ตามยึดทรัพย์คนสนิทสมเด็จพระวันรัตฯ คาดมากกว่า100ล้าน รถหรูเพียบเบนลี่-พอร์ช

จากกรณีข่าวยักยอกเงินจากบัญชีของวัดบวรนิเวศวิหารและวัดสาขา หลังจากสมเด็จพระวันรัต ฯ อดีตเจ้าอาวาสวัดบวรฯ มรณภาพไปเมื่อวันที่ 15 มี.ค. ที่ผ่านมา โดยพบว่าผู้ต้องหามีการยักยอกเงินนำไปใช้ส่วนตัวเป็นเงินจำนวนมาก คดีอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น

วันที่ 3 เม.ย. มีรายงานข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า สำนวนคดีดังกล่าว พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้ กองบังคับการปราบปราม เข้ามาเป็นผู้ถือสำนวนคดี โดย พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. ได้เรียกประชุมชุดสืบสวนและคณะพนักงานสอบสวนไปแล้วพร้อมกับตรวจสอบจนพบว่า ผู้ต้องหาได้ยักยอกเงินของสมเด็จพระวันรัต และบัญชีของวัดเกี่ยวกับการบูรณะวัดบวรนิเวศและวัดสาขาไปจริง โดยผู้ต้องหารายนี้เป็นลูกศิษย์คนสนิทรายหนึ่ง ที่มีความใกล้ชิดกับสมเด็จพระวันรัต และเคยได้รับการแต่งตั้งเป็นไวยาวัจกรมาแล้วอีกด้วย

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า เมื่อวันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบฯ ได้เข้าจับกุมนายเนย (นามสมมติ) ผู้ต้องหารายนี้ได้ที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ซึ่งจากการตรวจค้นบ้านพักของผู้ต้องหา ก็พบทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก อาทิ รถยนต์หรู ยี่ห้อเบนลี่ ,ปอร์เช่ วอลโว่ ,บีเอ็มดับเบิลยู ยี่ห้อเล็กซัส , เงินสด ,เงินฝากในบัญชี , อสังหาริมทรัพย์ , กระเป๋าแบรนด์เนม , พระเครื่องทองคำ รวมมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ทางพนักงานสอบสวนจึงได้ประสานงานไปยังสำนักงานป้องกันและ ปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง.เพื่อดำเนินการต่อไป

ทั้งนี้ ยังมีรายงานด้วยว่า ผู้ต้องหานั้นอาศัยจังหวะที่สมเด็จพระวันรัต อาพาธจนต้องไปรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลจุฬาฯ ก็เลยฉวยโอกาสทำการปลอมแปลงเอกสารและลายเซ็น เพื่อทำธุรกรรมทางการเงินอื่นๆ เพื่อโยกย้ายทรัพย์สินของวัดไปเป็นของตัวเองมากกว่า 190 ล้านบาท หรืออาจจะมีมากกว่านี้ก็เป็นได้ และอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ส่วนตัวผู้ต้องหาก็ยังถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ โดยพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัวในชั้นศาล หลังจากนำตัวผัดฟ้องฝากขังในครั้งแรก เนื่องจากมูลค่าทรัพย์สินที่กระทำความผิดมีมูลค่าสูง จนเกรงว่าหากได้ประกันตัวผู้ต้องหาจะหลบหนี

ขอบคุณที่มา  ข่าวสด