Social :



แม่เด็กหญิง 13 ร้องสื่อขอความเป็นธรรม ลูกถูกรถชนอ๊วกเป็นเลือด แต่คู่กรณียืนยันจ่ายค่าเสียหาย 3 พัน

01 ก.พ. 65 17:02
แม่เด็กหญิง 13 ร้องสื่อขอความเป็นธรรม ลูกถูกรถชนอ๊วกเป็นเลือด แต่คู่กรณียืนยันจ่ายค่าเสียหาย 3 พัน

แม่เด็กหญิง 13 ร้องสื่อขอความเป็นธรรม ลูกถูกรถชนอ๊วกเป็นเลือด แต่คู่กรณียืนยันจ่ายค่าเสียหาย 3 พัน

แม่วัย 44 ปี วอนพนักงานขายประกันชื่อดังเห็นใจครอบครัว หลังขับฟอร์จูนเนอร์ ชนลูกสาววัย 13 ปีกลางสี่แยก จนอ๊วกเป็นเลือด แต่จะจ่ายทั้งค่าทำขวัญ ค่ารักษาพยาบาลและค่าซ่อมรถ 3,000 บาท ขณะเจ้าคู่กรณียืนยันทำถูกต้องทางกฎหมายทุกประการ ประมาทร่วมต้องต่างคนต่างซ่อม บาดเจ็บต้องจ่ายเอง 3,000 เพียงพอแล้ว

วันที่ 1 ก.พ.65 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน ต.ร่อนทอง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ว่าอยากให้เป็นสื่อกลางเรียกร้องขอความเป็นธรรม ลูกสาวถูกรถชนแล้วเจ้าของรถปฏิเสธการเยียวยา และอยากให้ผู้รู้ชี้แนะ

นางนิภาวรรณ เวโรจน์ อายุ 44 ปี บ้านเลขที่62/1 ม.3 ต.ร่อนทอง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ เล่าว่า เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.64 เวลาช่วงเช้า ลูกสาวขับรถจักรยานยนต์ไปโรงเรียนสตึก อ.สตึก ไม่นานได้รับแจ้งจาก จนท.ว่าลูกสาว วัย 13 ปี ถูกรถชนบริเวณสี่แยกซอยข้างโรงพยาบาลสตึก (ไม่มีสัญญาณไฟ) ถูกนำส่งโรงพยาบาลจึงรีบไปหาลูก พบว่าไม่ได้สติ ต่อมาหมอแจ้งว่าลูกอาเจียนเป็นเลือด เกรงว่าสมองจะได้รับการกระทบกระเทือนอย่างแรง ต้องส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ หลังจากนั้น 2 วันหมอให้กลับมาพักฟื้นที่บ้านเพื่อรอดูอาการ มาจนถึงวันนี้ลูกสาวยังปวดหัวไม่หาย จึงไม่กล้าให้ลูกไปโรงเรียน


นางนิภาวรรณ เล่าด้วยว่า หลังจากเกิดเหตุ ได้ไปเจรจากับนายพิสิทธิ์ รองพล อายุ 45 ปี เจ้าของรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ และเป็นคนขับไปชนลูกสาว แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ เนื่องจากนายพิสิทธิ์ จะจ่ายเงินเยียวยาทั้งหมดทั้งค่ารักษาพยาบาล ค่าซ่อมรถ และค่าทำขวัญ รวมเป็นเงิน 3,000 บาท จึงขอร้องให้คนขับรถเห็นใจ เพราะจ่ายค่ารักษาพยาบาลเองไปแล้ว 10,800 บาท ทั้งรถพังเสียหาย และคนยังอาการไม่ปกติ แต่นายพิสิทธิ์ ยืนยันจะจ่าย 3,000 บาท
Lif
อ้างว่าเพียงพอแล้ว เมื่อต้องการขอความช่วยเหลือจากพนักงานสอบสวน เจ้าของคดี กลับได้รับคำตอบว่า”ให้ไปจ้างทนายเก่งๆ แบบชั้น 1 ไม่ต้องเอาทนายกิ๊กก๊อกในพื้นที่มา เดี๋ยวจะแพ้” ตอนนี้ตนกับสามี ไม่มีทางออก เพราะไม่มีใครช่วยเหลือได้ จึงขอร้องขอความเป็นธรรมผ่านสื่อ เผื่อจะมีผู้รู้ ผู้ใจบุญมาให้คำชี้แนะ

จากการสอบถามนายพิสิทธิ์ รองพล คนขับรถที่เกิดอุบัติเหตุ ชี้แจงผ่านผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ว่า ตนไม่สามารถชดใช้ตามคำเรียกร้องของผู้เสียหายได้ เพราะกฎหมายไม่เอื้อ เด็กอายุ 13 ปี ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ รถจักรยานยนต์ไม่ได้ต่อ พ.ร.บ.ภาคบังคับ ส่วนรถตนเองมีทั้ง พ.ร.บ.ภาคบังคับ มีใบอนุญาตขับขี่ มีประกันแบบสมัครใจ(ชั้น1) และพร้อมจะจ่ายให้ แต่ตนไม่ผิด เพราะลักษณะการชน เป็นการชนอยู่กลางสี่แยก ต่างคนต่างผิดคือเป็นการประมาทร่วม

เมื่อเป็นการประมาทร่วม พนักงานสอบสวน ระบุชัด ต่างคนต่างซ่อมรถ อีกฝ่ายต้องรักษาเอง ส่วนเด็กที่ได้รับบาดเจ็บถือเป็นเรื่องธรรมดา เพราะเด็กไปล้มใส่พื้นปูนเอง ส่วนผมไม่เป็นไร เพราะเหล็กหุ้มหนัง

นายพิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า ถ้าจะให้ผมจ่ายตามคำเรียกร้องของคู่กรณี คือค่ารักษา 10,800 ค่าซ่อมรถอีกประมาณ 5,000 บาท และค่าทำขวัญอีก ก็จะตกราว 20,000 บาท ถ้าตกลงกันแบบนี้ เขาต้องมาซ่อมรถให้ตนเพราะได้รับความเสียหายเช่นกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ระหว่างที่โทรศัพท์สัมภาษณ์เจ้าของรถ นายพิสิทธิ์ บอกว่า จริงแล้วเรื่องนี้เป็นเรื่องเล็กน้อย น่าจะไปหาทำข่าวที่มันสร้างสรรค์กว่านี้ ไม่ได้สอน แต่แนะนำ

ขอบคุณที่มา   ข่าวมติชน



โพสต์โดย : ปลายน้ำ