Social :



พอได้แล้ว “พิธา” มอง “ประยุทธ์” เหมือนยางหมดอายุ ขอลดการเมือง

26 พ.ย. 65 06:11
พอได้แล้ว “พิธา” มอง “ประยุทธ์” เหมือนยางหมดอายุ ขอลดการเมือง

พอได้แล้ว “พิธา” มอง “ประยุทธ์” เหมือนยางหมดอายุ ขอลดการเมือง

“พิธา” มอง “ประยุทธ์”เหมือนยางหมดอายุ ติงมองเห็นประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าประชาชน เรียกร้องรัฐบาลลดการเมือง บอกหารสูตรไหนก็ไม่กระทบก้าวไกล ขอบคุณ คนกทม. เทใจให้นั่งนายก
 

 
 

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการประเมินสเสถียรภาพรัฐบาลขณะนี้ ว่า เสถียรภาพรัฐบาลก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ รอยร้าวในรัฐบาลก็มีมานานพอสมควร ทั้งเรื่องการพูดคุยในสภา หรือสิ่งที่แสดงออกในพฤติกรรมถึงแม้จะมีการเจรจากันก็ตาม มีภาพนั่งคุยในทำเนียบฯ แต่รู้ว่าเป็นดาวคนละดวง เป็นนายกฯคนละครึ่ง ซึ่งหลังๆ ภาพออกมาชัดมากขึ้นพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเหมือนยางหมดอายุที่อยากต่ออายุไปอีก 2 ปี




 

ไม่รู้ว่าจะหาเสียงอย่างไร ซึ่งมีผลลัพธ์ต่อมาเรื่องการคำนวณส.ส.ที่กลับไปกลับมาอยู่ จะหาร 500 หาร 100 หรือกลับไปเป็นบัตรใบเดียวเหมือนปี 60 มองว่าเหมือนเป็นประโยชน์คนใดคนหนึ่งไม่รักษาสเสถียรภาพของระบบ ซึ่งสเสถียรภาพของระบบสำคัญกว่ากันเยอะ เพราะได้พูดคุยกันมาแล้ว ไม่ใช่ว่าใครบางคนรู้สึกเปลี่ยนใจอยากสกัดคนนี้อยากเพิ่มสัดส่วนคนนั้น

 

ตนคิดว่าประชาชนไม่ได้อยู่ในสมการเลย และหากเป็นแบบนี้เท่ากับเอาสมาธิไปจมอยู่กับสิ่งที่เป็นประโยชน์ของตัวเอง แต่ไม่มีความท้าทายของประชาชนที่เจออยู่ เพราะฉะนั้นอยากเรียกร้องให้รัฐบาลลดเรื่องการเมืองลง เพิ่มประชาชนมากขึ้น ให้มีสมาธิทำงานถึงแม้สภาจะมีเวลาไม่กี่เดือน ซึ่งพรรคก้าวไกลก็จะทำงานอย่างเต็มที่

 


ซึ่งการเมืองแบบก้าวไกลที่เราเอาเวลาไปทำให้กับประชาชนแทนที่จะมานั่งคิดว่าพรรคไหนย้ายไปไหน จะหาร 100 หรือหาร 500 ก็ไม่มีผลต่อการทำงานของพรรคก้าวไกล ส่วนการแยกทางกันของพล.อ.ประยุทธ์ กับพล.อ.ประวิตรเป็นเหมือนการแตกแบงก์พันจะยากต่อการทำงานของพรรคก้าวไกลหรือไม่นั้น นายพิธา ยืนยันว่า ไม่ได้มีผลกระทบต่อการทำงานของพรรคก้าวไกล พรรคก้าวไกลสู้ศึกเลือกตั้งในทุกกรณี เราพร้อมทำงานหาคนที่มีอุดมการณ์ ประสิทธิภาพมีนโยบายและเรื่องการบริหารพรรค ซึ่งจะมีผลกระทบกับพรรคเล็กและพรรคใหญ่ไปเลย แต่ไม่มีผลกระทบกับพรรคขนาดกลางที่กำลังเจริญเติบโตแบบพรรคก้าวไกล

 
MulticollaC

 

ซึ่งพรรคก้าวไกลยืนยันส่งผู่สมัครครบ 400 เขต โดยอุดมการณ์เรื่องความซื่อตรง ซื่อสัตย์ต่อพรรค ต่างจากตอนพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งตอนนั้นมีเวลาทำงาน และคัดเลือกน้อย ซึ่งตอนนี้ทำงานมาปีครึ่งมีการบริหารจัดการจากล่างขึ้นบน เพราะฉะนั้นมีทั้งประสิทธิภาพและอุดมการณ์อย่างแน่นอน และจากนี้ต้องเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.และนโยบายพร้อมกัน เพราะสภาเปิดจะมีเวลาเพียงแค่ เสาร์-อาทิตย์

 



ส่วนผลโหวตในพื้นที่กรุงเทพฯมีการสนับสนุนจากประชาชน นายพิธา กล่าวว่า ตนขอขอบคุณคนกทม. ปริมณฑล และหัวเมืองใหญ่ที่ให้การสนับสนุนพรรคก้าวไกลซึ่งเรื่องพวกนี้ตนมีคติว่า ตอนขึ้นอย่าหลง ตอนลงอย่าท้อ ซึ่งต้องยิ่งทำงานให้หนักขึ้นและซื้อใจประชาชนนอกพื้นที่ให้มากขึ้น การที่เป็นรัฐบาลได้ต้องมากกว่ากทม. ปริมณฑล ต้องเดินให้มากขึ้น

 

ซึ่งทำให้เรารู้ว่าเป้าหมาย ยุทธศาสตร์ของเราคืออะไร วิธีการปฏิบัติเป็นอย่างไร หากเรานิ่งและแน่นมันจะมากกว่าผลโพลล์ และที่สำคัญคือการลงพื้นที่การตอบรับในแต่ละพื้นที่มีคนสนใจมากขึ้นไม่ใช่แค่คนรุ่นใหม่ มองว่าความนิยมก็เป็นสิ่งสำคัญ แต่ความขยันและความมุ่งมั่นทำงานของพรรคและตนสำคัญมากกว่า หวังว่าหากมุ่งมั่นและขยันที่สุดไม่ใช่แค่นิยมที่สุดอย่างเดี๋ยวจะสามารถซื้อใจประชาชนที่เหลือที่ตนยังไม่ชนะได้

 

ส่วนการยุบสภาตนพร้อมตั้งแต่ 6 เดือนที่แล้ว เพราะมีกระแสมานานแล้ว เราก็ไม่ประมาททำงานมาเรื่อยๆ ส่วนมีการประเมินการยุบสภาจะเป็นช่วงไหนหรือเป็นไปได้หรือไม่นั้น นายพิธา ระบุว่า ส่วนใหญ่ตามหลักยุทธ์ศาสตร์จะยุบสภาเมื่อใช้งบประมาณหมด เมื่อย้ายข้าราชการครบ เขียนเขตให้ตัวเองได้ประโยชน์ หรือเมื่อตัวเองได้ผลประโยชน์มากที่สุด



 

ซึ่งตนมองว่าไม่มีความน่าจะเป็นเหล่านั้น อาจจะมีการแตกของรัฐบาลในเรื่องการเสนอกฎหมาย โควตารัฐมนตรีช่วยไปให้พรรคอื่น หรือทะเลาะกันจนไม่ได้ตัดสินใจอย่างมีเหตุมีผล ซึ่งอาจเป็นอุบัติเหตุทางการเมือง และหากวิเคราะห์ตรงไปตรงมาและมองว่ารัฐบาลไม่น่าจะได้ประโยชน์อะไรจากการยุบสภา

 


ขอบขอบคุณข้อมูลจาก:innnews

โพสต์โดย : monnyboy