แฉแก๊งเด็กช่างอุ้มคู่อริบังคับอมกล้วย มี 2 คนอยู่วงการบันเทิง จ่อออกหมายจับอีก 4

สำหรับความคืบหน้า เวลา 14.00 น. วันที่ 14 พ.ย.65 ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมด้วยครอบครัวผู้เสียหายและตัวผู้เสียหายทั้ง 3 ราย เข้าพบพ.ต.อ.เศรษฐพันธ์ ศรีสาคร ผกก.สน.หัวหมาก เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี พร้อมให้นำกำลังบุกค้นบ้านเรือนไทยหาหลักฐานเพิ่มเติม

ด้านนายทวีศักดิ์ คิ้วทอง ประธานศูนย์ความปลอดภัย กลุ่มอาชีวะศึกษา กทม. เปิดเผยว่า จากการพูดคุยกับผู้อำนวยการ 2 สถาบัน ทั้งย่านมีนบุรีและรามคำแหง พบมีกลุ่มนักศึกษาก่อเหตุเรียนอยู่ในพื้นที่มีนบุรี 3 คน และกลุ่มผู้เสียหายเคยเรียนอยู่ที่ย่านรามคำแหง 1 คน ส่วนวันเกิดเหตุถูกหลอกให้ไปปากซอยจุดเกิดเหตุ แล้วถูกมัดมือปิดตาอุ้มไปที่บ้านหลังเกิดเหตุ และถูกทำร้าย โดยหลังจากนี้จะหาทางแก้ไขปัญหานี้ต่อไป

ขณะที่พ.ต.อ.เศรษฐพันธ์ เปิดเผยว่า วันนี้ได้สอบถามข้อมูลจากผู้เสียหายเพิ่มเติม ก่อนวันที่ 15 พ.ย.จะประสานสหวิชาชีพเข้าสอบปากคำผู้เสียหายอีกอย่างเป็นทางการ เนื่องจากเป็นเยาวชน เพื่อจะนำไปประกอบกับพยานหลักฐาน ขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ที่ร่วมกันก่อเหตุเพิ่มอีก 4 ราย ซึ่งเป็นผู้ใหญ่อายุมากกว่า 18 ปีเพิ่มอีกจำนวน 3 ราย และออกหมายเรียกเยาวชนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี อีก 1 ราย หลังจากก่อนหน้านี้ออกหมายจับและหมายเรียกผู้ต้องหาทั้งเยาวชนและผู้ใหญ่ไปแล้วทั้งหมด 11 ราย รวมผู้ต้องหาที่ร่วมก่อเหตุทั้งหมดมี 17 ราย

พ.ต.อ.เศรษฐพันธ์ เปิดเผยว่า ตอนนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับที่เป็นผู้ใหญ่ได้แล้ว 3 ราย ยืนยันตำรวจจะดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทุกคน เบื้องต้น 3 ข้อกล่าวหาคือ กักขังหนุ่มเหนียว , ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง , ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนข้อหาอื่นๆ เช่นการเผยแพร่คลิปและอาวุธปืนต้องดูพฤติกรรมของแต่ละคนว่าใครทำหน้าที่ใดบ้าง และจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมในภายหลัง

พ.ต.อ.เศรษฐพันธ์ เปิดเผยว่า ส่วนอาวุธปืนคาดว่าจะถูกเคลื่อนย้ายหลังเกิดเหตุ ก่อนที่ตำรวจจะเข้าไปตรวจค้น แต่จะสืบสวนและติดตามกลับมาให้ได้ พร้อมระบุว่าบ้านหลังเกิดเหตุไม่ใช่ผู้มีอิทธิพล เพราะตำรวจได้จับกุมดำเนินคดีเกี่ยวกับก่อเหตุทะเลาะวิวาทและอาวุธปืนมาแล้วหลายครั้ง

ด้านแม่ของผู้เสียหาย เปิดเผยว่า การกระทำของผู้ก่อเหตุเป็นสิ่งที่มนุษย์ไม่ทำกัน เพราะเป็นสิ่งที่โหดร้ายและทารุณกับลูกของตนเอง ส่วนที่พ่อของผู้ก่อเหตุออกมาขอโทษและรู้สึกผิด ตนไม่เชื่อคำพูด เพราะตอนเกิดเหตุพ่อผู้ก่อเหตุก็อยู่ด้วย ทำไมถึงไม่รู้ว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น รู้สึกว่าเป็นเพียงแค่คำกล่าวอ้างเท่านั้น

ด้านทนายรณณรงค์ เปิดเผยว่า ตนต้องการให้ตำรวจเข้าไปตรวจค้นที่บ้านเรือนไทย เพราะเชื่อว่ายังมีอาวุธสงครามซ่อนอยู่อีกเยอะ และพรุ่งนี้จะนำเอกสารหลักฐานทั้งหมด ไปยื่นต่อพล.ต.อ.กต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผบ.ตร. เพื่อให้เข้ามาช่วยเร่งรัดคลี่คลายคดีนี้ด้วย เพราะมีผู้กระทำความผิดหลายคน และยังมีอาวุธปืนสงคราม

ทนายรณณรงค์ เปิดเผยว่า ตอนนี้ตนตั้งข้อสงสัยว่า อาวุธต่างๆ ทำไมเยาวชนที่เป็นแค่นักเรียนถึงหาซื้อได้ง่าย ตำรวจควรต้องกวาดล้างเรื่องนี้ ตนรับไม่ได้ที่น้องถูกอุ้มไปซ้อมทรมาน ทั้งที่ไม่รู้จักกันมาก่อน มองว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น แล้วยิ่งเป็นเยาวชนอยู่ด้วย อีกทั้งยังเห็นว่าควรแก้กฎหมายเยาวชนใหม่หรือไม่ เพราะทำผิดแล้วไม่ได้รับโทษ พ่อแม่ก็ไม่เห็นมารับผิดชอบ

ส่วนกรณีที่มีเคลื่อนย้ายอาวุธปืนของกลาง อาจเป็นเพราะกว่าผู้เสียหายจะไปแจ้งความ เรื่องก็ผ่านไปนานแล้ว เนื่องจากผู้เสียหายถูกข่มขู่ว่าหากไปแจ้งความจะมีการปล่อยคลิป ซึ่งระหว่างนั้นอาจจะมีสายที่รู้จักกับตำรวจ ที่ทำให้ผู้ก่อเหตุรู้ตัวก่อน และเคลื่อนย้ายของกลางไปที่อื่น แล้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจ รณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ โพสต์ข้อความระบุว่า เด็กช่างอุ้มคู่อริอมกล้วย มีเยาวชน 2 รายอยู่ในวงการบันเทิง

ขอบคุณที่มา  ข่าวสด