Social :



โซเชียลช่วยชีวิต เจ้าของร้านเขียนขอบคุณลูกค้า ออเดอร์เดียวของวัน เผยเกือบฆ่าตัวตาย

01 ก.พ. 65 11:02
โซเชียลช่วยชีวิต เจ้าของร้านเขียนขอบคุณลูกค้า ออเดอร์เดียวของวัน เผยเกือบฆ่าตัวตาย

โซเชียลช่วยชีวิต เจ้าของร้านเขียนขอบคุณลูกค้า ออเดอร์เดียวของวัน เผยเกือบฆ่าตัวตาย

เมื่อวันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา ผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งได้ออกมาเล่าเรื่องราวที่ตนเองสั่งอาหารร้านเดิม 3 วันติดต่อกัน ปรากฏว่าร้านอาหารได้ส่งจดหมายเขียนด้วยลายมือมาขอบคุณ พร้อมกับแถมส้มมาให้ โดยข้อความบนจดหมายระบุว่า

“เรียนคุณกาญจน์ค่ะ (ไม่ต้องสงสัยนะคะว่าทำไมถึงจำชื่อได้ เพราะตั้งแต่เข้าร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับแกร็บไป 5 วันทางร้านมีออเดอร์เดียวคือของคุณกาญจน์ 555) กระดาษแผ่นนี้ที่เขียนขึ้นมาก็แค่อยากขอบคุณ ขอบคุณคุณกาญจน์ที่เปิดโอกาสให้ทางร้านได้เรียนรู้ระบบแกร็บได้มีภาพอาหารไปลงเมนู ที่สำคัญได้กำลังใจดี ๆ ถึงแม้ว่าจะเป็นกำลังใจเดียวในแต่ละวันช่วงนี้แต่ยังไงก็รู้สึกดีและรู้สึกอยากขอบคุณยิ่งนัก ขอบคุณที่เปิดบิลแรกให้ในวันที่ 23 มกราคม 2565 ที่ผ่านมาและอยากขอบคุณอีกครั้งที่กลับมาทานต่อในวันที่ 24 มกราคม 2565 และต้องขอบคุณอีกครั้งที่กลับมาทานในวันนี้ ขอบคุณจากหัวใจ” พร้อมลงกำกับชื่อร้าน PJ Kitchen & PJ Coffee

ต่อมา ร้าน PJ Kitchen & PJ Coffee ก็ได้ออกมาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กของร้านพร้อมระบุว่า หลังจากที่ทางร้านไปขอลูกค้าจากพระมาเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา จู่ ๆ วันนี้ก็ครัวแตก มีออเดอร์มาทะลุ 100 ออเดอร์ละต้องปิดรับออเดอร์ไป เพราะทางร้านมีพนักงานเพียงแค่ 3 คนครึ่ง ด้วยความไม่ตั้งตัวและวัตถุดิบที่เตรียมไว้ไม่พอ เพราะทางร้านได้เตรียมข้าวไว้เพียง 15 จานเท่านั้น ซึ่งปกติเรามีออเดอร์เพียงวันละ 1 ออเดอร์เท่านั้น

จึงอาจทำให้ลูกค้าไม่พอใจ จึงฝากคำขอโทษส่งไปถึงลูกค้าด้วยและจะปรับปรุงให้ดีขึ้น พร้อมขอลูกค้าอย่าโกรธกันนานและให้โอกาสร้านใหม่อีกครั้ง โดยทางร้านนั้นจะตั้งใจทำเมนูทุกเมนูให้คุณลูกค้าทุกท่านได้ทานอย่างดีที่สุด

ก่อนที่ต่อมา จะมีชาวเน็ตเข้ามาบอกกับทางร้านว่า ที่จู่ๆ ทางร้านก็ออเดอร์พุ่งก็เพราะว่ามีลูกค้านำจดหมายของทางร้านไปแชร์ลงบนทวิตเตอร์นั่นเอง



ซึ่งภายหลังที่ยอดออเดอร์ถล่มทลาย ทางเพจเฟซบุ๊ก PJ Kitchen & PJ Coffee ก็ได้โพสต์ข้อความถึงคุณกาญจน์ ลูกค้าออเดอร์เดียวของวันซึ่งเป็นคนที่เปลี่ยนชีวิตเจ้าของร้าน โดยในโพสต์ระบุข้อความว่า

"ที่จริงข้อความนี้ได้เขียนไว้ตั้งแต่เมื่อคืนหลังปิดร้าน เพื่ออยากจะขอบคุณ คุณกาญจน์อย่างเป็นทางการ ตั้งใจจะส่งให้คุณกาญจน์ตอนสั่งอาหารมาอีก มีทั้งหมด 5 แผ่น ที่ตั้งใจเขียนถึง เพราะไม่ได้ทราบเรื่องคุณกาญจน์ทวิตมาก่อนในตอนแรก แต่วันนี้ไม่เห็น Order จากคุณกาญจน์ เพื่ออยากเก็บความรู้สึกนี้ให้มันต่อเนื่องกับสิ่งที่ได้รับในวันนี้ ซึ่งมันเกินคำอธิบายจริงๆ จึงขออนุญาตส่งข้อความนี้ถึงคุณกาญจน์อีกครั้ง เผื่อใครรู้จักและสามารถส่งต่อไปได้นะคะ (เพราะปกติไม่เล่น Social อะไรเลย นอกจากพื้นที่ตรงนี้)"

เรียนคุณกาญจน์ค่ะ

"ตอนนี้ปิดร้านเรียบร้อยแล้ว เลยอยากจะมาเขียนพรั่งพรูความรู้สึกและคำขอบคุณที่มันยังอยู่ในใจผู้หญิงคนนี้อีกมากมาย อยากจะบอก อยากจะตะโกนออกไปดังๆ เผื่อคุณกาญจน์จะกลับมาสั่งอีก อยากส่งจดหมายนี้ให้ถึงคุณกาญจน์รับรู้ถึงความรู้สึกดีของคนคนนึงว่ามันมากมายแค่ไหน วันนี้ได้เขียนไปบ้างแล้วในกระดาษ แต่ไม่ทราบว่าคุณกาญจน์จะได้รับมั๊ย ถึงรึเปล่า อ่านออกรึเปล่า เพราะตอนนั้นมัวแต่ดีใจ กระดาษก็ไม่มี ปากกาหมึกก็จะหมด น้ำตาก็หยดลงไปบนตัวหนังสือ อาหารก็ต้องทำ กลัว grab Riders จะมารอ มือก็สั่น ทั้งรีบทั้งลน ตอนนี้มีเวลาเลยอยากตั้งใจเขียนถึงคุณกาญจน์ ว่า Order ของคุณกาญจน์มันมีความหมายและช่วยให้คนอีกคนนึงเห็นแสงสว่างและมีความหวังขึ้นมากมายขนาดไหน ดิฉันไม่ได้รู้จักคุณกาญจน์

ไม่เคยรู้ว่าเป็นใครอยู่ที่ไหน แต่คิดว่าอายุน่าจะน้อยกว่าดิฉัน ขออนุญาตแทนตัวเองว่าพี่นะคะ เริ่มจากพี่เปิดร้าน PJKitchen and PJ Coffee มาเข้าปีที่ 6 แล้วนะคะ จากพนักงานบริษัท ลาออกจากงานมา เอาเงินที่มีมาลงทุนกับร้านทั้งหมด เพราะเป็นคนชอบทาน และทานแต่ของดีดี เลยตั้งใจทำร้านนี้ขึ้นมา เพื่ออยากให้มีร้านดีดี คุณภาพดีดี ราคาไม่สูงมาก ลดแลกแจกแถมให้กับเด็กนักเรียน คนยากไร้ ต่างๆนานา แต่ตัวเองไม่มีความรู้หรือประสบการณ์อะไรเลยสักอย่างด้านนี้ เอาง่ายๆคือกินเป็นอย่างเดียว ไม่ได้คำนวณ Fix cost หรือต้นทุนอะไรมาเลย จากที่คิดว่าจะเอาทุนคืนมาได้ในเดือนที่ 13 ก็ไม่เป็นเช่นนั้น 1-2 ปีแรกบอกเลยค่ะเละเทะไปหมด

มีแต่ติดลบ ขาดทุนมาทุกเดือน ค่าแรงและสวัสดิการที่จ้างสูง ค่าวัตถุดิบ ค่าเช่า ที่แบกไว้หมดทุกอย่าง คือขายดีจนจะเจ๊งเคยได้ยินมั๊ยคะ ปัญหาต่างๆเข้ามาให้แก้ไขไม่ขาดสาย ล้มลุกคลุกคลาน กว่าอะไรจะลงตัว ก็ปามาปีที่ 3 เริ่มจะเข้าที่เข้าทาง จากทำอะไรไม่เป็นก็เริ่มทำเป็น กลับมีพายุรอบแรก พัดเข้ามา คือฝุ่น 2.5PM จากที่เคยขายดี พฤติกรรมลูกค้าก็เปลี่ยนไป เริ่มมี Delivery เข้ามา แต่พี่ยังไม่เข้าร่วม เพราะรู้ว่าค่า GP มันสูง เราต้องบวกราคาเข้าไปอีก ไม่อยากผลักภาระไปหาลูกค้า จนขายมาเรื่อยๆซึ่งยังพอขายได้บ้างถึงจะไม่ดีแบบเดิม แต่พอพายุระลอก2 Covid-19 รอบ1อันนี้หนักเลย ร้านถูกปิด รายได้ไม่มี แต่ค่าใช้จ่ายยังเดิน

ค่าแรงค่ากินค่าที่พักของเด็กในร้านและของตัวเองยังเดิน ไม่มีเงินหมุน พยายามหาเงินมาทั้งกู้และรับพวกเนื้อย่างมาปิ้งขายหน้าร้านกำไรไม้ละ2บาท เพื่อจ่ายให้เด็ก ตัวเองไม่ต้องพูดถึง ตลอด 6 ปีนี้ไม่เคยได้พักและไม่เคยมีเงินเดือน หลังจากนั้น เริ่มกลับมาเปิดร้านขายอาหารปกติในร้านแต่แบบ Take away เท่านั้น สถานการณ์ก็ยังไม่ดีขึ้น จากที่ไม่อยากเข้าร่วมพวก Delivery ต่างๆ ก็เริ่มสมัคร Line Man
Lif
,Grab ดู แต่ไม่เข้าร่วม GP เพราะไม่อยากปรับราคาอาหารขึ้น ของ Line Man สามารถขายได้เลย แต่ของ Grab แจ้งว่าต้องมี Sales ติดต่อกลับมา จนผ่านมา 2 ปีกว่าเชื่อมั๊ยคะ ว่าไม่มี Order สักรายการเดียวจาก Delivery ทาง Grab ก็ไม่ติดต่อมา

ซึ่งสถานการณ์ทางร้านมันมีแต่เลวร้ายลง ปัญหารุมเร้ามาทุกทาง ต้องหากู้หนี้ยืมสินมาทุกช่องทางเพื่อพยุงร้านไว้ให้ได้ ยอมรับว่าเคยคิดจบชีวิตตัวเองหลายครั้ง แบบไปต่อไม่ไหวแล้ว อายุก็มากขึ้น สมัครงานที่ไหนก็ลำบาก มีโรคประจำตัวอีก มองไม่เห็นทางออก ไร้การเยียวยา ยิ่งพอมี Covid-19 รอบ 2,3,4 มาอีก มันเหมือนฉายหนังซ้ำๆวนอยู่แบบเดิม วัตถุดิบก็ขึ้นราคาหนักมาก ยิ่งพยายามดิ้นรนต่อสู้มันยิ่งรัดตัว แต่พอหันมามองข้างหลัง ก็ได้สติว่าเราไม่สามารถทิ้งใครไว้ข้างหลังได้สักคนT''T เลยกัดฟันลุกขึ้นสู้อีกรอบ ทำลายความคิดตัวเอง ไม่เอาคำพูดคนที่คอยบั่นทอนใจเรามาทำร้ายเราอีก

พี่เคยได้ยินลูกค้าเคยบ่นเรื่องอาหารว่าแพง เอาร้านพี่ไปเปรียบร้านข้างทาง ต่างๆ นานา ยอมรับว่าเสียใจและเป็นแผลในใจถึงทุกวันนี้ หลายคนบอกว่าลูกค้าเค้าไม่รู้ว่าค่าเช่าพี่กี่หมื่น ค่าเด็กในร้านคนละกี่หมื่น เค้าไม่รู้ว่าพี่ใช้เนื้อสัตว์อนามัยทุกอย่าง ผักปลอดสารพิษออร์แกนิค ข้าวหอมมะลิแท้100% ที่ดีมากๆซึ่งร้านใหญ่ๆยังไม่กล้าใช้ ไข่ไก่ต้องมีตราประทับอนามัยเท่านั้น ใช่ค่ะ ลูกค้าไม่รู้ แต่พี่รู้ พี่อยากให้ลูกค้าพี่กินของดีดี แบบที่พี่กิน พี่ไม่ได้อยากขายเฉพาะลูกค้าขาจร แต่พี่อยากให้ลูกค้าพี่กินแล้วกลับมาใหม่ ถึงแม้ว่าต้องเพิ่มราคาขึ้นไปอีกนิดสำหรับ Delivery ทั้งที่ยังไม่ได้กำไรเลย แต่พี่ต้องการให้มีการระบายสินค้า และเงินหมุนเวียนก่อน ถึงแม้ว่าจะไม่อยากผลักภาระไปให้ลูกค้าแต่ตอนนี้พี่เองก็ไม่สามารถแบกรับภาระทั้งหมดไว้ที่ตัวเองคนเดียวเช่นกัน

เลยเข้าร่วมจ่าย GP กับ 2App. นี้ใหม่เมื่อวันที่ 22-01-2022 ที่ผ่านมา โดยจะจ่ายค่า GP รวมภาษีที่ 32 .1% และมาจ่ายค่าโฆษณาอีกวันละ 80 บาท ต่อApp.วันแรกก็มีเพื่อนๆช่วยสั่งซื้อให้ในวันที่ 22/01/2022 พอวันที่ 23/01/2022 พี่นั่งรอทั้งวัน ไม่มีสัก Order 2 ทุ่มแล้วพี่เลยปิดร้าน เดินออกไปแล้ว ประมาณ 2 ทุ่มกับ 4 นาที ได้ยินเสียง Order จาก Grab พี่กระโดดกอดคอกับแม่ครัว รีบมาไขประตูร้านมาทำอาหารให้คุณกาญจน์ คือแบบดีใจมากๆดีใจสุดๆ ทำผิดทำถูกก็ไม่รู้ พอมาวันที่ 24/01/2022 เวลาเดิม ก็มี Order คุณกาญจน์มาอีกครั้ง

ถึงเป็น Order เดียวของทั้งวัน ก็ดีใจอีกรอบ ที่กลับมาซื้อใหม่ พอมา วันที่ 25-26/01/2022 ก็นั่งรอดู App. Refresh ตลอด บอกแม่ครัวว่ารอจนกว่าวินาทีสุดท้ายของApp.ปิดนะ เผื่อคุณกาญจน์จะมาสั่งอีก สรุปไม่มีมา 2 วัน ก็มานั่งคิดว่า เราพลาดอะไรไปนะ อาหารไม่ถูกปากรึเปล่า แพงไปแน่เลย คิดต่างๆ นานา และก็ปลอบใจตัวเอง ว่าใครจะมาซื้อข้าวกินมื้อละ 300 กว่าบาทได้ทุกมื้อ เลยเริ่มทำใจ ว่าทางนี้สำหรับพี่คงไม่ไหว

เราแบกทั้งหน้าร้านและบน App. แบบนี้ไม่ไหวแล้ว พยายามหาวิธีอื่น ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว คืนวันที่ 26-01-2022 ตรงกับวันพุธ หลังปิดร้านเพื่อนพี่จึงชวนไปไหว้พระขอพร พระพิฆเนศ ที่ห้วยขวาง พี่ก็ขอแบบตรงๆ เลยว่าถ้าอยากให้พี่มีชีวิตอยู่ต่อไป

เพื่อมีโอกาสได้ช่วยเหลืออีกหลายชีวิตให้เค้าสามารถเลี้ยงปากเลี้ยงท้องได้ ขอให้พี่กลับมาค้าขายได้ ให้พี่ช่วยคนที่เค้าลำบากได้มีกิน ช่วยส่งลูกค้ากลับมาหาพี่เหมือนเดิมได้มั๊ย เช้าวันที่ 27-01-2022 จากปกติไม่มีลูกค้าเลย พี่ได้ลูกค้ามา 1 โต๊ะ 4 ท่าน และช่วงเที่ยงได้ 4-5 คน และ ช่วงค่ำอีก 3-4 คน และพอถึงเวลาเดิม 2 ทุ่ม มี 1 Order เดียวของพี่เช่นเดิมของคุณกาญจน์เข้ามา พี่เลยรู้สึกตื้นตันใจแบบอยากเล่าให้คุณกาญจน์ฟัง มันน้ำตาไหลแบบไม่อายเด็กในร้านเลย ดีใจแบบดีใจมากๆ จากไม่เคยมาสายมู วันนี้ทำให้พี่เชื่อว่า ท่านส่งคุณกาญจน์มาให้พี่ เพื่อให้พี่ต้องมีชีวิตอยู่เพื่อไปดูแลและแบ่งปันให้อีกหลายชีวิต พี่เลยอยากขอบคุณคุณกาญจน์ ขอบคุณมากๆที่เหมือนกับให้ชีวิตใหม่พี่...ให้โอกาสพี่ไม่คิดสั้น...และให้โอกาสพี่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักและตั้งใจทำอะไรดีดีให้กับอีกหลายๆคนมากมายต่อไป

สุดท้ายอยากจะบอกคุณกาญจน์ว่า พี่คงจะไม่มีอะไรมาตอบแทนคุณกาญจน์มากไปกว่านี้ ทำได้เพียง "พี่จะไม่ใส่ผงชูรส" ลงไปในอาหารคุณกาญจน์นะคะ







ขอบคุณที่มา SANOOK

โพสต์โดย : ปลายน้ำ