Social :



ต้องได้เตียงรักษาก่อน! ไทยสร้างไทย จี้รัฐเปิดสายด่วนรับผู้ติดโควิดกลุ่ม 608

28 ก.พ. 65 05:02
ต้องได้เตียงรักษาก่อน! ไทยสร้างไทย จี้รัฐเปิดสายด่วนรับผู้ติดโควิดกลุ่ม 608

ต้องได้เตียงรักษาก่อน! ไทยสร้างไทย จี้รัฐเปิดสายด่วนรับผู้ติดโควิดกลุ่ม 608

ไทยสร้างไทย จี้รัฐเปิดสายด่วนรับผู้ติดโควิดกลุ่ม 608 เพื่อให้ผู้สูงอายุหรือมีโรคประจำตัว ต้องได้เตียงรักษาก่อน
 

นางสาวสุวดี พันธุ์พานิช รองโฆษกพรรคไทยสร้างไทยและว่าที่ผู้สมัคร สส.กทม เขต 1 ทำหน้าที่อาสาสมัครประสานเตียงผู้ป่วยโควิด เรียกร้องให้รัฐบาลเปิดสายด่วนรองรับผู้ติดเชื้อกลุ่ม 608 หรือกลุ่มผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัวเรื้อรังให้ได้รับการรักษาก่อน

 

เนื่องจากเป็นผู้ป่วยที่ต้องได้รับการดูแลใกล้ชิดและได้รับยาด้วยความรวดเร็วเพื่อลดอาการป่วยหนักและเสียชีวิต หลังมีการรายงานข้อมูลผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ระหว่างวันที่ 20-24 กุมภาพันธ์ จำนวนรวม 255 ราย พบว่าผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่มากกว่าร้อยละ 97 เป็นผู้สูงอายุหรืออายุน้อยแต่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง

 



ซึ่งมีผู้ประสานและร้องเรียนเรื่องการไม่ได้รับการติดต่อกลับเรื่องเตียงสำหรับผู้ป่วยติดเชื้อ กลุ่ม 608 โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง โดยแสดงค่าออกซิเจนในเลือดต่ำและมีไข้สูง โดยที่กลุ่มผู้ป่วยดังกล่าวถูกปฏิเสธในการเข้าระบบ Home Isolation เนื่องจากเงื่อนไขเรื่องสุขภาพ

 

MulticollaC
การประสานดูแลของผู้ติดเชื้อ 1330 ยังรองรับผู้ติดเชื้อทั่วไปและกลุ่ม 608 ไม่เพียงพอ ทำให้เกิดความโกลาหลและสิ้นหวังในการดำเนินงานของรัฐบาลมาก หากรัฐบาลมีเตียงว่างจริงขอให้เปิดสายด่วนดูแลผู้ติดเชื้อเฉพาะกลุ่ม 608 ด้วย เพราะถ้าคนกลุ่มนี้ได้รับการดูแลรักษาล่าช้าอาจจะอันตรายได้

 


ทั้งนี้นางสาวสุวดี ระบุว่า ปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อมีอาการปอดอักเสบเกือบ 1,000 ราย และมีผู้ป่วยอาการหนักใส่เครื่องช่วยหายใจ 263 ราย ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่ใช้เวลารักษาเกินกว่า 20 วัน การที่ผู้ติดเชื้อ 608 ได้รับการรักษาช้า จะยิ่งทำให้อัตราการป่วยหนักและเสียชีวิตสูงขึ้น และไม่ใช่เฉพาะกลุ่มผู้สูงวัยเท่านั้นที่เสี่ยงอันตรายหากได้เตียงล่าช้า

 

แม้กระทั่งกลุ่มคนสีเขียวหรือผู้ที่รักษาตัวอยู่ที่บ้าน ก็ต้องได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดี ไม่ใช่ปล่อยให้ต้องรอยาเป็นเวลาหลายวัน ทำให้มีโอกาสสูงที่ผู้ป่วยเหล่านี้จะมีอาการรุนแรงมากขึ้นและสุดท้ายอาจกลายเป็นผู้ป่วยหนักหรืออันตรายได้ รัฐบาลต้องคิดถึงรายละเอียดในเรื่องเหล่านี้ด้วย ไม่ใช่คิดแต่เพียงว่าจะเลิกหรือไม่เลิกยูเซฟเท่านั้น

 

 

 

 ขอบขอบคุณข้อมูลจาก:innnews

โพสต์โดย : monnyboy