ปคบ.-อย. แถลงผลบุกโรงงานไส้กรอกพิษ พบใส่สารกันบูดเพียบ ชี้กินแล้วอันตรายถึงขั้นเสียชีวิต
วันที่ 3 ก.พ.2565 ที่บก.ปคบ. พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ. พร้อมด้วย พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.4 บก.ปคบ. นพ.วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการอย. และ น.ส.อรสุรางค์ ธีระวัฒน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านมาตรฐานอาหาร ร่วมแถลงความคืบหน้าภายหลังจับกุมแหล่งผลิตไส้กรอกปนเปื้อน ที่ จ.ชลบุรี พร้อมของกลางมูลค่ากว่า 700,000 บาท
พ.ต.อ.เนติ เปิดเผยว่า กรณีนี้ทาง บก.ปคบ. ได้รับการประสานจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ว่า พบผู้บริโภคซึ่งเป็นเด็กในพื้นที่ จ.เชียงใหม่, สระบุรี, เพชรบุรี, ตรัง และ กาญชนบุรี รวม 9 คน ที่ถูกส่งเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล หลัวจากกินไส้กรอกยี่ห้อหนึ่ง ก่อนเกิดภาวะเมธฮีโมโกลบินนีเมีย จึงประสานสสจ.เชียงใหม่, สระบุรี, เพชรบุรี และ ตรัง เพื่อสืบสวนหาแหล่งจำหน่าย แหล่งผลิต ก่อนจะเข้าตรวจสอบโรงงานที่จ.ชลบุรี พบ น.ส.เอ (นามสมมติ) แสดงตนเป็นเจ้าของ
พ.ต.อ.เนติ กล่าวต่อว่า น.ส.เอ ให้การยอมรับว่า เป็นผู้ผลิตไส้กรอกดังกล่าว โดยทำมาแล้วประมาณ 5 ปี จากการตรวจสอบฉลากของผลิตภัณฑ์ไม่มีเลขสารบบอาหาร สถานที่ผลิตไม่ผ่านเกณฑ์จีเอ็มพีที่กฎหมายกำหนด อีกทั้งยังไม่มีการควบคุมการใช้วัตถุเจือปนอาหารอย่างเหมาะสม
ขั้นตอนการผลิตก็ไม่เข้าข่ายโรงงานตามกฎหมาย และยังพบด้วยว่า ผู้ผลิตมีการแสดงฉลากผลิตภัณฑ์ยี่ห้อต่าง ๆ มากถึง 32 ยี่ห้อ รวมทั้งยังมีสัญลักษณ์ฮาลาลปลอมอีกด้วย จึงได้เก็บตัวอย่างอาหารเพื่อนำไปตรวจวิเคราะห์ เนื่องจากสงสัยว่าจะเข้าข่ายอาหารปลอมด้วย
พ.ต.อ.เนติ กล่าวด้วยว่า สำหรับความผิดที่พบในขณะนี้ เป็นความผิดตามพรบ.อาหาร พ.ศ.2522 คือฝ่าฝืนมาตรา 6(7) สถานที่ผลิตอาหารไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์วิธีการผลิตที่ดี มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท และฝ่าฝืน มาตรา 6(10) ผลิตภัณฑ์อาหารแสดงฉลากไม่ถูกต้อง โทษปรับไม่เกิน
นอกจากนี้ หากพบสารต้องห้ามในอาหาร ก็จะเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522
มาตรา 25 ฐาน ผลิตอาหารไม่บริสุทธิ์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากเป็นอาหารปลอมด้วย ก็จะมีโทษหนักขึ้นคือ จำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 5,000-100,000 บาท
ด้าน นพ.วิทิต กล่าวว่า ภาวะเมธฮีโมโกลบินนีเมีย คือ ภาวะเม็ดฮีโมโกลบินในเลือดมากผิดปกติ เพราะมีสารอื่นไปจับเม็ดเลือดแดงแทนที่ออกซิเจน ส่งผลให้ร่างกายมีภาวะขาดอ๊อกซิเจน ทำให้มีอาการเหนื่อยล้า ใจสั่น หน้ามืด วิงเวียน หากอาการหนักก็จะทำให้ปลายมือเท้าเขียว บางรายก็ถึงขึ้นหมดสติ หรือเสียชีวิตได้ ส่วนสาเหตุนั้นมาจากการใช้สารไนไตรท์ และไนเตรต ที่ใช้สำหรับยืดอายุของอาหาร หรือ สารกันบูด
ตามปกติแล้วร่างกายสามารถจะขับสารดังกล่าวออกทางไตได้ หากไม่เกินมาตราฐาน ซึ่งกฎหมายได้กำหนดให้ใช้ประกอบผลิตภัณฑ์อาหารได้ไม่เกิน 80 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมของอาหาร แต่จากการตรวจสอบ พบผู้ผลิตได้ว่าจ้างคนงาน และใช้การชั่งตวงวัดที่ไม่ได้มาตรฐาน และจากการตรวจวิเคราะห์ ก็พบว่า ผลิตภัณฑ์มีปริมาณสารนี้ถึง 2,000 กว่ามิลลิกรัม
นพ.วิทิต กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังพบผลิตภัณฑ์หมูยอนั้น มีการนำเนื้อไก่มาใช้ผสม ซึ่งต้องส่งตรวจว่า มีดีเอ็นเอของไก่จริงหรือไม่ เพราะอาจเจ้าข่ายความผิดอาหารปลอมได้ จึงอยากจะฝากถึงผู้ค้าและประชาชนทั่วไป ว่า ขอให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ และมีฉลากของอย.ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่ตรวจยึดได้นั้น มีเพียงฉลากยี่ห้อและภาพพรีเซ็นเตอร์ และทำให้มีความคล้ายกับผลิตภัณฑ์อื่นทั่วไปในท้องตลาด หลังจากนี้ อย.จะร่วมกับ สสจ. ออกตรวจสอบผลิตภัณฑ์ที่ผิดกฎหมาย รวมทั้งประสานกับ บก.ปคบ. เข้าทลายแหล่งผลิตต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.อนันต์ กล่าวว่า ตนขอฝากความห่วงใยมายังประชาชนว่า ก่อนบริโภคควรตรวจสอบแหล่งที่มาของผลิตภัณฑ์อาหารก่อน เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นอาหารที่มีคุณภาพ และฝากถึงสถานประกอบการที่ผลิตอาหาร ให้มีความโปร่งใส และมีความปลอดภัย หากยังมีผู้ฝ่าฝืน จะดำเนินการจับกุมอย่างเด็ดขาดต่อไป
ขอบคุณที่มา ข่าวสด
โพสต์โดย : ปลายน้ำ
