นายกฯ เตรียมประชุมครม.จับตาอนุมัติมาตรการของขวัญปีใหม่ “ช้อปดีมีคืน-เราเที่ยวด้วยกันเฟส 5” สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ พร้อมลุ้นความชัดเจนปรับ ครม.
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ โดยมีบรรดารองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
โดยก่อนการประชุมพระคาร์ดินัลฟรังซิส เซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช ประมุขอัครสังฆมณฑลกรุงเทพมหานครและคณะ เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อขอบคุณในนามของพระศาสนจักรไทย ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล
จากนั้นนายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมและคณะผู้บริหาร เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อประชาสัมพันธ์โครงการแฟชั่นวีคผ้าไหมไทยนานาชาติ ครั้งที่ 3 ปี 2565
เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565, ด้านพล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด
อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ และคณะผู้บริหาร เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อประชาสัมพันธ์การจัดงานกาชาดประจำปี 2565
นอกจากนี้ ผู้นำเยาวชนและนิสิตนักศึกษาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้เข้าเยี่ยมคารวะและรับโอวาทจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ณ ห้องรับรอง 1 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล
สำหรับวาระการประชุมที่น่าสนใจ กระทรวงคมนาคม จะเสนอวาระพิจารณาโครงการพัฒนาสนามบินดอนเมือง ระยะที่ 3 วงเงิน 36,829.499 ล้านบาท (รวมสำรองราคาเปลี่ยนแปลงร้อยละ 10
ภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 7
และดอกเบี้ยระหว่างการก่อสร้าง 921.600 ล้านบาท) หากโครงการนี้ ผ่านการพิจารณา จะนำโครงการทั้งหมดมาออกแบบรายละเอียด ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 1 ปี จากนั้นช่วงปลายปี 2566 จะเริ่มกระบวนการเปิดประมูลโครงการ
คาดว่า การพัฒนาจะเริ่มแล้วเสร็จในปี 2569 ก่อน และจะเสร็จสมบูรณ์เต็มเฟสในปี 2572
ขณะที่กระทรวงการคลัง เตรียมเสนอที่ประชุมอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่แก่ประชาชน คือ มาตรการช้อปดีมีคืน ที่กำหนดให้สามารถนำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้า
และบริการมาลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนที่จ่ายจริงวงเงินสูงสุด 4 หมื่นบาท คาดว่า จะทำให้กรมสรรพากรสูญเสียรายได้กว่า 8.2 พันล้านบาท แต่จะส่งผลดีให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า
5.6 หมื่นล้านบาท กระตุ้นเศรษฐกิจได้กว่า 0.1-0.2%
ด้านกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เตรียมเสนอของบประมาณ 7,200 ล้านบาท ใช้ดำเนินโครงการ “เราเที่ยวด้วยกันเฟส 5” เป็นส่วนลดค่าเข้าพักในโรงแรม 40% อีก 60% ประชาชนจ่ายเอง
รวมถึงคูปองส่วนลดอิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 600 บาทต่อห้องต่อคืน ซึ่งหากมีการอนุมัติ ก็คาดว่า จะกำหนดการลงทะเบียนใช้สิทธิ เราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 จะเริ่มในช่วงเดือนม.ค.- มิ.ย. 2566
ส่วนความเคลื่อนไหวในประเด็นการเมืองยังคงต้องจับตาดูท่าทีของนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีพรรคร่วมรัฐบาลในการปรับคณะรัฐมนตรี ที่นอกจากพรรคประชาธิปัตย์ และการปรับเปลี่ยน
ในตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่มีกระแสข่าวว่าอาจจะมีการปรับพร้อมกันกับคณะรัฐมนตรีช่วงก่อนปีใหม่
