หลวงพ่อรุ่งองค์ใหญ่ แห่งวัดท่ากระบือ

พระไพโรจน์วุฒาจารย์ หรือหลวงพ่อรุ่ง ติสสโร อดีตเจ้าอาวาสวัดท่ากระบือ พระคณาจารย์นามกระเดื่องแห่งเมืองสมุทรสาคร มีนามเดิมว่า รุ่ง พ่วงประพันธ์ เกิดเมื่อวันเสาร์ แรม ๘ ค่ำ เดือน ๙ ปีระกา พุทธศักราช ๒๔๑๖ เป็นบุตรชายคนเดียวของคุณพ่อพ่วง-คุณแม่กิม นามสกุล พ่วงประพันธ์

อุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดน้อยนพคุณ เมื่อวันที่ ๕ พฤษถาคม พ.ศ.๒๔๓๗ โดยมีพระอาจารย์ทิม วัดน้อยนพคุณ เป็นอุปัชฌาย์ พระอธิการบัว วัดใหม่ทองเสน เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์เคลือบ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า ติสสโร

หลังอุปสมบท ได้เดินทางไปพำนักจำพรรษา ณ สำนักสงฆ์ท่ากระบือและพัฒนาจนมีความเเจริญรุ่งเรืองขึ้นตามลำดับ เมื่อว่างเว้นจากการก่อสร้างเสนาสนะต่างๆ ได้ออกปฏิบัติธรรมแสวงหาครูบาอาจารย์เพื่อศึกษาด้านพระเวทย์วิทยาคมกับพระคณาจารย์ผู้ทรงคุณ หลายองค์ของยุคนั้น เช่น หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า หลวงปู่นาค วัดสุนทรสถิตย์ หลวงปู่ทอง วัดราชโยธา หลวงปู่รุณ วัดช้างเผือก หลวงพ่อไปล่ วัดกำแพง หลวงพ่อหล่ำ วัดอ่างทอง และหลวงพ่อเว่ง วัดหงษ์อรุณรัศมี

ผลแห่งกรรมบำเพ็ญเพียรเจริญภาวนาเป็นนิจ ทำให้สมาธิจิตแก่กล้าเข็มขลังอธิษฐานจิตปลุกเสกสิ่งใดจึงก่อเกิดอิทธิปาฏิหาริย์ อันยากจะหาคำอรรถาธิบายขยายความ ผนวกกับศิลาจาริยาวัตรของท่านงดงาม จึงเป็นที่เคารพศรัทธาของสาธุชนทุกหมู่เหล่า

การสร้างวัตถุมงคล หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ เป็นพระคณาจารย์ผู้ทรงคุณเรื่องเวทย์พุทธาคมยิ่งองค์หนึ่งของเมืองสมุทรสาคร ท่านสร้างวัตถุมงคลเอาไว้หลายชนิด ในวาระและโอกาสต่างๆ รวมทั้งร่วมพิธีพุทธาภิเษกครั้งสำคัญอยู่เสมอ เช่น พิธีวัดราชบพิตรปี ๒๔๘๑ พิธีพระพุทธชินราชอินโดจีน ณ วัดสุทัศน์ และพิธี ๒๕ พุทธศตวรรษ เป็นต้น

ปัจจุบันเหรียญรุ่นแรกเนื้อทองแดงค่านิยมในสภาพที่สวยสมบูรณ์อยู่ในหลักแสนกลางถึงแสนปลายๆ ส่วนเนื้อเงินอยู่ในหลักแสนปลายถึงหลักล้านต้นๆ เหรียญรุ่น ๒ อยู่ในหลักแสนเช่นกัน ส่วนการทำปลอมนั้นอาจจะเรียกว่า ๑ ต่อ ๑๐,๐๐๐ เหรียญ

ประมาณ พ.ศ.๒๕๒๔ หลวงปู่รุ่ง ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาส ได้ร่วมกับชาวบ้านสร้างอาคารเสนาสนะต่างๆ ขึ้นคือ หอพระไตรปิฎก ศาลาตรีมุข และศาลาสาครบุญวัฒน์ ปูชนียวัตถุมีพระประธานประจำอุโบสถ ปางสมาธิ หลวงปู่รุ่งได้แสดงพระธรรมเทศนาอบรมพระพุทธบริษัทให้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ จัดส่งพระภิกษุไปแสดงธรรมตามสถานที่ต่างๆ อย่างต่อเนื่อง

หลวงปู่รุ่ง วัดท่ากระบือ มรณภาพเมื่อวันที่ ๒๗ กันยายน พ.ศ.๒๕๐๐ เวลา ๐๑.๕๐ น. รวมสิริอายุได้ ๘๕ ปี ๖๔ พรรษา และพระราชทานเพลิงศพ เมื่อวันที่ ๓๐ มีนาคม พ.ศ.๒๕๐๑ หลวงปู่รุ่งเป็นที่เคารพนับถือของบุคคลทั่วไป ซึ่งต่างมีความอาลัยในการมรณภาพของหลวงปู่รุ่งเป็นอย่างยิ่ง จึงร่วมกันสร้างรูปหล่อเหมือนและวิหารหลวงปู่รุ่งขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ เมื่อวันที่ ๗ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๐๑

อย่างไรก็ตามเมื่อ พ.ศ.๒๕๓๒ พระครูสิริสาครธรรมก็ได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสจนถึงปัจจุบัน ท่านมีโครงการจดสร้างหลวงปู่รุ่ง ติสฺสโร องค์ใหญ่ที่สุดในโลก เนื้อโลหะขนาดหน้าตักกว้าง ๙ เมตร ๙ ซม. สูง ๑๒ เมตร ๙ ซม. และโครงอาคารที่ประดิษฐานรูปหล่อหลวงปู่รุ่งขนาด ๕๐x๕๐ เมตร ณ ลานติสฺสรา นุสรณ์ (ลานจอดรถด้านหน้าวัดท่ากระบือ) เริ่มก่อสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.๒๕๕๗

ด้วยพลังศรัทธาของลูกศิษย์ทั่วสารทิศทำให้การก่อสร้างดำเนินมาอย่างต่อเนื่องจนเกือบจะแล้วเสร็จภายใน ๓ ปี และในปีนี้

  ระหว่างวันที่ ๓-๙ ตุลาคม ๒๕๕๙ วัดจัดให้มีพิธีบรรจุหัวใจหลวงปู่รุ่ง ติสสโร โดยในวันที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๕๙ เวลา ๑๕.๐๙ น. จะมีพิธียกส่วนหัวใจหลวงปู่รุ่งบรรจุใส่องค์ใหญ่ และยังมีพิธีเททองรูปเหมือนหลวงปู่รุ่ง โดยมี

พระนักพัฒนาแห่งท่ากระบือ

พระครูสิริสาครธรรม นามเดิมชื่อ จำนง ฉิมมณี เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ ๘ มกราคม พ.ศ.๒๔๙๓ ขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๒ ปีขาล ณ บ้านเลขที่ ๘ หมู่ ๔ ต.หนองนกไข่ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร โยมบิดา นายจ๊วน โยมมารดา นางจรินทร์ ฉิมมณี

บรรพชาเมื่อวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๐๖ อายุ ๑๔ ปี พระครูวิเศษสมุทคุณ (หลวงปู่ฮะ) วัดดอนไก่ดี เป็นพระอุปัชฌาย์ ณ กุฏิหลวงพ่อวัดท่ากระบือ จำพรรษาที่วัดหนองนกไข่ มีพระอธิการประดับเป็นผู้ให้อุปการะปกครอง ให้การศึกษานักธรรม

อุปสมบทวันที่ ๒๑ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๑๔ อุปสมบท ณ พัทธสีมา วัดหนองนกไข่ โดยมีพระเทพวรเวที ปัจจุบันเลื่อนสมณศักดิ์เป็นสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญโญ) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำเป็นพระอุปัชฌาย์พระครูสังฆรักษ์แกะ (ญาณธมฺโม) ปัจจุบันได้รับสมณศักดิ์ที่พระครูปลัดสวัฒนวรคุณ เจ้าอาวาสวัดสวนส้ม เป็นพระกรรมวาจาจารย์พระอธิการประดับ (ปญญาพโล) ปัจจุบันได้รับสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่พระครูสาครปัญญาคุณ เจ้าอาวาสวัดหนองนกไข่ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับนามว่า คุณงฺโค ภิกฺขุ

พระครูสิริสาครธรรม เป็นพระนักปฏิบัติธรรม เคร่งในระเบียบวินัย เป็นพระนักพัฒนา อัธยาศัยดีเลิศ สนทนากับท่านทุกครั้งก็รู้สึกสบายใจยิ่งนัก และยิ่งเมื่อได้เห็นใบหน้าที่อิ่มเอมไปด้วยบุญแห่งธรรมที่ท่านยึดถือปฏิบัติตลอดมา ยิ่งเป็นสิ่งหนึ่งที่สร้างศรัทธาและจิตสำนึกให้เราตั้งมั่นอยู่ในคุณงามความดี ในส่วนของศาสนสถานและศาสนวัตถุภายในวัดท่ากระบือ ก็มีที่ให้กราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคลมากมาย อีกทั้งยังได้ชมความงามและศึกษาไว้เป็นความรู้มากมาย

อย่างไรก็ตามการพัฒนาวัดท่ากระบือให้สำเร็จลุล่วงไปได้นั้น ต้องใช้ปัจจัยในการก่อสร้างมากมายมหาศาล หากสาธุชนคนใดที่มีจิตศรัทธาสนใจร่วมบริจาค สามารถติดต่อได้โดยตรงที่ พระครูสิริสาครธรรม (พระมหาจำนงค์ คุณงฺโค) เจ้าอาวาสวัดท่ากระบือ โทร.๑-๓๔๔๙-๙๔๕๔ และ ๐-๓๔๔๙-๙๕๑๔

จากท่าควายเป็นท่ากระบือ

วัดท่ากระบือ ก่อตั้งเมื่อปี ๒๔๓๙ ตั้งอยู่เลขที่ ๑๗ บ้านท่ากระบือ หมู่ ๕ ต.บางยาง อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เดิมชาวบ้านเรียกวัดท่ากระบือว่า “วัดท่าควาย” เนื่องจากประชาชนสมัยนั้นนำควายสัญจรไปมา และข้ามแม่น้ำท่าจีนที่หน้าวัดเพื่อเดินทางไปค้าขาย สมัยก่อนวัดนี้เป็นวัดเล็กๆ กุฏิมุงด้วยใบจาก รอบๆ บริเวณวัดเป็นป่ามีลิงมีค่างมากมาย

พระอุโบสถที่สร้างเมื่อ พ.ศ.๒๔๘๕ ปัจจุบันได้รับการบูรณะแล้ว อาคารทรงไทย ก่ออิฐถือปูนทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า หลังคาเครื่องไม้มุงกระเบื้องลดชั้น ๒ ชั้นซ้อนกันชั้นละ ๓ ตับ ช่อฟ้าใบระกา หางหงส์ หน้าบันไม้แกะสลักประดับกระจกสี ด้านหน้ามีมุขลดรองรับโครงหลังคาด้วยเสาปูนสี่เหลี่ยม ด้านข้างมีคันทวย ผนังก่ออิฐถือปูนตั้งอยู่บนฐานบัว ด้านหน้ามีประตูทางเข้า ๒ ประตู ซุ้มประตูทรงมณฑป ผนังตอนบนระหว่างซุ้มหน้าต่างมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง โดยรอบอาคารเป็นระเบียงทางเดิน และมีบันไดทางขึ้นด้านหน้าและด้านข้าง ภายในพระอุโบสถประดิษฐานพระประธาน เป็นพระพุทธรูปประทับนั่ง แสดงปางสมาธิ และฝาผนังมีภาพจิตรกรรมที่เขียนขึ้นใหม่

พระปรางค์ วัดท่ากระบือ มีพระปรางค์จำนวน ๔ องค์ ตั้งอยู่ด้านทิศตะวันออกของอุโบสถใกล้กับแม่น้ำท่าจีนและท่าน้ำของวัด ที่ฐานพระปรางค์องค์ที่สองมีข้อความจารึกว่า : ปีมะเมีย โทศก พระพุทธศักราช ล่วงแล้วได้ ๒๕๗๔ พรรษา เดือน ๙ แรม ๑ ค่ำวันอาทิตย์ พระอธิการรุ่งได้สร้างพระปรางค์แล้ว ขออุทิศผลอานิสงส์ ส่งไปให้แก่โยมกิมและตังของข้าพเจ้าผู้บริจาคทรัพย์สร้างเป็นเงิน ๘๐๐ บาท ศาลาการเปรียญหลังเก่าสร้างเมื่อ พ.ศ.๒๔๖๒ แต่มีการบูรณะเมื่อ พ.ศ.๒๕๓๓ ลักษณะเป็นอาคารไทยยกพื้นสูง หน้าบันมีไม้จำหลักเป็นภาพครุฑยุดนาค

ที่มา  http://www.komchadluek.net