ช่วงนี้ทีนเอ็มไทยชอบนำเรื่องลี้ลับ เรื่องโหด สยองขวัญ มาให้เพื่อนๆได้อ่านกันอยู่บ่อยๆ วันนี้ก็มีอีกแล้ว ^^ แต่เป็นเรื่องลี้ลับที่เกี่ยวกกับ 17 ตำนานสิ่งมีชีวิตลี้ลับทั่วโลก ซึ่งบางเรื่องราวนั้นเพื่อนๆ บางคนก็อาจจะเคยได้ยินเรื่องราวมาบ้างแล้ว งั้นลองไปดูกันดีกว่าว่า 17 ตำนานสิ่งมีชีวิตลี้ลับทั่วโลก?มีเรื่องอะไรบ้างนะ
1. ตำนานสิ่งมีชีวิตลี้ลับทั่วโลก : Champ
ถ้าย้อนกลับไปเมื่อ 5 ปีก่อน ใครที่เคยดู ภายนตร์ The Water Horse : Legend of the Deep เรื่องผจญภัย-แฟนตาซีเด็กน้อยที่ค้นพบ “ไข่” พิศวงของสัตว์ในตำนาน ก็คงจะคุ้นกับตัวที่ชื่อว่า เนสซี
แชมป์ถือได้ว่าเป็นญาติของเนสซีที่ถูกขนานนามว่า เนสซีอเมริกัน มีคนรายงานการพบเห็นสัตว์เหล่านี้ในทะเลสาบแชมเปลน (Champlain) ประเทศอเมริกามันเป็นทะเลสาบที่ลึกมากแต่แคบและยาวอยู่ระหว่างรัฐเวอร์มอนต์และรัฐนิวยอร์ก จากรายงานการพบบ่บอกว่ามันมีลักษณะคล้ายไดโนเสาร์ที่เป็นพวกอาศัยอยู่ในน้ำ
ในยุคดึกดำบรรพ์ ยาวประมาณ 4.5-9 เมตร ลำตัวคล้ายถังเหล้า มีตัวสีดำหรือเทา หัวคล้ายงูหรือม้า มีเขาหรือหงอนสองอัน สัตว์ลึกลับตัวนี้มีการพบเห็นมายาวนานกว่าสามร้อยปีมาแล้ว และปัจจุบันมีผู้พบเห็นตัวมันมากมายโดยเฉพาในช่วงฤดูใบไม้ผลิถึงฤดูใบไม้ร่วงซึ่งเป็นฤดูท่องเที่ยว และมีรูปถ่ายของมันด้วย จนหลายคนเชื่อว่ามันมีจริง ถึงขนาดสภาผู้แทนรัฐเวอร์มอนด์ได้ออกกฎหมายคุ้มครองแชมป์ ห้ามกระทำการใดโดยเจตนาเพื่อจะฆ่าหรือทำให้บาดเจ็บหรือไปรบกวนมัน กฎหมายที่ว่าออกในเดือนเมษายน 1986 ต่อมารัฐนิวยอร์กก็ออกกฎหมายเดียวกัน
มีหลายคนสันนิษฐานว่าสัตว์ลึกลับนี้ตัวตนที่แท้จริงคืออะไรกันแน่ บางคนบอกว่ามันน่าจะเป็น ซูโกลดอน (Zeuglodon) ปลาวาฬที่คาดว่าสูญพันธุ์ไปแล้วเมื่อสิบล้านปีก่อน บางคนบอกว่าเป็นคลื่นใต้น้ำเนื้องด้วยโครงสร้างของทะเลสาปที่ทำให้เกิดคลื่นใต้น้ำขนาดใหญ
2. ตำนานสิ่งมีชีวิตลี้ลับทั่วโลก : Ebu Gogo
มีหลายคนพบสัตว์ลึกลับชนิดหนึ่งเป็นกลุ่มคนตัวเล็กๆ มีใกล้เคียงกับมนุษย์มากมีแขนยาว เดินเหมือนมนุษย์ สูงประมาณหนึ่งเมตร ขนดก มักจะพึมพำคุยกันด้วยภาษาที่พวกเขาไม่เข้าใจ พวกเขาอาศัยในเกาะ Flores เกาะป่าร้อนชื้นของอินโดนีเซียที่ยังไม่เคยมีใครสำรวจก็เป็นได้ ตั้งแต่สมัยโบราณไปจนถึงศตวรรษที่ 19
มีตำนานเล่าว่าพวกเขาถูกเรียกว่า “อีบู โกโก” เป็นมนุษย์ตัวเล็กที่ชอบทำลายพืชและสัตว์ของมนุษย์เพื่อกินเป็นอาหาร ทำให้พวกมนุษย์โกรธแค้นและสืบหาร่องรอยจนฆ่าพวกเขาจนสูญพันธุ์ในถ้ำแห่งหนึ่ง
ซึ่งในปี 2003 นักวิทยาศาสตร์ได้มีการค้นพบกระดูกพวกเขาในถ้ำหินปูนชื่อ Liang Bua และเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญมาก เพราะถือว่ากระดูกที่ค้นพบเป็นของมนุษย์พันธุ์ใหม่ และตั้งชื่อเล่นว่า ฮอบบิต
แต่ทว่ามีหลายคนออกมาถกเถียงข้อสันนิษฐานนี้โดยบอกว่าซากมนุษย์จิ๋วที่ค้นพบคือโฮโม ซาเปียนส์ทั่วไป แต่มีร่างกายแคระแกร็น?หยุดการเจริญเติบโต อันเนื่องจากภาวะขาดสารไอโอดีนระหว่างครรภ์มารดา อันเนื่องจากเกาะแห่งนี้มีอาหารอยู่น้อยนี้เอง
3. ตำนานสิ่งมีชีวิตลี้ลับทั่วโลก : Springheel Jack
เรื่องราวของชายส้นเท้าสปริงเกิดขึ้นในสมัยที่อเล็กซานดรีนา วิกเตอเรีย โดยชายส้นเท้าสปริงเริ่มออกมาอาละวาดในช่วง 1836-1986?โดยสัตว์ประหลาด (อาจเป็นคนปลอมตัว) นั้นมันมีความสามารถพิเศษคือ สามารถกระโดดสูงอย่างที่มนุษย์คนไหนสามารถกระโดดได้เหมือนกับว่าร้องเท้าของมันติดสปริงด้วย
นอกจากนั้นรูปร่างของมันก็ไม่เหมือนกับคน ซึ่งพยานคนหนึ่งได้เคยเผชิญหน้ากับมันและบรรยายอย่างน่าขนลุกว่า รูปร่างของมันสูงและผอม หน้าของมันเหมือนภูตผีปีศาจ ที่มือของมันมีอุ้มเล็บยาว ตาเหมือนลูกบอลสีแดงที่ลุกเป็นไฟ ใส่หมวก กางเกงมีสีขาว สวมเสื้อคลุมสีดำชอบปรากฏตัวจะกางผ้าคลุมทำให้เวลาดูราวมันเป็นมนุษย์ค้างคาวยังไงอย่างงั้น
นอกจากนั้นยังมีรายงานเวอร์ๆ ออกมาเป็นระลอกที่ส่งเสริมให้ชายส้นเท้าสปริงกลายเป็นสัตว์ประหลาดเข้าไปใหญ่ เช่น ลมหายใจออกสีน้ำเงินมีฟันแหลมคล้ายแวมไพร์ หูและจมูกแหลม สามารถพ่นเปลวไฟสีขาวออกจากปากได้
มีทฤษฎี,ข้อสันนิษฐานจำนวนมากที่นำอธิบายฆาตกรเหนือธรรมชาติรายนี้ เช่นมันอาจเป็นลิงที่หลุดจากละครสัตว์ นักแสดงชายชราโรคจิต นักมายากล หรือสัตว์ลึกลับ นอกจากนี้บางคดีก็มีคนมาลอกเลียนแบบชายส้นเท้าสปริงอีก แต่สุดท้ายคดีนี้ก็เป็นปริศนาตลอดกาล?และกลายเป็นตำนานในเวลาต่อมา โดยชื่อของมันปรากฏอยู่ในนิทาน, นวนิยาย หนัง ชายส้นเท้าสปริงปรากฏในฐานะฮีโร่ปราบปรามผู้ร้าย
4. ตำนานสิ่งมีชีวิตลี้ลับทั่วโลก : Shadow People
น่าจะเป็นปรากฏการณ์ลึกลับมากกว่าสัตว์ลึกลับ สำหรับ คนเงา ที่คนทั่วโลกได้พบเห็นตัวมันตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน รูปร่างลักษณะคือจะเห็นเงาที่มีรูปร่างคนและเคลื่อนไหวได้อิสระทั้งๆ ที่พื้นที่โดยรอบไม่มีคนเป็นๆ อยู่เลย บางคนก็เห็นในรูปเงามืดกึ่งโปร่งใส ไม่มีหน้าไม่มีจมูก และพวกเขาจะหายไปทันทีที่มีคนเห็นตัวมัน
นอกจากนี้ยังมีรายงานการถูกทำร้ายและล่าโดยสิ่งที่เป็นเงารูปร่างคนด้วย ซึ่งบางครั้งขนาดของมันก็ใหญ่กว่าคนปกติ?แน่นอนสำหรับคนไม่เชื่อก็ค้านว่ามันเป็นภาพลวงตาของแสง หรืออาการประสาทหลอนที่เห็นเงากลายเป็นรูปร่าง คนขึ้นมา หรือจะเป็น อาการหลับตื่น(Hypnagogoia) ที่บุคคลอยู่สภาพระหว่างนอนและตื่น ทำให้สภาพแวดล้อมมีจิตนาการเหมือนฝัน?เห็นเงาเคลื่อนที่อิสระได้ ส่วนคลิปนี้ถ่ายในปี 1997 โดยอิเมอร์สัน
5. ตำนานสิ่งมีชีวิตลี้ลับทั่วโลก : Beast of Bray Road
สัตว์แห่งถนนเป่าแตร เป็นสัตว์ลึกลับที่พบในรัฐวิสคอนซิน สหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ปี 1936 (แต่รายงานจริงๆ จัง ในปี 1980) รูปร่างมันเหมือนมนุษย์หมาป่า คือสุนัขเดินสองขาแบบมนุษย์ สูงประมาณหกฟุต ผมกระเซิง ใบหน้าคล้ายสุนัขป่าตาสีเหลืองเรืองแสง
บางคนก็บอกว่าคล้ายกับบิ๊กฟุต และมันสามารถแปลงร่างเป็นสุนัขป่าได้ มันมีกลิ่นเหม็นสุดจะทน สาเหตุที่ผมถูกเรียกชื่ออย่างนี้ก็เพราะว่ามันมักปรากฏบนถนน? แน่นอนคนที่ค้านก็บอกว่ามันเป็นแค่หมาป่าธรรมดา ที่คนพบเห็นเข้าใจผิดแล้วเกิดอุปทานหมู่
6. ตำนานสิ่งมีชีวิตลี้ลับทั่วโลก : Mothman
ม็อทแมน เป็นสิ่งมีชีวิตปริศนา ที่พบกันที่ รัฐเวสท์เวอร์จิเนียมีลักษณะคล้ายๆค้างคาวปนตัวมอธ ลักษณะท่าทางการเคลื่อนไหวเหมือนค้างคาว บวก ผีเสื้อกลางคืน พบเห็นเป็นครั้งแรกเมื่อ 12 พ.ย. ค.ศ. 1966 และก็พบเห็นกันเรื่อยมา อาจกล่าวได้ว่าทศวรรษที่ 70-80 นั้น ม็อทแมน ถือเป็นตัวประหลาดแห่งปี เพราะมีข่าวของการพบมันกันหนาหูมากๆ
แรกทีเดียวนั้น ตำรวจและเจ้าหน้าที่?คิดว่าเป็นแค่การเล่นพิเรนทร์ของวัยรุ่นหรือพวกจิตป่วนที่คิดจะแต่งตัวเลียนแบบ แบล็คแมน ซึ่งเป็นทีวีซีรี่ย์ที่ดังมากๆในสมัยนั้น เอาไปเอามาชักไม่ใช่แล้วสิ?เพราะ ม็อทแมน ไปเกี่ยวพันกับปรากฏการณ์แปลกๆ น่ากลัวหลายๆครั้ง เช่น การถล่มของสะพาน?Silver Bridge ตึกถล่ม หรือแม้แต่การปรากฏของ UFO ในหลายๆครั้ง แบบว่าไปที่ไหนซวยถึงนั้น
โดยลักษณะคร่าวๆ เกี่ยวกับเจ้าม็อทแมนนี้ก็จากคำบอกเล่า?สรุปได้มันสูงประมาณเจ็ดฟิท ไม่มีหัว ตาอยู่แถวๆ อก ปีกกว้างประมาณ 10 ฟิท สีปีกสีเทา ผิวมีเกล็ดมาก ตาสีแดง เปร่งแสงได้ และมีอำนาจสะกดจิต?บินได้ สามารถบินไกล ความเร็วประมาณ 100 ไมล์ชั่วโมง มีเสียงกรี๊ดร้องเหมือนสุนัข บางครั้งเสียงร้องแหลมเหมือนเกี่ยวกับสัตว์ที่ใช้ฟันแทะ หรือเครื่องยนต์ไฟฟ้า สามารถก่อกวนเคลื่อนวิทยุ โทรทัศน์ได้ มีพลังจิตรู้อนาคต
ไม่มีใครรู้ว่า ม็อทแมนแท้ที่จริงคือตัวอะไรกันแน่ แต่ข่าวที่เชื่อได้ก็คือ ในช่วงที่ ม็อทแมนปรากฏตัว จะมีชายแปลกหน้าใส่ชุดสีดำหรือ น้ำตาลป้วนเปี้ยนอยู่บริเวณใกล้เคียงเสมอๆ (ยังกะ MIB เลยแฮะ
7. ตำนานสิ่งมีชีวิตลี้ลับทั่วโลก : Rods
ร็อดซ์เป็นที่รู้จักเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคม ค.ศ. 1994 ที่มิดเวย์ในรัฐนิวเม็กซิโก โดยช่างตัดต่อฟิลม์ชื่อโฮเซ่ เอสคามิลล่า (Jose Escamilla)
ได้พบบางอย่างที่ปรากฏขึ้นในฟิลม์เมื่อทำการฉายด้วยสโลโมชั่นของนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งที่ได้ไปถ่ายรูปเมื่อตอนไปกระโดดร่มเล่นที่หน้าผาที่ทะเลทรายในรัฐนิวเม็กซิโก บางอย่างที่ว่ามีลักษณะเป็นแท่งยาว ด้านข้างมีแผ่นครีบบางๆซึ่งโบกพัดไปมาด้วยความเร็วสูง โจเซ่จึงคิดว่ามันน่าจะเป็นสิ่งมีชีวิต เขาได้ทำการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับมันจนสามารถถ่ายภาพที่เกี่ยวข้องเก็บไว้ได้ถึง 500 ชั่วโมงและเรียกสิ่งมีชีวิตปริศนานี้ว่า Rods หรือFlying Rods ที่แปลว่าแท่งไม้บินนั่นเอง (แต่โดยทั่วไปแล้ว สิ่งมีชีวิตนี้ยังไม่มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการ แต่ละที่จึงเรียกชื่อไปต่างๆกัน)
จากนั้นเป็นต้นมาก็มีข่าวเรื่องพบเห็นรอดซ์ตามมาอีกอีกมายมาย ทั่วทุกมุมโลก อย่างไม่เคยมีมาก่อน มีทั้งอเมริกา แคนาดา อังกฤษ หรือกระทั่งล่าสุดก็มีการพบร็อดซ์ที่แบกแดดด้วย โดยรอดซ์ส่วนมากนั้นมีมีรูปร่าง เป็นแท่งยาว มีปีกหรือครีบอยู่รอบลำตัว ขนาดเล็ก เฉลี่ยประมาณ 4 นิ้ว สีผิวค่อนข้างที่จะขาวหรือขาวใส?โดยรูปร่างของร็อดซ์ก็มีการแบ่งแยกย่อยออกไปอีกครับ มีความสามารถบินได้ด้วยความเร็วสูงถึง 270-300 กิโลเมตร/ชั่วโมง สามารถเคลื่อนไหวได้ทั้งบนฟ้าและในน้ำ
นอกจากนี้ยังมีปริศนาเกี่ยวกับตัวมันมากมาย เช่น ทำไมเราไม่เคยมีการค้นพบซากของร็อดซ์เมื่อเวลามันตายแล้ว, เวลาที่ร็อดซ์บินนั้นมันไม่ชนถูกอะไรเลยหรือ?, มันควบคุมทิศทางยังไง? , มันจะสืบพันธุ์กันยังไงหว่า ในเมื่อบินซะเร็วขนาดนั้น?นอกจากนี้ยังมีการตั้งทฤษฎีเกี่ยวกับร็อดส์มากมาย ว่ามันเป็นแมลงชนิดใหม่ เป็นยูเอฟโอ, สัตว์ตระกูลนก, ภาพลวงตา แต่ถึงอย่างไร การที่ยังไม่มีผู้สามารถจับร็อดซ์ที่มีตัวตนอยู่จริงได้ จึงเป็นที่โต้เถียงกันจนทุกวันนี้ว่าร็อดซ์มีตัวตนอยู่จริงหรือไม่
8. ตำนานสิ่งมีชีวิตลี้ลับทั่วโลก : Goatman
โกทแมนเป็นสัตว์ลึกลับที่ออกจากเว่อร์ๆ พบเห็นในเมือง ปรินซ์จอร์จรัฐแมรีแลนด์ สหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ปี 1970 มีรายงานว่าผมเห็นสัตว์มีชีวิตประหลาด?เหมือนลูกผสมระหว่างมนุษย์กับแพะลึกลับ บรรยาย ท่อนล่างของร่างกายขาและเท้ามีกีบเหมือนแพะ ท่อนบนของร่างกายเป็นมนุษย์ ศีรษะมีเขาแพะ ผิวหนังบนร่างกายปกคลุมไปด้วยขน สูงประมาณสองเมตร หนักกว่า 130 กิโลกรัม ฟังดูคล้ายกับสิ่งมีชีวิตในเทพนิยายตัวหนึ่งมีเสียงร้องแหลม
มีผู้พบเห็นศพของสัตว์ที่ตายอย่างโหดเหี้ยมบ่อยครั้งในเขตพื้นที่ที่พบเห็นโกทแมน ครึ่งหนึ่งของศพสัตว์ที่ตายถูกนำไป คาดว่าโกทแมนน่าจะฆ่าสัตว์เหล่านี้ เพื่อนำไปเป็นอาหาร มีเหตุการณ์หนึ่งในรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริการายงานว่า มีกลุ่มเด็กวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งถูกเจ้าโกทแมนวิ่งไล่และเขวี้ยงซากยางรถยนต์เข้าใส่ และมีเหตุการณ์การใช้อาวุธที่เกิดขึ้นในรัฐแมรีแลนด์ที่เจ้าโกทแมนไปอาละวาดเอาขวานจามรถยนต์หลายคันในเวลาไร่เรี่ยกันและมักทำร้ายสัตว์เลี้ยงของ ผู้คนที่อาศัยอยู่บริเวณนั้น
หลายคนเชื่อว่าโกทแมนน่าจะเป็นญาติห่างๆกับบิ๊กฟุต หรือมีความได้โกทแมนเกิดขึ้นจากการทดลองของนักวิทยาศาสตร์ในการตัดต่อพันธุกรรมของคนและแพะ?เข้าด้วยกันโดยศูนย์ค้นคว้าและวิจัย beltsville แห่งเมืองปรินซ์จอร์จ อันเป็นแหล่งกำเนิดของตำนานโกทแมน แต่อย่างไรก็ตาม ตามแบบฉบับสิ่งมีชีวิตลึกลับมักจะไม่ค่อยให้หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่น่าเชื่อถือซึ่งแสดงถึงการมีตัวตนอยู่จริงของมัน
9. ตำนานสิ่งมีชีวิตลี้ลับทั่วโลก : Pongo
เป็นตำนานสัตว์ลึกลับของแอฟริกา ที่เล่ากันว่าในดินแดนแห่งนี้มีสัตว์ครึ่งคนครึ่งลิงแอบอาศัยหลบซ่อนอยู่ มีนมีพลังวิเศษและชอบรสชาติของเนื้อมนุษย์และสัตว์ตัวนี้สามารถกลายเป็นหญิงสวยเพื่อล่อผู้ชายและสามารถมีเพศสัมพันธ์กับมนุษย์ได้และกำเนิดเป็นเหมือนพวกมัน ในปี 1847 มีการพบสัตว์ลึกลับตัวนี้?แต่กระนั้นดูยังไงก็เหมือนลิงอุรังอุตังเสียมากกว่า
10. ตำนานสิ่งมีชีวิตลี้ลับทั่วโลก : โพโพบาวะ(Popobawa)
ทรานซิลวาเนียแดนผีดูดเลือด ประเทศที่มีธรรมชาติที่สวยงาม พระอาทิตย์ตกดินก็โรแมนติก แต่พอตกกลางคืนกลับกลายเป็นคืนที่หวาดผวาเมื่อมีสิ่งมีชีวิตลึกลับ?เคยก่อกวนพวกเขายิ่งกว่าผีดูดเลือด
ในศวรรษที่ 70 ที่โซมิซ (ในปี 1995 ก็ยังเกิดอยู่ โดยเฉพาะที่ทรามซิสวาเนีย ไอร์แลนด์ ) เกิดเหตุการณ์สัตว์ลึกลับประหลาดชนิดหนึ่งอาละวาด รูปร่างเหมือนไซครอปสัตว์เทพนิยายกรีกแต่มีขนาดเล็กกว่ามากๆ พอๆ กันค้างคาว มีตาเล็กขนาดใหญ่ หูแหลม ส่งเสียงทางจมูกฟิ๊ตๆและมีกลิ่นเหม็นมากๆ มันชอบทำร้ายคนมากกว่าสัตว์เลี้ยง ชอบก่อกวนหนังคาของชาวบ้านตอนกลางคืน และชอบลับๆ ล่อๆ เข้าไปในบ้านของชาวบ้านเสียด้วยสิ
แต่กระนั้นหลายคนก็บอกว่ามันน่าจะเป็นคนปลอมตัวมากกว่า(คงใช้สลิงลอยตัว) เพราะมีรายงานว่ามันตบตีผู้หญิง (แสดงว่าชอบซาดิสต์)แถมยังปล้นสะดมด้วย สิ่งที่มันขโมยส่วนใหญ่คือเสื้อผ้า โดยเฉพาะกางเกง (เอาไปทำไมเนี้ย)
11. ตำนานสิ่งมีชีวิตลี้ลับทั่วโลก : มานานังเกล (Manananggal)
จากฟิลิปปินส์ มันเป็นสัตว์ลึกลับ (หรือเผ่าลึกลับหว่า?)ของชาวเกาะในฟิลิปปินส์ โดยรูปร่างของ มานานังเกล มีรูปร่าง และหน้าเป็นผู้หญิงโบราณสวย แต่มีปีกขนาดใหญ่ที่หลังมีความสามารถถอดลำตัวของมันแยกออกได้โดยไม่ตาย (กินรีบ้านเรารึเปล่า?) และบินออกไปหาเหยื่อ
เรื่องของเจ้า มานานังเกล นั้นน่ากลัวมาก โดยที่เกาะ วิซายัน จะเห็นผู้คนแขวนกระเทียมจำนวนมาก เพื่อป้องกันเจ้า มานานังเกล (มันเป็นเดร็กคูล่าเหรอเนี้ย) นอกจากนี้ยังมีความเชื่ออีกว่าถ้าเอาเกลือมาพรมที่พักของ มานานังเกล และพรมที่ท่อนบนที่เจ้า มานานังเกล แยกตัวออก(ตรงรอยต่อนั้นแหละ) มันจะตายเมื่อดวงอาทิตย์ขึ้น (ทำไมไม่ใช้ปืนยิงหว่า ง่ายดี ไม่ยุ่งยากด้วย)
ทำไมถึงกลัว ความจริงเจ้าเมานานังเกล ก็ไม่มีอันตรายอย่างตรงไปตรงมาหรอก ยกเว้นสิ่งเหลวที่พ่นใส่ปากหญิงตั้งครรภ์จะทำลายเด็กในครรภ์ได้ นอกจากนี้มันยังชอบกินหัวใจเด็ก(เหมือนปอบ) นอกจากนี้ยังชอบกินลูกไก่ของชาวบ้านอีกด้วย
12. ตำนานสิ่งมีชีวิตลี้ลับทั่วโลก : โวลเปอทิงเกอ (Wolpertinger)
ที่เยอรมัน กระต่ายเขากวาง หลายคนอาจรู้จัก ซึ่งมันอาศัยอยู่ในอเมริกาตะวันตก แต่ที่เยอรมันนั้นต่างกัน รูปร่างของมันก็เหมือนกระต่ายแหละ ?เพียงแต่มันมีปีกเหมือนเป็ด มีเขี้ยว และเขาเหมือนกวาง ที่อยู่อาศัยของมันอยู่ที่ป่าสีดำของเบนาเซียว่ากันว่าสัตว์ลึกลับตัวนี้เกิดจากไวรัส Shope Papilloma เป็นสาเหตุมันกลายพันธุ์
โดยเป็นเนื้องอกมะเร็งคล้ายเขากวางบนหัวของกระต่าย (แต่มะเร็งไม่ได้ทำให้มันบินได้หรอกน่ะ) ซึ่งมันก็ไม่น่ากลัวอะไรหรอกเพียงแต่มีข่าวลือกันว่ามันอาจเป็นพาหนะแพร่เชื้อโรค หรือเป็นสาเหตุที่ทำให้ต้นกะหล่ำของชาวบ้านตาย อีกทั้งมันอาจกัดคุณได้ถ้าคุณไปเล่นหัวมัน(ดูเขี้ยวสิ) นอกจากนี้มียังมีนิสัยชอบหนุ่มหล่อ-สาวสวยอีก(โหย)
13. ตำนานสิ่งมีชีวิตลี้ลับทั่วโลก : ทิคบาลัง (Tikbalang)
กลับมาที่ ฟิลิปปินส์อีกครั้ง แม้เห็นรูปร่างแบบนี้ก็เถอะแต่มันก็น่ากลัวไม่ใช่ย่อยเลย เพราะมันฆ่าคนด้วย ทิคบาลังเป็นสัตว์ลึกลับ ครึ่งคนครึ่งม้า ตาสีแดง รูปร่างเหมือนคน หัวเป็นม้า แต่มีสี่ขาเหมือนเซนเทอร์ (สัตว์ในตำนานของกรีก) ขาของมันค่อนข้างยาวสามารถกระโดดได้ไกลมาก ที่อยู่อาศัยของมันอยู่ที่ป่าลึกของฟิลิปปินส์ โดยตามความเชื่อของชาวบ้าน ทิคบาลังชอบกินคน โดยการล่อลวงเหยื่อเข้าไปในป่า แล้วทุบตีอย่างไร้ความปรานี
14. ตำนานสิ่งมีชีวิตลี้ลับทั่วโลก : กษัตริย์หนู (Rat King)
จากยุโรป มันไม่ใช้สัตว์ลึกลับ แต่เป็นปรากฏการณ์ลึกลับที่แปลกประหลาดที่ไขปริศนามากกว่า ว่าเป็นเพราะอะไรมันถึงต้องทำอย่างนั้น ปรากฏการณ์ราชาหนูหรือพญามุสิกนั้น เป็นปรากฏการณ์ที่ หนูเป็นๆ กลุ่มหนึ่ง อายุรุ่นคราวเดียว มัดหางติดกันทั้งกระจุกและถ้าเราให้แพทย์ไปทำการเอ็กซ์เรย์จะพบว่ากระดูกท่องหางของมันมัดอย่างหนาแน่น กระดูกบางชิ้นมีรอยหัก แสดงว่าหนูพวกนี้มีหางติดกันมานาน และพยายามดึงตัวให้ออกพันธนาการแต่ไม่สำเร็จ
ปรากฏการณ์พญามุสิกนี้ ในช่วง ค.ศ. 1562 ถึง 1963 ได้เกิดขึ้น?57 ครั้ง ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในเยอรมัน ซึ่งทุกรายเป็นหนูสีดำ จำนวนหนูในแต่ละกระจุกนั้น มีระหว่าง 5 ถึง 12 ตัว และเป็นหนูวัยเดียวกัน อายุยังไม่โตเต็มที่ มักพบที่ที่มีรูเพดาน ฝาบ้าน ในครัว ในยุ้ง พร้อมกับเสียงร้องจี๊ดจ๊าดกันระงมในรังที่อยู่อาศัย ของมัน และเมื่อใดที่ผู้คนพบเห็นปรากฏการณ์นี้จะเป็นการทำนายคร่าวๆ ว่า “จะมีเรื่องร้ายเกิดขึ้นในไม่ช้านี้” เช่นเหตุการณ์โรคระบาดอหิวาของยุโรป, สงครามโลก
15. ตำนานสิ่งมีชีวิตลี้ลับทั่วโลก : ปีศาจโดเวอร์ (Dover Demon)
เขาเรียกกันว่า ปีศาจโดเวอร์ (Dover Demon) เพราะมีผู้พบเห็นที่ เมืองโดเวอร์ ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดเป็นอับ 2 รอง จากบอสตันใน มลรัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา แต่พบเจอแค่ครั้งเดียวนะ ในปี พ.ศ. 2520 หรือ ค.ศ. 1977? พบครั้งแรกเมื่อเดือน 22 เมษายน ค.ศ. 1977
บิลส์ บาร์ทเล็ทท์, ไมค์ แมซซอคคา และแอนดี้ บรอดี วัยรุ่นอายุราว 17 ปี กำลังขับรถไปทางเหนือของฟาร์มสตรีท ในขณะที่ขับรถอยู่ บาร์ทเล็ทท์ซึ่งเป็นคนขับรถก็ได้เห็นสิ่งประหลาดสิ่งหนึ่งกำลังปีนไปตาม กำแพงเตี้ยๆ ทางด้านซ้ายของถนน ครั้งแรกที่เห็นบาร์ทเล็ทท์คิดว่าอาจ เป็นสุนัขหรือไม่ก็แมว จนกระทั้งไฟหน้ารถได้ฉายตกกระทบกับร่างลึกลับอย่างจัง สิ่งที่พวกเขาเห็นนั้น?เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยเห็นก่อนในชีวิต
ร่างนั้นมันค่อยๆ หมุนศีรษะของมันอย่างช้าๆ และจ้องมองมายังแสงไฟของรถ ตากลมของมันสองประกายราวกับแก้วใส เหมือนหินอ่อนสีส้ม 2 ลูก หัวของมันตั้งอยู่บนคอเล็กๆ มีลักษณะคล้ายแตงโม มองดูแล้วผิดส่วน กล่าวคือแขนและขายาวและผอมเรียว แต่มือและเท้าใหญ่ ผิวไม่มีขนและมีสีลูกพีช และหยาบเหมือนกระดาษทราย ร่างนั้นมันสูงไม่เกิน 4 ฟุต มีลักษณะคล้ายเด็กทารกที่มีแขนและขายาว มันน่าประหลาดน่าเกลียดน่ากลัวมาก?มันเดินไม่รู้จุดมุ่งหมาย มันเดินไปตามกำแพงโดยใช้นิ้วมืออันยาวของมันไต่ตามก้อนหิน
บาร์ทเล็ทท์เห็นร่างนั้นไม่กี่วินาที เท่านั้นเองเพราะขณะเขาขับรถด้วยความเร็วสูงและอยู่ในทางโค้ง และเมื่อกลับที่เกิดเหตุร่างลึกลับดังกล่าวก็หายไปแล้วและเมื่อทั้งสามกลับมาที่พักบาร์ทเล็ทท์ก็เล่า เหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟังพร้อมกับวาดภาพปริศนาคลาสลิกให้เพื่อนดู แต่กระนั้น….จนปัจจุบัน ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าเจ้าปีศาจโดเวอร์ ตัวนี้มาจากไหน มาได้ยังไง และมีจุดประสงค์อะไร ก็ยังคงเป็นปริศนาที่เล่าขานกัน ในท้องถิ่นต่อไป แต่บางคนเขาก็เชื่อว่าเป็นเพียงเรื่องแหกตา เพราะก็ไม่มีหลักฐานใด ๆ มายืนยันสิ่งที่เด็ก ๆ กลุ่มนี้เจอ และก็ไม่มีรายงานการพบเจอหรือปรากฏตัวอีก
16. ตำนานสิ่งมีชีวิตลี้ลับทั่วโลก : The Loveland Lizard
มนุษย์ กบแห่งเลิฟแลนด์ รูปร่างคล้ายมนุษย์แต่มีหน้า ขนาดใหญ่คล้ายกบ มีรายงานการพบเห็นในเลิฟแลนด์, และ เมืองโอไฮโอ(Ohio) ประเทศสหรัฐอเมริกา มีข่าวลือและรายงานกำลังเกี่ยวกับตัวมันมากมาย แต่ก็ยังไม่สามารถยืนยันการพิสูจน์ความเป็นจริงได้มันคือตัวอะไรกันแน่ โดยรูปร่างเด่นๆ เท่าที่ประมวลจากคำบอกเล่าคร่าวๆ ก็มีดังต่อไปนี้
มัน สูงประมาณ 3 หรือ 4 ฟุต, หนัก 50 ถึง 75 ปอนด์, หลังของมันมีผิวขรุขะ, ผิวหนังเปียกลื่น, เป็นไปได้ว่าหางมันจะสั้น, หัวและ หน้าเหมือนกบ หรือสัตว์เลื้อยคลานจำพวกกิ่งก่าหรือจิ้งจก
รายงานปรากฏตัวครั้งแรก เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มีนาคม1972 เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังการแล่น เรือตระเวณบนริมฝังแม่น้ำไมแอมอิแม่น้ำในเลิฟแลนด์, เมือง โอไฮโอ ทันใดนั้นพวกเขาก็พบสิ่งผิดปกติบนถนน ตอนแรกสิ่งที่พวกเขาพบเห็นมันน่าจะเป็นสุนัขมากกว่าแต่เมื่อดูใกล้ๆ กลับไม่ใช้อย่างที่พวกเขาคิด พวกเขาลดความเร็วของเรือ และเข้ามาดูสัตว์ตัวนั้นอย่างใกล้ๆ และช้าๆ แต่แล้วเจ้าสัตว์ตัวนั้นก็ลุกขึ้นมันวิ่งมุ่งไปทางทิศทางที่พวกเขาอยู่ แม้ตอนนั้นบนถนนเต็มไปด้วยน้ำแข็งแต่ความเร็วของมันไม่ลดลงเลยและไม่ลื่นหก ล้มด้วย แสดงให้เห็นว่ามันมีความสมดุลสูงสามารถยืนอยู่บนก้อนน้ำแข็งได้สบาย
จากนั้นเจ้าสัตว์ตัวนั้นก็เข้ามาใกล้เรือตำรวจสองนายนั้น พวกตำรวจหยุดเรือและแสงไฟสว่างหน้าเรือก็ส่องไปที่สัตว์ตัวนั้นและพวกเขา ต้องตะลึงกับสิ่งที่อยู่ข้างหน้า มันเป็นสัตว์ที่พวกขาไม่เคยพบมาก่อนรูปร่างเหมือนครึ่งคนครึ่งสัตว์หัวเป็น สัตว์ประหลาดที่ออกไปทางจิ้งจกหรือสัตว์เลื่อยคลาน แต่ไม่ทันทีเห็นอะไรมากกว่านี้ พวกเขาก็ชักปืนเพื่อยิงมัน มันเลยตกใจและก็หนีไปเข้าพุ่มไม้อย่างรวดเร็ว และก็หายไปในความมืด ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสองนายยืนยันชัดเจนว่าสามารถสิ่งที่เห็นมันไม่มี สุนัข มันเป็นสิ่งที่เขาไม่สามารถอธิบายมันคือตัวอะไรกันแน่
(รูปต้นไม้กินคน Ya-te-veo (“I see you”) ในความเชื่อของอเมริกากลาง
จาก Land and Sea โดย J.W. Buel 1887)
17. ตำนานสิ่งมีชีวิตลี้ลับทั่วโลก : ต้นไม้กินคน (Man-eating tree)
เรื่องของต้นไม้กินคนที่เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายนั้นมีที่มาจากข่าว เมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 19 ปี 1881 คาร์ล ลิช (Carl Liche) นักเดินทางชาวเยอมันได้เขียนจดหมายถึงหนังสือพิมพ์ South Australian Register เขาเล่าเรื่องเหลือเชื่อ ที่เขาท่องเที่ยวบนเกาะมาดากัสคาร์และได้พบการสังเวยมนุษย์ของเผ่าฮึมโกโด(Mkodo) ชนเผ่าที่อาศัยอยู่ในถ้ำ คนพวกนี้เป็นชนเผ่าล้าหลังที่ยังเปลือยกายอยู่ พวกเขาชวนคาร์กร่วมพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นก็พากันเดินเข้าไปในป่าทึบแล้วไปหยุดตรงที่โล่งตรงคุ้มลำธาร?ที่นั้นมีต้นไม้ประหลาดขึ้นต้นหนึ่ง ซึ่งพวกฮึมโดโดเรียกมันว่า เตเป (Tepe)
คาร์ล ลิช ได้พรรณนารูปร่างลักษณะที่พิลึกพิลั่นของมันว่า ลองนึกภาพสับประรดสูงแปดฟุตและ ใหญ่ตามสัดส่วน แต่เป็นสีน้ำตาลเข้ม ดูแล้วแข็งเหมือนเหล็ก ใบแปดใบย้อยลงมาจากลำต้น แต่ละใบยาวราวสิบเอ็ดฟุต และเรียวจนแหลม ใบสีเขียวคล้ำเหี่ยวห้อยและเหนียวมากเหมือนเสี้ยนโอ๊ก มีของเหลวใสรสหวานดื่มแล้วทำให้เมามายซึมออกมาที่แอ่ง กลางยอดมีมือพัน ยาวแปดฟุตสีเขียว มีขนยาวออกมาทุกทิศทุกทาง มีรยางค์สีขาวเกือบใสหกใบชูสูงขึ้นไปในอากาศ หมุนและบิดไปมาไม่หยุดนิ่ง แต่ก็ยังชูตั้งอยู่อย่างนั้น มันสูงห้าหกฟุต บางขนาดใบกก และอ่อนเหมือนขนนก
การเฝ้าของข้าพเจ้าถูกขัดจังหวะ ลงด้วยพวกพื้นเมืองที่เดินส่งเสียงไปรอบๆ ต้นไม้ด้วยน้ำเสียโหยหวน เขาท่องมนต์ที่ล่ามของข้าพเจ้าบอกว่าเพื่อขอลุแก่โทษปีศาจที่ยิ่งใหญ่ประจำ ต้นไม้ ขณะที่ยังคงกรีดร้องและท่องมนต์กระชั้นขึ้นนี้ พวกเขาก็ล้อมหญิงสาวคนหนึ่งใช้หลาวแหลมๆ จี้เธอ เธอไต่ขึ้นไปตามลำต้นอย่างช้าๆ?สีหน้าหมดหวังและขึ้นไปยืนอยู่บนปลายยอด ซิก! ซิก! (ดื่ม! ดื่ม!) เสียงคนร้องตะโกนบอก
เธอก้มลงดื่มน้ำเหนียวข้นในเบ้าแล้วยืนขึ้นใหม่ด้วยใบหน้าบ้าคลั่งและแขน สั่นระริก เธอทำเหมือนกระโดดลงมา แต่มิได้กระโดดต้นไม้กินคนที่เห็นนิ่งเฉยและดูเหมือนตายกลับมีชีวิตขึ้นมาอีก ครั้ง รยางค์ที่เรียวและบอบบางของมันสั่งระริกดั่งความโกรธเกรี้ยวของอสรพิษที่ กำลังหิวกระหาย อยู่เหนือตัวของเธอ แล้วเหมือนด้วยสัญชาตญาณของปีศาจ มันมัดเธอด้วยการรัดรอบคอและแขนรอบแล้วรอบเล่า
ขณะเดียวกันเสียงเกลียดร้องด้วยความหวาดกลัวของเธอก็ค่อยแผ่วลง กลายเป็นเสียงครางอึกๆ อักๆ มือพันที่ดูเหมือนงูสีเขียวตัวใหญ่พากันชูขึ้นและหดตัวรัดรอบเธอวงแล้ววง เล่า รัดแน่นๆ เข้าอย่างรวดเร็วและ?เหนียวแน่นเหมือนงูอนาคอนดารัดเหยื่อไม่มีผิดแล้ว ตอนนี้ใบใหญ่ๆ ของมันก็ค่อยๆ ยกขึ้นช้าๆ และแข็งขึ้น เหมือนแขนของปั่นจั่นยกตัวเองขึ้นบนอากาศ ขึ้นไปหาใบอื่นและปิดหุ้มรัดเหยื่อที่ตายแล้วด้วยพลังอันเงียบเชียบ เห็นโคนของใบไม้เหล่านี้เบียดเข้าหากันแน่นๆ เข้า มีของเหลวคล้ายน้ำผึ้งผสมเลือดไหลออกมาตามลำต้น พอเห็นดังนี้พวกคนป่ารอบๆตัวข้าพเจ้าก็ไชโยโห่ร้องออกมาอย่างบ้าคลั่ง วิ่งเข้าห้อมล้อมต้นไม้ ใช้ใบไม้ ใช้มือรองของเหลวมาดื่ม บ้างก็ใช้ลิ้นเลียจนมึนเมา จากนั้นก็มีพิธีกรรมที่อุจาด
ตามมาอีกจนไม่สามารถบรรยายได้ตามมา?ใบไม้ของ ต้นไม้ใหญ่คงอยู่ตำแหน่งตั้งขึ้นข้างบนแบบนั้นอยู่สิบวัน เมื่อข้าพเจ้ากลับมาในเช้าวันหนึ่งมันก็กลับตกลงเหมือนเดิม มือที่พันก็เหยียดยาวอย่างเดิม และนอกจากกะโหลกขาวที่ตกอยู่ที่โคนต้นแล้วก็ไม่มีอะไรอื่นเปลี่ยนแปลง
จดหมายฉบับนี้ ถูกส่งในนิตยสารภาษาเยอรมันชื่อ Graefe und Walther เมื่อปี 1878 หลังจากนั้นก็มีผู้แปลลงในหนังสือพิมพ์เมล์ที่ออกที่?เมืองมัทราส อินเดีย และลงในหนังสือพิมพ์เวิลด์ ของกรุงนิวยอร์ก และในนิตยสารรียิสเตอร์ของออสเตรเลียเมื่อ ปี 1880 ทำ ให้เรื่องของต้นไม้กินคน?กลายเป็นสนใจของสาธารณชน แต่พวกนักพฤษศาสตร์และนักสำรวจหลายคนไม่ยอมรับเรื่องนี้เพราะอ่านแล้วมัน เหมือนนิยายเกินไป?อีกทั้งคนชื่อลิชก็เป็นใครก็ไม่รู้ ทำให้เรื่องของต้นไม้กินคนจึงค่อยๆ เงียบหายไป
แต่นักวิทยาศาสตร์ก็ยังไม่ยอมเชื่อภาพ ถ่ายเหล่านั้น หาว่าเฮิร์สต์ทำปลอมขึ้นมา เพื่อพิสูจน์ความจริง เฮิร์สต์ได้เดินทางไปที่เกาะมาดากัสคาร์อีกครั้งแต่ทว่า คราวนี้ เขาไปลับไม่กลับมาอีกเลย ทำให้เรื่องของต้นไม้กินคนยังคงความลึกลับและน่าค้นหาจนถึงปัจจุบัน