Social :



15 เรื่องรู้ไว้ก่อนไปภูสอยดาว ปักหมุดชมทุ่งหญ้า ป่าสน และดอกไม้งาม

06 ก.ย. 59 23:09
15 เรื่องรู้ไว้ก่อนไปภูสอยดาว ปักหมุดชมทุ่งหญ้า ป่าสน และดอกไม้งาม

15 เรื่องรู้ไว้ก่อนไปภูสอยดาว ปักหมุดชมทุ่งหญ้า ป่าสน และดอกไม้งาม

     แนะข้อควรรู้เกี่ยวกับภูสอยดาว สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ที่ว่ากันว่ามีผืนป่าสนธรรมชาติที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของไทย ใครชอบเดินป่า จะพลาดเที่ยวภูสอยดาวไปไม่ได้
 

           ภูสอยดาว สถานที่ที่ใครหลายคนใฝ่ฝันอยากที่จะไปสัมผัสให้ได้สักครั้ง และถึงแม้ว่าหนทางของภูสอยดาวจะลำบากมากแค่ไหน แต่นั่นดูเหมือนจะไม่เป็นอุปสรรคสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากไปเที่ยวที่นั่น ใครที่ชอบและรักการเดินป่า ภูสอยดาวน่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกหนึ่งที่ ที่จะทำให้คุณได้พบกับความสุขในการดื่มด่ำธรรมชาติแบบเต็ม ๆ แต่จะไปเที่ยวภูสอยดาวให้ประทับใจ เห็นทีงานนี้อาจต้องเตรียมตัวและข้อมูลให้พร้อม เพื่อที่ว่าคุณจะได้สัมผัสกับความสวยงามบนภูสอยดาวได้อย่างเต็มที่

 
          ● 1. อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ตั้งอยู่ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำปาด ท้องที่ตำบลม่วงเจ็ดต้น ตำบลนาขุม ตำบลบ้านโคก อำเภอบ้านโคก อำเภอห้วยมุ่น อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ ตำบลบ่อภาค อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก
 
          ● 2. ว่ากันว่าช่วงที่สวยที่สุดของภูสอยดาวอยู่ในช่วงเข้าฤดูฝนเต็มตัวประมาณเดือนสิงหาคม-กันยายน ซึ่งเป็นช่วงที่การเดินป่าภูสอยดาวมีทั้งความสนุก น่าตื่นเต้น และท้าทายมากที่สุด


          ● 3. การเตรียมอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้พร้อมก่อนเดินทางไปภูสอยดาวก็เป็นเรื่องสำคัญ เช่น

             - ฟิตร่างกายให้พร้อมสำหรับการเดินระยะทางไกล
            - รองเท้าที่เอาไป ควรเป็นรองเท้าผ้าใบ ที่มีความยึดเกาะกับพื้นผิวค่อนข้างดี
            - ยากันยุงและกันแมลงต่าง ๆ
            - เตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการแคมปิ้งไปให้พร้อม เช่น ถ่าน อาหาร น้ำ ไฟฉาย เป็นต้น
            - เตรียมอุปกรณ์กันหนาวให้พร้อม

 
          ● 4. หนึ่งในไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดสำหรับการมาเที่ยวภูสอยดาว คือ การได้มาชมทุ่งดอกหญ้าที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ที่สวยงามดั่งสรวงสรรค์
 
 
          ● 5. ในช่วงฤดูฝน จะมีทั้งดอกหงอนนาค ดอกสร้อยสุวรรณา และดอกหญ้ารากหอม ส่วนในฤดูหนาวจะมี ดอกกระดุมเงิน กล้วยไม้รองเท้านารีอินทนนท์ และต้นเมเปิลผลัดใบเป็นสีแดง บานสะพรั่งท่ามกลางสายหมอกบางเบาของทั้งสองฤดู
 
          ● 6. เส้นทางการเดินป่าภูสอยดาว จะเริ่มต้นที่  "น้ำตกภูสอยดาว"  และไปสิ้นสุดที่  "จุดพิชิตภูสอยดาว"  หรือ  "ลานภูสอยดาว"  รวมระยะทางประมาณเกือบ 7 กิโลเมตร ส่วนระยะเวลาที่ใช้ ขึ้นอยู่กับสภาพความแข็งแรงของร่างกายของแต่ละคน
 
           ● 7. สภาพเส้นทางเดินป่าทั่วไปของภูสอยดาว จัดได้ว่าไม่มีอะไรที่เป็นอันตราย หากมีแต่ความสูงชันที่นักท่องเที่ยวทุกคนอยากที่จะพิชิตขึ้นไปให้ได้ แต่ไม่ต้องห่วง เพราะระหว่างทางจะมีจุดพักเป็นช่วง ๆ ไป
 
          ● 8. ระหว่างทางเดินป่า นักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินไปกับความสวยงามของผืนป่ารอบตัว ที่มีทั้งน้ำตกภูสอยดาว ป่าสนเขา ป่าดิบเขา ป่าดิบแล้ง ป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง ป่าไผ่ เหล่านี้เป็นความสวยงามของธรรมชาติที่จะช่วยทำให้คุณคลายความเมื่อยล้าจากการเดินไปได้ไม่มากก็น้อย

 
Lif
ภาพจาก gopfaster / shutterstock.com

          ● 9. การเดินทางสู่ลานสนภูสอยดาว นักท่องเที่ยวจะต้องผ่านเนินวัดใจทั้ง 5 เนิน ซึ่งแต่ละเนินมีความทรหดและความยากง่ายแตกต่างกันไป ได้แก่

             1. เนินส่งญาติ เป็นทางเดินขึ้นเขาที่มีความชันอยู่พอสมควร มีระยะทางประมาณ 650 เมตร
            2. เนินปราบเซียน เป็นทางสูงชัน นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมมานั่งพักบริเวณจุดพักสุดเนินปราบเซียน ด้วยเพราะระยะทางทั้งหมดของเนินปราบเซียนค่อนข้างไกล หรือกินระยะทางเกือบครึ่งทางของทางเดินทั้งหมด
            3. เนินป่าก่อ เป็นเส้นทางที่ไม่ชันมาก มองไปรอบ ๆ จะเจอเข้ากับ  "ต้นก่อ"  อยู่เต็มบริเวณ
             4. เนินเสือโคร่ง มีที่มาจาก  "ต้นกำลังเสือโคร่ง"  และเปลือกของลำต้นมีสรรพคุณใช้เป็นยาสมุนไพร
            5. เนินมรณะ เป็นช่วงที่ชันที่สุดของเส้นทางภูสอยดาว ก่อนที่จะขึ้นไปถึงลานสน แต่ถ้าใครได้ลองขึ้นไปแล้ว และเห็นธรรมชาติด้านบน รับรองว่าหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง

 
ภาพจาก relax_gap / shutterstock.com

          ● 10. เมื่อขึ้นไปถึงแล้ว พลาดไม่ได้ที่จะไปถ่ายรูปคู่กับป้าย  "ผู้พิชิตลานสนภูสอยดาว"  อันเป็นสักขีพยานถึงความมุมานะและความพยายามที่พาเรามาถึงจุดนี้
 
          ● 11. ตรงบริเวณลานสนภูสอยดาว นักท่องเที่ยวจะได้พบกับทัศนียภาพรอบ ๆ และด้านล่างได้แบบสุดไกลตา หากเป็นในช่วงหน้าฝน ลานสนแห่งนี้จะชุ่มฉ่ำ ที่สอดแซมด้วยดอกไม้หลากหลายสีสันและชนิด จนทำให้คุณเพลิดเพลินไปกับการถ่ายรูปแบบไม่รู้เบื่อ
 
 
          ● 12. แหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงบนลานสนภูสอยดาวก็มีความน่าสนใจไม่น้อย เช่น  "น้ำตกสายทิพย์" "หลักเขตไทย-ลาว" "เส้นทางเดินชมธรรมชาติ"  เป็นต้น
 
          ● 13. บนลานสนภูสอยดาว นักท่องเที่ยวสามารถนอนกางเต็นท์เพื่อสัมผัสธรรมชาติได้อย่างใกล้ชิด ซึ่งนักท่องเที่ยวจะนำเต็นท์มาเองหรือจะเช่าเต็นท์จากทางอุทยานก็ได้
 
          ● 14. ทางอุทยาน จะมีลูกหาบให้บริการในการช่วยขนสัมภาระต่าง ๆ ตั้งแต่เวลา 08.00-14.00 น. หากนักท่องเที่ยวคนใดเดินทางไปถึงแล้วไม่สามารถขึ้นยอดภูได้ทัน ทางอุทยาน ได้จัดเตรียมสถานที่กางเต็นท์ไว้บริการตรงบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติไว้เรียบร้อย (สามารถโทร. สอบถามรายละเอียดและช่วงเวลาเปิด-ปิดภูสอยดาวได้ที่ อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว โทร. 055 436 793)
 
          ● 15. นักท่องเที่ยวสามารถสำรองที่พักเต็นท์ โดยสอบถามกับทางอุทยาน หรือหากต้องการจองห้องพัก สามารถจองได้ที่ www.dnp.go.th รวมถึงสามารถสอบถามรายละเอียดต่าง ๆ เพิ่มเติมทั้งหมดได้ที่ อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว โทร. 055 436 793 หรือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานแพร่ โทร. 054 521 127
 
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
http://park.dnp.go.th/ , เฟซบุ๊ก Tat Phrae

โพสต์โดย : nampuengeiei9760