จัดหนัก!! ม็อบนาบอนประกาศทุบหม้อข้าว เอาชีวิตเข้าแลก

มวลชนภาคี saveนาบอน ประกาศทุบหม้อข้าว เอาชีวิตเข้าแลก หลังเจราจาสผ. และกกพ.ไม่เป็นผล

 

บริเวณหน้ากรมหลวงชุมพร เขตอุดมศักดิ์ กลุ่มภาคี saveนาบอน ประกาศเจตนารมณ์ทุบหม้อข้าว เอาชีวิตเข้าแลกเพื่อปกป้องบ้านเกิด ปกป้องทรัพยากรธรรมชาติให้ลูกหลาน หลังการเจรจากับสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือสผ. และคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือกกพ. ไม่เป็นผล โดยจะเริ่มปฏิบัติการคืนนี้

 

 

โดยนายเรียง สีแก้ว ที่ปรึกษากลุ่ม saveนาบอน ระบุว่า ตามที่ทราบโดยทั่วกันว่าเมื่อเช้าที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีได้ลงชื่อในคำสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงไปเยียวยา 13 ครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล ที่อำเภอนาบอน จังหวัดนครศรีธรรมราชและให้ สผ.และ กกพ.รับข้อเสนอของกลุ่ม saveนาบอน เรื่องให้มีการศึกษาใหม่ในด้านความเหมาะสมของที่ตั้งหรือการศึกษา SEA และให้ กกพ. รับข้อเสนอนี้ ซึ่งได้มีการนัดประชุมกับ สผ. และ กกพ. เมื่อเวลา 15.00 น. ที่ผ่านมา

 

โดยการเจรจาดังกล่าวล้มเหลวทางสผ.ไม่ยอมรับแนวทางการทำ SEA หรือแม้แต่จะทบทวนเรื่องของที่ตั้งที่เหมาะสม ซึ่งยืนยันว่าไม่ดำเนินการใดๆทั้งสิ้น ฉะนั้นตัวแทนของชาวนาบอนขอใช้ชีวิตเข้าสู้ ในการปกป้องบ้านเกิด ปกป้องแผ่นดินภาคใต้ไว้ในครั้งนี้ และจะขอยกระดับการชุมนุม จึงขอให้ติดตามอีกครั้งในคืนนี้ จะเริ่มปฏิบัติการการต่อสู้โดยใช้ชีวิตเข้าแลกและเอาอิสรภาพเข้าแลกจนกว่าข้อเสนอจะได้รับการตอบสนอง

ด้านนายเอิบ สารานิค ประธานสภาองค์กรชุมชน ต.ทุ่งสง กล่าวว่า วันนี้กลุ่ม saveนาบอน ประกาศทุบหม้อข้าว เอาชีวิตเป็นเดิมพัน ฉะนั้นคำสั่งของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่มีความหมายจากการที่สั่งให้หน่วยงานเข้าไปทบทวนในข้อเสนอที่ชาวนาบอนเสนอทั้ง 4 ข้อ แต่มีกลุ่มทุนที่อยู่เหนือรัฐอยู่เบื้องหลัง วันนี้จึงประกาศเจตนารมณ์ทุบหม้อข้าว เพื่อต้องการเอาชีวิตชาวนาบอนไปแลก นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจะต่อสู้ ไม่ถอย เพื่อลมหายใจ เพื่อบ้านเกิด เพื่อลูกหลาน เพื่อพ่อแม่พี่น้องของพวกเรา พวกเราจำเป็นจะต้องบุกและต่อสู้เพื่อปกป้องเอาไว้ซึ่งทรัพยากรธรรมชาติ ปกป้องไว้ซึ่งลมหายใจของเราเอง ฉะนั้นประกาศถึงเครือข่าย saveนาบอน ทั่วประเทศไทยว่าวันนี้เราไม่เชื่อถือในคำสั่งของรัฐบาล รัฐบาลไม่มีความสามารถในการควบคุมหน่วยงานราชการได้ ซึ่งต่างมีกลุ่มทุนอยู่เบื้องหลัง

ขอบขอบคุณข้อมูลจาก:innnews