Social :



เร่งคมนาคมเจรจา! นายกฯ กำชับพาณิชย์คุมราคาสินค้า-คมนาคมแก้รถขาด

23 มิ.ย. 65 12:06
เร่งคมนาคมเจรจา! นายกฯ กำชับพาณิชย์คุมราคาสินค้า-คมนาคมแก้รถขาด

เร่งคมนาคมเจรจา! นายกฯ กำชับพาณิชย์คุมราคาสินค้า-คมนาคมแก้รถขาด

นายกฯกำชับพาณิชย์ คุมราคาสินค้า ดูแลให้กระทบประชาชนน้อยที่สุด ยันยังไม่ลดเดินรถ เร่งคมนาคมเจรจา
 

 

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุถึงกรณีที่สินค้าอุปโภคบริโภคเตรียมขึ้นราคา ว่า นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์พยายามดูแลเพื่อไม่ให้กระทบกับผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด

 

ขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิงหลังพบผู้ติดเชื้อรายแรกในสิงค์โปร์ นายกรัฐมนตรีชี้แจง ได้มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข ได้เฝ้าระวังคัดกรอง เตรียมการเตรียมห้องแล็ป และเตรียมความพร้อมในทุกด้าน โดยไม่ต้องการให้ประชาชนตื่นตระหนก รวมไปถึงดูแลตนเองอย่างเคร่ง สายใต้มาตรการ Universal prevention




 

ด้านรถโดยสารเอกชนเตรียมปรับลดการเดินรถนั้น นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่าขณะนี้ ยังไม่มีการลดจำนวน และกระทรวงคมนาคมกำลังเจรจาอยู่ รวมไปถึงได้มีแผนสำรองไว้แล้วในการเตรียมการแก้ไขปัญหา หากมีส่งผลกระทบต่อประชาชน โดยสั่งการให้บขส.และรฟท.ได้เตรียมการไว้แล้ว

 

ส่วนการที่นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ สภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช.เข้ามาดูแลเรื่องความมั่นคงด้านพลังงานนั้น นายธนกรชี้แจงว่า
Lif
เรื่องพลังงานส่งผลกระทบหลายภาคส่วน โดยเฉพาะค่าครองชีพของประชาชน แต่จะเห็นได้ว่าในยุครัฐมนตรีได้สั่งการล่วงหน้ามาก่อนหน้านี้

 

ในการออกมาตรการต่างๆในการแก้ไขปัญหาด้านพลังงาน รวมไปถึงกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยมีการติดตามงานอย่างใกล้ชิด เชื่อว่านายกรัฐมนตรีได้ทำอย่างเต็มที่แล้ว

 




ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าทำไมถึงต้องใช้ สมช.เข้ามาดูแลนั้น นายกรัฐมนตรี มองว่า ในอนาคตเรื่องหลังจากนี้ไปสถานการณ์ของประเทศในเรื่องวิกฤตพลังงานต่างๆ อยู่นอกประเทศส่งผลกระทบมายังประเทศไทยฉะนั้น การแก้ไขปัญหาต่างๆ

 

ไม่สามารถแล้วเสร็จได้ในเร็ววัน ฉะนั้นแล้ว สมช.เอง สั่งการให้เป็นเจ้าภาพในการเตรียมข้อมูลต่างๆ ในเรื่องของความมั่นคงด้านพลังงานถือว่าเรื่องนี้นั้นเป็นสิ่งใหม่ ที่แสดงถึงวิสัยทัศน์ของนายกรัฐมนตรีว่าจะเกิดสถานการณ์อะไรในอนาคต

 

พร้อมกับระบุว่า สมช. เป็นเพียงหน่วยงานที่ประสานงาน แต่มีกระทรวงที่เกี่ยวข้องร่วมกันวางแผนรับมือในอนาคต

 

ขอบขอบคุณข้อมูลจาก:innnews

โพสต์โดย : monnyboy