Social :



สั่งปิดแล้ว คลินิกพิมรี่พาย ‘สาธิต’ เผย ออกหมายจับหมอเถื่อน เตรียมส่งฟ้องศาล

18 ธ.ค. 64 14:12
สั่งปิดแล้ว คลินิกพิมรี่พาย ‘สาธิต’ เผย ออกหมายจับหมอเถื่อน เตรียมส่งฟ้องศาล

สั่งปิดแล้ว คลินิกพิมรี่พาย ‘สาธิต’ เผย ออกหมายจับหมอเถื่อน เตรียมส่งฟ้องศาล

จากกรณี นางสาวพิมรดาภรณ์ เบญจวัฒนะพัชร์ หรือ “พิมรี่พาย” หุ้นส่วนอิสคิวท์ คลินิกเวชกรรม สาขาห้วยขวาง เข้าแจ้งความกับตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ว่า คลินิกของตนถูกมิจฉาชีพใช้เอกสารใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมของแพทย์หญิงท่านอื่นมาสมัครเป็นแพทย์ผู้ให้บริการของคลินิก ต่อมาวันที่ 17 ธันวาคม พิมรี่พายประกาศรางวัลแจ้งเบาะแสหาตัวผู้กระทำความผิดสูงถึง 100,000 บาท และให้คำมั่นสัญญาว่าหากพบเหตุการณ์เช่นนี้อีก ตนจะปิดคลินิกทันที



ล่าสุด เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าเรื่องดังกล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ตามข่าวขึ้น เมื่อวานนี้ (17 ธ.ค.) ทางเจ้าหน้าที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ก็ได้ลงพื้นที่ที่ “อิสคิวท์คลินิกเวชกรรม สาขาห้วยขวาง” เพื่อตรวจสอบข้อมูล โดยระหว่างนี้ สบส.ได้สั่งปิดให้บริการเฉพาะสาขาดังกล่าวชั่วคราว เป็นเวลา 30 วัน ในส่วนของเจ้าของสถานพยาบาลก็จะมีโทษตามกฎหมายสถานพยาบาลต่อไป ที่ปิดเพียงสาขาเดียวเนื่องจากต้องดูจากเหตุที่เกิด เรายังพบแค่สาขาเดียว

ด้าน นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวว่า เรากำลังออกคำสั่งในการสั่งปิดสถานบริการชั่วคราว 30 วัน อธิบายได้คือตามแนวทาง หากพบสถานพยาบาลที่มีแพทย์ที่ไม่มีใบประกอบวิชาชีพ หรือหมอเถื่อน เข้ามาทำงาน ถือว่าไม่ปลอดภัยต่อประชาชน เราจึงต้องสั่งปิดชั่วคราว เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ให้เกิดการปรับปรุงและระมัดระวังมากขึ้น ขณะนี้ที่ผิดแน่นอน คือ หมอที่แอบอ้างตัว ซึ่งเจ้าพนักงานสอบสวนกำลังออกหมายจับอยู่

Lif

เมื่อถามว่า ทางเจ้าของคลินิกระบุว่า แพทย์จริงที่ประจำอยู่ในคลินิกเป็นผู้รับสมัครงานจากหมอแอบอ้าง ดังนั้น ความผิดจะเกิดขึ้นจากใครบ้าง นพ.ธเรศกล่าวว่า ตามกฎหมายคลินิก จะประกอบด้วย 1.ผู้รับอนุญาต คล้ายเป็นเจ้าของกิจการ ที่จะเป็นบุคคลทั่วไป หรือบริษัทก็ได้ และ 2.ผู้ดำเนินการสถานพยาบาล คือ แพทย์ในคลินิกที่มีใบประกอบวิชาชีพแพทย์ตามแต่ละสาขา คล้ายผู้จัดการทางการแพทย์ มีหน้าที่จัดหาผู้ให้บริการที่ถูกต้อง แต่ปรากฏว่ามีหมอเถื่อนในคลินิก ดังนั้น เบื้องต้นจึงมีโทษจากการไม่จัดผู้ให้บริการ ให้เป็นไปตามมาตรฐาน โดยความผิดตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 ฐานปล่อยปละละเลยให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่ผู้ประกอบวิชาชีพทำการประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนกรณีว่าจะมีส่วนรู้เห็นหรือไม่นั้น ต้องรอให้เจ้าพนักงานสอบสวนดำเนินการต่อไป

“ขณะนี้เบื้องต้นความผิดหลักอยู่ที่ผู้ดำเนินการ ส่วนภาพรวมถือว่าสถานพยาบาลไม่ปลอดภัย พบหมอเถื่อนเข้ามาทำงาน ตามหลักจึงต้องปิดปรับปรุง 30 วัน ส่วนเจ้าของคลินิก ตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล ยังไม่พบความผิด แต่สิ่งที่เราปิดสถานบริการ นั่นเป็นการลงโทษเจ้าของตามโทษการปกครองแล้ว” นพ.ธเรศกล่าว

นอกจากนี้ จากการตรวจสอบวานนี้ (17 ธ.ค.) ยังพบความผิดในด้านอื่นๆ เช่น คลินิกมีการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ใช้สอยโดยไม่ได้รับอนุญาต การโฆษณาที่ผิดกฎหมาย และการไม่แจ้งรายชื่อของแพทย์ผู้ให้บริการกับผู้อนุญาต ซึ่งจะมีการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ขอบคุณที่มา    ข่าวมติชน

โพสต์โดย : ปลายน้ำ