‘2ผู้นำคลั่งลัทธิ’ รู้สึกอาย-เอาผ้าคลุมหัว เหยื่อโผล่เพิ่มสูญเงินเป็นล้าน
จากกรณีตำรวจบุกช่วยเหยื่อ 5 ราย ถูกนายทุนคลั่งลัทธิลวงให้หนี้อุปโลกน์ 140 ล้านบาท ก่อนลงมือทำร้ายร่างกายสุดวิตถาร ทั้งโกนผมและลวกนํ้าร้อน อย่างทารุณนานกว่า 3 ปี เหตุเกิดในคอนโดฯ หรูใจกลางกรุงเทพฯ ตำรวจจับกุมตัว 2 ผู้ต้องหา คือ นายฮารุ (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี และนายตรีเพชรรัตน (สงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี ผู้นำลัทธิเถื่อนได้ในเวลาต่อมา ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าวันที่ 18 ต.ค. ที่ สน.บวรมงคล นางเจริญศรี (สงวนนามสกุล) อาชีพเปิดร้านอาหารย่านสี่แยกบ้านแขก เข้าให้ปากคำกับตำรวจ กรณีเคยถูกนายฮารุ ผู้ต้องหา หลอกเซ้งที่ทำเลถนนข้าวสาร โดยหลอกให้โอนเงินมูลค่านับล้านบาท และไม่สามารถติดต่อนายฮารุได้ และมีการแจ้งความไว้ที่ สน.บุปผาราม เมื่อประมาณปี 60-61 โดยนางเจริญศรี กล่าวว่า ก่อนหน้านี้รู้จักกับนายฮารุ ประมาณ 4-5 ปี มาเป็นครูสอนพิเศษภาษาอังกฤษให้กับลูกของตน มีการสร้างโปรไฟล์เป็นไฮโซ และชวนลงทุน ตนโอนเงินให้ครั้งละ 2-3 แสนบาท รวมเป็นหลักล้าน จากนั้นก็ถูกนายฮารุบล็อกช่องทางติดต่อ จึงรู้ว่าถูกหลอก ส่วนเรื่องลัทธิของผู้ต้องหานั้น ยังไม่เคยพบเห็น เพียงแต่ได้ยินจากข่าวเท่านั้น
บุกช่วยพยาบาล ‘แม่-ลูก’ เหยื่อ ‘ผู้นำคลั่งลัทธิ’ ทำร้ายวิตถารโกนผม-สาดน้ำร้อน
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บวรมงคล ได้ควบคุมตัว นายฮารุ และนายตรีเพชรรัตน 2 ผู้ต้องหาลงมาจากห้องควบคุมขัง โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ใช้ผ้าขนหนูคลุมศีรษะด้วยความอาย และไม่ตอบคำถามใดๆ ต่อสื่อมวลชน
เบื้องต้นแจ้งข้อหากับนายฮารุ และนายตรีเพชรรัตน “ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นนั้นได้รับอันตรายสาหัส, ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง หรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น” ก่อนนำตัวไปส่งฝากขังยังศาลอาญาตลิ่งชัน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขอบคุณที่มา ข่าวเดลินิวส์
โพสต์โดย : ปลายน้ำ
