Social :



จี้ ‘ทัพบก’ จ่ายค่าเสียหายบ้านสวัสดิการ-20นายทหารมีเอี่ยวแต่กลับได้ดี

19 ต.ค. 65 15:10
จี้ ‘ทัพบก’ จ่ายค่าเสียหายบ้านสวัสดิการ-20นายทหารมีเอี่ยวแต่กลับได้ดี

จี้ ‘ทัพบก’ จ่ายค่าเสียหายบ้านสวัสดิการ-20นายทหารมีเอี่ยวแต่กลับได้ดี

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 19 ต.ค. ที่กระทรวงกลาโหม นายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความ นำผู้ประกอบการที่ได้รับความเสียหายจากโครงการกู้ซื้อบ้านสวัสดิการ กองทัพบก เดินทางมายื่นหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะรมว.กลาโหม ในฐานะกำกับดูแลกองทัพบก เพื่อขอให้ตรวจสอบโครงการกู้สวัสดิการกองทัพบกเพื่อที่อยู่อาศัยของกำลังพล หลังจากมีผู้ประกอบการที่สร้างบ้านขายให้กับกำลังพลได้รับความเสียหาย และพบความไม่ชอบมาพากลการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมกองทัพบก 5%

นายไพศาล กล่าวว่าตามที่กองทัพบกได้แถลงชี้แจงว่า มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องนี้ พร้อมทั้งลงโทษ งดบำเหน็จและปลดออกจากตำแหน่งไปแล้ว แต่ปรากฎว่ายังมีคนที่เกี่ยวข้อง ได้รับการเลื่อนยศและตำแหน่ง อีกทั้งกองทัพบกยังระบุว่าโครงการกู้ยืมเงินออมทรัพย์ข้าราชการกองทัพบก (อทบ.) เพื่อการเคหะสงเคราะห์ ถูกระงับไปแล้วตั้งแต่ปี 64 แต่ในปี 65 ยังมีการเรียกรับเงิน 5% เรื่องนี้ต้องตอบคำถามให้ได้


ที่ผ่านมาตนก็ไม่เคยพูดว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องของผู้ประกอบการกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตที่เป็นระดับนายทหาร แต่กองทัพบกได้แถลงว่ามีความเกี่ยวข้องกันถือเป็นเรื่องดี เรื่องนี้เป็นประเด็นสังคม จึงต้องถามกลับไปที่กองทัพบก แม้จะระบุว่าเป็นเรื่องของส่วนบุคคลและอยู่ในขั้นตอนของศาล แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นคือ 5% กับจำนวนกำลังพลหลายร้อยนาย คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 30-40 ล้านบาท ใครจะรับผิดชอบอย่างไร

“ผมอยากรู้ว่าเรื่องต่างๆเหล่านี้เมื่อเกิดขึ้นใครจะเป็นผู้เยียวยาผู้ประกอบการและกำลังพลที่ได้รับผลกระทบ กองทัพบก ก็ให้ความชัดเจนไม่ได้ จึงต้องมาที่กระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นหน่วยที่กำกับดูแลกองทัพบกโดยตรง หากยังติดใจสงสัยอะไรหรือยังไม่มีหลักฐาน ผมจะนำไปให้ ไม่ต้องส่งใครมาประกบซ้ายประกบขวา มีอะไรก็ให้ติดต่อมา”

นายไพศาล กล่าวต่อว่าที่ตนออกมาพูดเพราะกลัวว่ามันจะเกิดเหตุแบบที่โคราชอีก เนื่องจากมันมีจุดเชื่อมโยงที่เกี่ยวข้องกันโดยตรง และการลงโทษข้าราชการที่เกี่ยวข้องมีแค่การงดบำเหน็จ เอาออกจากตำแหน่งแค่นั้นเองใช่หรือไม่ ซึ่งกองทัพบกบอกว่าลงโทษตั้งแต่ปี 63 แต่ปัจจุบันแต่ละคนยังได้ยศ ได้ตำแหน่งที่สูงขึ้น บางคนได้ขยับเป็นนายพล บางคนเกษียณไปแล้ว บางคนลาออก ตนมีรายชื่อทหารเกี่ยวข้องประมาณ 20 รายชื่อ ที่มีจุดเชื่อมโยงเส้นทางทางการเงินชัดเจน อยากถามเช่นกันว่าบุคคลเหล่านี้ทำไมถึงยังได้เลื่อนยศและตำแหน่ง และจะติดตามเรื่องนี้ต่อไป

ส่วนที่กองทัพบกยืนยันว่าไม่มีการหัก 5% ในการกู้ยืมเงินสวัสดิการกองทัพบกนั้น ทางทนายจะนำผู้เสียหายทั้งหมดไปแจ้งความ ถือเป็นการเรียกรับสินบนในขณะดำรงตำแหน่งหน้าที่ราชการ เพราะฉะนั้นหน่วยงานต้องรับผิดชอบกองทัพบกต้องไปเยียวยาทางผู้ประกอบการและกำลังพลชั้นผู้น้อยประมาณร้อยกว่าราย” 

นายไพศาล กล่าวอ้างว่า นอกจากนี้ตนได้รับการร้องเรียนจากบุคคลที่อ้างว่าเป็นทหารที่กู้ซื้อบ้านตาม โครงการกู้ยืมเงินออมทรัพย์ข้าราชการกองทัพบก (อทบ.) เพื่อการเคหะสงเคราะห์
MulticollaC
โดยรายหนึ่งพบว่าซื้อบ้านที่โคราช ผ่อนมา 10 ปี แต่ปรากฏว่าเป็นที่สปก. ซึ่งกองทัพบกตั้งคณะกรรมการตรวจสอบตั้งแต่ต้นปี จนมาถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้า อีกกรณีหนึ่งที่ภาคใต้ ที่มีการกล่าวอ้างว่าโดนโกง หัดค่าหัวคิวจำนวนมาก แต่ตัวการใหญ่ยังลอยนวล

ทางด้าน นายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวในเรื่องเดียวกันว่ามีการหักหัวคิวค่าธรรมเนียมและค่าตกแต่ง จากเงินที่ทหารชั้นผู้น้อยกู้จากกรมสวัสดิการทหารบกเพื่อไปสร้างบ้าน ทำให้ทหารชั้นผู้น้อยเหล่านี้ที่ต้องรับภาระหนี้ถึงคนละ 1.5 ล้านบาท กลับได้ใช้ประโยชน์จากเงินเพียง 1 แสนบาทเท่านั้น เมื่อไปร้องเรียนต่อกองทัพเองกลับถูกคุกคามเพื่อหวังทำลายหลักฐาน ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือกรณีการทุจริตแบบนี้เองที่เป็นชนวนเหตุนำไปสู่โศกนาฏกรรมกราดยิงโคราชเมื่อ 2 ปีที่แล้ว 

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ย้ำชัดเข้าไปอีกว่าเมื่อประเทศนี้ปล่อยให้กองทัพเป็นแดนสนธยาหาผลประโยชน์ได้มหาศาลของบรรดานายพลได้กอบโกย  ขณะเดียวกันทหารชั้นผู้น้อยกลับต้องเผชิญกับชะตากรรมที่แตกต่างฟ้ากับเหว การทุจริตที่เกิดขึ้นไม่ใช่แค่ทหารชั้นผู้น้อยเท่านั้น แต่ลามมาถึงประชาชนผู้บริสุทธิ์ด้วย เชื่อเหลือเกินว่ายังมีเหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้อีกไม่น้อยที่ยังไม่ถูกตีแผ่ออกมาให้สังคมได้รู้ 


นายรังสิมันต์ กล่าวต่อไปว่า ดังนั้นอย่ารอให้มีเหตุการณ์สุดท้ายแล้วค่อยสนใจว่าประเทศไทยต้องปฏิรูปกองทัพ เพราะไม่รู้จะไปสิ้นสุดตรงไหน พรรคก้าวไกลยืนยันมาโดยตลอดและขอย้ำอีกครั้งว่ากองทัพไทยต้องถูกปฏิรูปให้เร็วที่สุด 5 ข้อตามที่ได้มีการแถลงนโยบายไป 1. กองทัพอยู่ใต้รัฐบาลพลเรือน มีผู้ตรวจการกองทัพที่เป็นพลเรือน นายพลเกษียณภายใน 7 ปี ห้ามเป็นรัฐมนตรี นี่คือจุดเริ่มต้นสำคัญที่สุดว่าต่อไปนี้ทหารจะต้องไม่ใช่ผู้จะทำอะไรได้ตามอำเภอใจ โดยปราศจากการตรวจสอบจากองค์กรภายนอกอีกต่อไป 2. ยุบ กอ.รมน. ยกเลิกกฎอัยการศึกชายแดนใต้ รวมถึงยกเลิกมาตรการต่างๆ ที่ให้อำนาจทหารเป็นใหญ่ที่สุดในเขตพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งได้ เพราะที่ผ่านมาพื้นที่ไหนทหารคุมเองฝ่ายเดียว พื้นที่นั้นมีแต่จะเกิดความฉ้อฉลมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ 

3. ลดขนาดกองทัพ ลดนายพล ยกเลิกเกณฑ์ทหาร ลดจำนวนทหารส่วนเกินที่กลายเป็นเพียงห่านทองคำให้บรรดานายพลมาเก็บกวาดเอาผลประโยชน์ไปได้ง่ายๆ 4. เพิ่มสวัสดิการทหารชั้นผู้น้อย หรือกล่าวให้ชัดยิ่งไปกว่านั้นคือปฏิรูประบบสวัสดิการเพื่อให้ทหารชั้นผู้น้อยได้ประโยชน์เต็มเม็ดเต็มหน่วยจริงๆ พรรคก้าวไกลขอเสนอให้ธนาคารของรัฐเป็นผู้พิจารณาปล่อยสินเชื่อเงินกู้แก่กำลังพล ไม่ใช่ให้พวกนายพลรับผิดชอบอันนำมาสู่การทุจริตแบบกรณีนี้ และ 5. คืนที่ดินกองทัพให้ประชาชน คืนธุรกิจกองทัพให้รัฐบาล ไม่ให้กองทัพเอามาค้ากำไรซึ่งอาจหมกเม็ดการทุจริตอยู่ในธุรกิจเหล่านี้ได้อีก 

“ขอยืนยันอีกครั้งว่ากองทัพจำเป็นต้องถูกปฏิรูป เพื่อขจัดการทุจริตคอร์รัปชันไม่ให้เป็นฟางเส้นสุดท้ายและการปฏิรูปนี้จะต้องไม่ใช่การปฏิรูปโดยทหารกันเองแต่จะต้องมาจากผู้ที่มีความชอบธรรมได้รับเลือกจากประชาชน ซึ่งพรรคก้าวไกลพร้อมอย่างยิ่งที่จะอาสาเป็นผู้รับมอบภารกิจนี้” นายรังสิมันต์ กล่าว 

ขอบคุณที่มา    ข่าวเดลินิวส์

โพสต์โดย : ปลายน้ำ