ยอดผู้เสียชีวิตเรือล่มอยุธยา พุ่ง 27 คน กรมเจ้าท่าเร่งกู้ซาก

ยอดผู้เสียชีวิตเรือล่มอยุธยา พุ่ง 27 คน กรมเจ้าท่าเร่งกู้ซาก

 

 

ความคืบหน้าในการค้นหาผู้สูญหายจากเหตุเรือล่มที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ทางกรมเจ้าท่าได้เร่งกู้ซากเรือล่มให้เสร็จสิ้นภายในวันนี้ (20 ก.ย. 59) ขณะที่หน่วยกู้ภัยพบร่างผู้สูญหายเพิ่มขึ้น ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตถึง 27 คนแล้ว

 

วันนี้เรือเครนที่จะทำภารกิจยกเรือสมบัติมงคลชัยทับทิม เรือบรรทุกนักท่องเที่ยว มาถึงเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. เตรียมพร้อมดำเนินภารกิจกู้เรือ ก่อนหน้านี้นักประดาน้ำ และเจ้าหน้าที่ นำเชือกมาผูกมัดเรือที่กู้ไว้เป็น 3 ส่วน เพื่อยึดให้มีความแข็งแรง

 

 

นายณัฐ จับใจ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวว่า แผนการกู้เรือครั้งนี้จะใช้เรือเครนยกขึ้นมา   จากนั้นจะใช้แผ่นยาง มาอุดรอยรั่ว และปิดด้วยแผ่นสังกะสี และแผ่นไม้อีก 2 ชั้น จากการสำรวจร่องรอยการชำรุด พบว่าเรือมีรอยแตกยาวประมาณ 7 เมตร กว้าง 1 เมตร ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะใช้เครน 2 ตัว ยกเรือขึ้นมา แล้วทำการอุดรอยรั่ว และสูบน้ำออก หากทำภารกิจสำเร็จจะย้ายเรือไปที่คานเรือศรีเจริญ บริเวณวัดพนัญเชิงฯ ที่อยู่ถัดไปประมาณ 3 กิโลเมตร คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในวันนี้ และในระหว่างที่ยกเรือขึ้นมา จะให้นักประดาน้ำดำลงไปค้นหาผู้สูญหายใต้เรืออีกครั้ง

 

ล่าสุด พบผู้เสียชีวิตแล้วทั้งหมด 27 ราย ยังเหลือผู้สูญหายอีก 2 ราย เจ้าหน้าที่ได้แบ่งทีมค้นหา ออกเป็น 2 ชุด เริ่มค้นหาตั้งแต่จุดเกิดเหตุ ไปจนถึง เกาะเกิด อ.บางปะอิน ซึ่งเป็นจุดที่พบศพไกลที่สุดในขณะนี้ กว่า 20 กิโลเมตร

 

ทั้งนี้ ยังมีความกังวลเกี่ยวกับอุปสรรคการกู้เรือ เพราะขณะนี้กระแสน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยาช่วงบริเวณจุดเกิดเหตุไหลเชี่ยวและแรง หากแผนแรกที่กล่าวมาข้างต้นไม่สำเร็จ ก็จะมีแผนสำรอง คือกรมเจ้าท่าได้เตรียมเรือเครนของกรมเจ้าท่าเอาไว้ แต่เรือเครนของกรมเจ้าท่าจะรับน้ำหนักได้ไม่มาก อาจจะเอาไว้ช่วยสนับสนุนเรือเครนเอกชน ด้วยการช่วยพยุงส่วนตรงกลางเรือ

 

กรมเจ้าท่าได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับคนขับเรือ คือ นายวิรัตน์ ชัยศิริกุล อายุ 67 ปี ใน 3 ข้อหา ประกอบด้วย

1. เดินเรือด้วยความประมาท

2. ประกาศนียบัตรนายท้ายเรือฯ ขาดอายุ (5 พ.ย. 2553 หมดอายุ 4 พ.ย. 2558)

3. บรรทุกผู้โดยสารเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้

 

ส่วนผู้ประกอบการหรือเจ้าของเรือ ก็เป็นในส่วนของตำรวจที่จะดำเนินคดีอาญาหรือไม่ ขณะเดียวกัน พบว่าเรือลำดังกล่าวได้ทำการต่อใบอนุญาตเมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา ถือว่าได้รับอนุญาตถูกต้อง

แต่สามารถให้บรรทุกคนได้ 50 คนเท่านั้น

 

สำหรับสาเหตุที่เรือลำดังกล่าวมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก แม้จุดเกิดเหตุจะอยู่ใกล้ฝั่ง เนื่องจากกระแสน้ำขณะเกิดเหตุไหลเชี่ยว ส่งผลให้ความเร็วของเรือเพิ่มทวี จนเสียการควบคุมไปชนกับวัตถุของแข็งใต้น้ำ ทำให้เรือแตก น้ำจึงทะลักเข้าตัวเรืออย่างรวดเร็วทั้งสองฝั่ง จากนั้นเรือก็จมและยังมีแรงดูดทำให้เรือจมเร็วขึ้น โดยจะเห็นได้ว่าผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นเด็กกับคนชรา เพราะไม่สามารถเอาตัวรอดจากแรงดูดของน้ำได้ และแม้ผู้ที่ว่ายน้ำเป็นก็จะได้รับบาดเจ็บจากการกระแทกกับสิ่งของที่อยู่ในเรือดังกล่าว

 

กรณีเช่นนี้เคยเกิดขึ้นเมื่อ 9 ปีที่แล้ว เป็นกลุ่มมุสลิมที่มีกิจกรรมเป็นประจำ แต่ครั้งนั้นไม่มีผู้เสียชีวิต เพราะพื้นที่เกิดเหตุเป็นน้ำตื้น หลังจากนี้ กรมเจ้าท่าจะประกาศให้ขบวนเรือลักษณะเช่นนี้ต้องประสานมายังกรมเจ้าท่าเพื่อจัดเจ้าหน้าที่นำทาง

 

พล.ต.ต.ทรงพล วัธนะชัย รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหากับนายท้ายเรือ ในข้อหาบรรทุกผู้โดยสารมากกว่าจำนวนที่แจ้งไว้ในใบอนุญาต โดยในใบอนุญาตขอไว้เพียง 50 คน ทราบว่ากรณีดังกล่าวมีการบรรทุกถึงร้อยกว่าคน ถือว่าเป็นความผิดโดยชัดแจ้ง จากนี้พนักงานสอบสวนต้องรวบรวมพยานหลักฐานว่าเจ้าของเรือจะต้องมีส่วนในการรับผิดชอบอย่างไรหรือไม่ ตาม พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ. 2556 มาตรา 155 ห้ามมิให้เรือกลไฟหรือเรือยนต์ลำใดบรรทุกผู้โดยสารมากกว่าจำนวนที่แจ้งในใบอนุญาต ถ้าฝ่าฝืนจะมีความผิดตามมาตรา 161 โดยกำหนดอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 6 เดือน   ปรับตั้งแต่ 1 พัน ถึง 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ ประมวลกฎหมายอาญา เรื่องของการประมาท ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และการประมาท ทำให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส ซึ่งจะมีโทษอีกส่วนหนึ่ง ส่วนความผิดทางแพ่งมีกฎหมายบัญญัติไว้ชัดเจนอยู่แล้ว ไม่ว่าจะมีประกันหรือไม่ก็ตาม

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีเรือล่มว่า เรื่องสำคัญเราต้องแก้ไขที่ระบบต่างๆ ตนเข้าใจว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นเนื่องจากคนไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่มีอยู่ ทั้งการบรรทุกเกินที่กำหนด ความรับผิดชอบจะต้องมีมากกว่านี้ การให้บริการสาธารณะทั่วโลกถือเป็นเรื่องสำคัญในเรื่องการให้ความปลอดภัย   นายกฯ ย้ำเสมอว่าไม่ใช่ดูเฉพาะการเยียวยา แต่ควรจะดูเรื่องการวางระบบให้เป็นไปตามกฎหมาย ทุกคนต้องปฏิบัติตาม ตั้งแต่นายท้าย ท่าเรือ เสื้อชูชีพ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ต้องมีตามกฎหมาย ว่าต้องมีอุปกรณ์อะไรบ้าง เข้าใจว่านายกฯกลับมาจากปฏิบัติภารกิจต่างประเทศ จะเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว เพื่อให้การบังคับใช้เป็นไปตามกฎหมาย

พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้สัมภาษณ์กรณีเหตุเรือล่มว่า เป็นอุบัติเหตุที่สะเทือนขวัญประชาชน ได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.พระนครศรีอยุธยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมเพื่อร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น รวมทั้งเร่งเยียวยาฟื้นฟูสภาพจิตใจผู้บาดเจ็บ และครอบครัวผู้เสียชีวิตโดยด่วน เบื้องต้นมอบเงินสงเคราะห์ครอบครัวผู้มีรายได้น้อยและไร้ที่พึ่งแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตรายละ 2,000 บาท และมอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาสังคมฉุกเฉินแก่ผู้บาดเจ็บคนละ 2,000 บาท มอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น พร้อมทั้งร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหาแนวทางการช่วยเหลือเยียวยาในระยะยาวต่อไป

นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กล่าวว่า ได้ตรวจสอบพบว่าเรือลำดังกล่าวทำประกันภัยภาคบังคับไว้กับบริษัท ไทยพัฒนาประกันภัย จำกัด (มหาชน) โดยมีระยะเวลาประกันภัยระหว่างวันที่ 10 มี.ค. 58 ถึงวันที่ 10 มี.ค. 59  ซึ่งหมดอายุการคุ้มครองแล้ว แต่ยังไม่ได้ต่ออายุกรมธรรม์ ขณะนี้สำนักงาน คปภ.กำลังตรวจสอบต่อไปว่ามีการทำประกันภัยไว้กับบริษัทอื่นอีกหรือไม่ หากเรือลำดังกล่าวได้ทำประกันภัยและกรมธรรม์ยังมีผลบังคับใช้ ผู้โดยสารจะได้รับการคุ้มครองในกรณีเสียชีวิต หรือบาดเจ็บ ส่วนการประกันภัยรายบุคคล ตรวจสอบแล้วพบว่ามีผู้โดยสารบางรายทำประกันชีวิตไว้กับบริษัทเอไอเอ ซึ่ง คปภ.ได้ประสานบริษัทให้เร่งดำเนินการจ่ายค่าสินไหมทดแทนเป็นการด่วนแล้ว