Social :



ไม่ไว้หน้า! บุกค้นบ้าน ‘อดีตรัฐมนตรี’ ชื่อดัง พบเอี่ยว ‘นายทุนจีน’ เปิดผับมั่วยาในไทย

02 พ.ย. 65 17:11
ไม่ไว้หน้า! บุกค้นบ้าน ‘อดีตรัฐมนตรี’ ชื่อดัง พบเอี่ยว ‘นายทุนจีน’ เปิดผับมั่วยาในไทย

ไม่ไว้หน้า! บุกค้นบ้าน ‘อดีตรัฐมนตรี’ ชื่อดัง พบเอี่ยว ‘นายทุนจีน’ เปิดผับมั่วยาในไทย

เมื่อวันที่ 1 พ.ย. ที่สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.4 และเจ้าหน้าที่ บช.ปส. ร่วมกันแถลงผลการตรวจค้นสถานบันเทิง ผับ บาร์ บ้านพัก อาคารที่พัก และบริษัท ของนายทุน และนอมินีชาวต่างชาติ รวม 42 จุด ทั่วประเทศ เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา

โดย 1 ในจุดที่สำคัญ เป็นบ้านพักของนายเดวิด ซึ่งเป็นผู้บริหาร ผับชื่อดัง ‘เบบี้ เฟซ’ (Baby Face) อยู่ภายในซอยย่านสุขุมวิท 63 แขวงพระขโนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพ พร้อมยึดรถยนต์หรู จำนวน 3 คัน อาทิ ยี่ห้อเฟอรารี่ สีแดง 1 คัน รถยนต์โรซารอยด์ สีขาว จำนวน1 คัน และยี่ห้อแลมโบกีนี่ สีเหลือง จำนวน 1 คัน เพื่อไว้ตรวจสอบเอกสารความถูกต้องและตรวจยึดเอกสารสำคัญและสุราต่างประเทศและบุหรี่อีกหลายรายการ รวมถึงอาวุธปืนจำนวน 2 กระบอก


นอกจากนี้ได้เข้าตรวจค้นสถานบันเทิงหลายแห่ง ประกอบด้วย ร้าน Asgars ประชาอุทิศ ห้วยขวาง , ร้าน Booze ประชาอุทิศ ห้วยขวาง ,ร้าน Hollywood รัชดาฯ ห้วยขวาง ,ร้าน , K.Bangkok อาร์ซีเอ พลาซ่า ห้วยขวาง , ร้าน Space Plus อาร์ซีเอ พลาซ่า ห้วยขวาง ,ร้าน Joy luck อาร์ซีเอ พลาซ่า ห้วยขวาง , ร้าน Baby Face สุขุมวิท 62 เขตวัฒนา เพื่อหาหลักฐานมาประกอบการสืบสวนขยายผลสถานประกอบการ Top One และร้านจินหลิง และ Baby Face และ Club one พัทยา


พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า การตรวจค้นบ้านของนายเดวิด หรือ นายเดวิด
MulticollaC
หรือ ชื่อจีนว่า สุ่ย ไท่ เหว่ย ซึ่งเข้ามาอยู่เมืองไทยประมาณ 10 ปี แล้วยึดรถยนต์หรูและอาวุธปืน รวมทั้งสุราบุหรี่ และเอกสารต่างๆไว้ตรวจสอบ นอกจากนี้พบว่าในห้องพักมีร่องรอยการใช้ยาเสพติด จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าแต่งงานมีภรรยาเป็นคนไทย ลูกเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่งในประเทศไทย และนายเดวิด ยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์ สถานบริการที่ผิดกฎหมาย และประวัติที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดอีกด้วย

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เผยอีกว่า เบื้องต้นจับกุม นายเดวิด ในข้อหา “ช่วยซ่อนเร้นช่วยกันจำหน่ายฯ”ตามความผิดกฎหมายศุลกากร และความผิดเกี่ยวกับพระราชบัญญัติสรรพสามิต กรณียึดของผิดกฎหมายซึ่งประกอบไปด้วย รถยนต์และสุราผิดกฎหมาย ส่วนข้อมูลการซื้อรถยนต์ของนายเดวิด พบว่า นำเงินสดจำนวนหนึ่งไปฝากให้เพื่อนคนไทยซื้อ ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานว่า เข้าข่ายความผิดการกระทำลักษณะของกฎหมายฟอกเงินหรือไม่ ซึ่งนายเดวิดมีความเชื่อมโยง กับนายทุนจีน ที่ทำธุรกิจสถานประกอบการในพื้นที่ชลบุรี แต่ในส่วนของสถานประกอบการจินหลิง ตำรวจมีข้อมูลแล้วว่าผู้ใดเป็นเจ้าของ ซึ่งนายเดวิด ไม่ใช่เจ้าของจินหลิง


ส่วนกรณีร้านคลับวันพัทยานั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า ตำรวจพัทยา ขอหมายจับนายนิติพัฒน์ หรือ โกเอี๋ยว โชคชัยธนพร ที่อ้างว่าตำรวจรับส่วย โดยจับนายนิติพัฒน์ ได้แล้วและให้ตำรวจพัทยา ขยายผลอยู่เบื้องต้น พบว่ามีพฤติกรรมเป็นนอมินีทำธุรกิจแทน โดยตำรวจอยู่ระหว่างการขยายผลว่า มีการออกเอกสารจากกรมการปกครอง ให้กับนายนิติพัฒน์ ถูกต้องหรือไม่ และตำรวจจับเจ้าของ คือ นายหยู่ ฉาง เฟย ขณะเตรียมหลบหนีผ่านด่านไปยัง ประเทศลาว ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดมุกดาหาร ควบคุมตัวไว้สอบสวนขยายผลแล้ว


ซึ่งเบื้องต้นจะต้องตรวจสอบว่าตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเชียงใหม่ มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงหรือไม่ เนื่องจากพบว่าผู้ต้องหาขออนุญาตอยู่ในประเทศไทยในฐานะนักเรียน ซึ่งหากพบว่า ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองมีส่วนรู้เห็น หรือเอื้อผลประโยชน์ส่วนนี้ จะต้องมีการดำเนินการต่อไป

“อย่างไรก็ตามเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้นำหมายศาลเข้าตรวจค้นที่พักของ นักการเมืองไทย ที่เป็นอดีตรัฐมนตรีคนหนึ่ง แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายซึ่งยืนยันว่า ตำรวจจะให้ความเป็นธรรมทุกกรณีที่มีการพาดพิงถึง” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว


ขณะที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ มาร่วมรับฟังการแถลงข่าวและกล่าวชื่นชมการทำงานของตำรวจที่สืบสวนขยายผลหลังตัวเองเคยเปิดเผยข้อมูล กลุ่มนายทุนจีนที่ ทำธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศไทยอีกด้วย.

ขอบคุณที่มา       ข่าวเดลินิวส์

โพสต์โดย : ปลายน้ำ