีผู้บาดเจ็บ 353 ราย ยังไม่รวมผู้พิการจากอุบัติเหตุอีกจำนวนหลายราย ซึ่งตัวเลขดังกล่าว แสดงถึงความสูญเสียทั้งงบประมาณภาครัฐ และความสูญเสียต่อชีวิตของประชาชน

ดังนั้น เพื่อลดอุบัติเหตุ และลดความสูญเสียที่เกิดขึ้น กระทรวงคมนาคมได้กำหนดให้โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ รถไฟสายใหม่และรถไฟความเร็วสูง มีการออกแบบแก้ไขปัญหาจุดตัดทางถนนและทางรถไฟให้เป็นจุดตัดต่างระดับ ทั้งสะพานรถยนต์ข้ามทางรถไฟ สะพานกลับรถข้ามทางรถไฟ ทางลอดใต้ทางรถไฟ สะพานรถไฟแบบยกระดับ รวมทั้งยกเลิกจุดตัดทางผ่านที่อยู่ใกล้เคียงกัน ไปรวมใช้ทางผ่านต่างระดับ ด้วยการก่อสร้างถนนเลียบทางรถไฟ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนผู้สัญจร

ในส่วนของจุดตัดทางถนนและทางรถไฟที่ไม่อยู่ในโครงการรถไฟทางคู่ จะต้องมีการปรับปรุงแก้ไขให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางราง ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนในการดำเนินโครงการศึกษาเพื่อลดอุบัติเหตุจุดตัดทางถนนและทางรถไฟ โดยได้ดำเนินการสำรวจจุดตัดทั่วประเทศทั้ง 2,943 แห่งแล้ว มีการเก็บข้อมูล ทั้งเรื่องปริมาณการจราจรบริเวณจุดตัด ความพร้อมใช้งานของไฟฟ้าส่องสว่างบริเวณจุดตัด สำรวจไฟกระพริบและเสียงแจ้งเตือน
MulticollaC
สำรวจความสมบูรณ์ของผิวจราจร ตลอดจนความลาดชันถนนที่เข้าสู่จุดตัด และองศาของถนนบริเวณจุดตัด เป็นต้น

จากนั้นจะนำผลการสำรวจที่ได้ มาวิเคราะห์เพื่อจัดลำดับความจำเป็นเร่งด่วนในการปรับปรุงกายภาพจุดตัดให้มีความปลอดภัย และจัดทำเป็นแผนแม่บท แผนปฏิบัติการ และแบบรายละเอียดทางกายภาพในการปรับปรุงแก้ไขจุดตัด ทั้งนี้ โครงการศึกษายังได้พิจารณาแนวทางในการปรับปรุงกฎหมาย และกำหนดมาตรฐานความปลอดภัยบริเวณจุดตัด ตลอดจนจัดทำคู่มือการสอบสวนอุบัติเหตุเชิงลึก และนำนวัตกรรมต่างๆ มาช่วยแก้ปัญหาจุดตัด เช่น การประสานบริษัทแผนที่นำทางเพื่อให้แจ้งเตือนผู้ขับขี่ยานพาหนะให้ทราบหากเส้นทางขับขี่มีจุดตัดอยู่ข้างหน้า ประกอบกับการจัดทำฐานข้อมูลจุดตัดทางรถไฟ และแอปพลิเคชันบนมือถือ

สำหรับให้ประชาชนสามารถแจ้งผู้รับผิดชอบทราบ หากพบว่าไม้กั้นหรือสัญญาณไฟชำรุด รวมไปถึงเทคโนโลยีการติดตั้งกล้องวงจรปิด ที่มีระบบ AI เพื่อตรวจจับผู้ฝ่าฝืนเครื่องกั้นบริเวณจุดตัด เป็นต้น รวมทั้งอยู่ระหว่างเตรียมลงนามในบันทึกความเข้าใจ (mou) ระหว่างกรมการขนส่งทางราง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นในการแก้ไขปัญหาจุดตัดทางถนนและทางรถไฟเสมอระดับ เพื่อให้เกิดผลในทางปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป

​นายพิเชฐฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า การสัมมนาเพื่อเผยแพร่ข้อมูลของโครงการและการมีส่วนร่วมของประชาชน ครั้งที่ 2 ในครั้งนี้เป็นการนำเสนอความก้าวหน้าของโครงการการศึกษา พร้อมทั้งรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และภาคประชาชน อันจะเป็นประโยชน์ต่อการศึกษา เพื่อให้ผลการศึกษามีความเหมาะสม สมบูรณ์ และสอดคล้องกับตามวัตถุประสงค์ของโครงการ โดยจะมีการประชุมกลุ่มย่อยรับฟังความคิดเห็นรูปแบบการแก้ไขปัญหาจุดตัดทางถนนและทางรถไฟในพื้นที่ส่วนภูมิภาค จากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในระดับภูมิภาค 5 ภาคในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2565 ก่อนนำมาปรับปรุงและจัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นครั้งที่ 3ในเดือนมีนาคม 2565 ต่อไป







ขอบคุณที่มา    ข่าวมติชน

โพสต์โดย : ปลายน้ำ